บทที่ 1 คุณโสกำมะลอ 1
ณ สถานบันเทิงชื่อดังย่านใจกลางเมืองกรุงเทพฯ
เป็นแหล่งรวมความสำเริงสำราญแบบครบวงจรที่บรรดาคนกระเป๋าหนักตบเท้าเข้ามาใช้บริการกันอย่างคับคั่งแทบทุกค่ำคืน ทั้งคาสิโน ไนต์คลับหรูหรา รวมถึงคนที่ต้องการปลอดปล่อยความตึงเครียดมาเกือบทั้งวัน
ภายนอกตกแต่งสไตล์โรมัน มีเสาสูงใหญ่สองต้นตั้งตระหง่านอยู่หน้าทางเข้าแสดงถึงความยิ่งใหญ่อลังการ รองรับหลังคาแบบโดมไล่ระดับ มีลักษณะลวดลายอ่อนช้อยแบบเฉพาะของโรมันเพิ่มความโดดเด่น เข้ากันอย่างลงตัวกับการตกแต่งภายในที่เน้นสไตล์หลุยส์ให้ความวิจิตรตระการตา
เฟอร์นิเจอร์ที่นำมาประดับทุกชิ้นล้วนเป็นคริสตัลนำเข้าจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นแชนเดอเลียร์ โคมไฟระย้า ชุดโซฟาหรือกรอบรูปที่เน้นสีทองเป็นหลักตัดกับพรมสีแดงเนื้อดีอย่างเหมาะเจาะ แสดงให้เห็นถึงรสนิยมเลิศหรูของผู้เป็นเจ้าของสถานบันเทิงแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
ในขณะที่บรรดาแขกเหรื่อซึ่งเป็นคนมีหน้ามีตาทางสังคม ทั้งผู้มียศศักดิ์ คนมีสี ราชการระดับสูง นักธุรกิจ เศรษฐี และดาราเซเลบกำลังสังสรรค์เฮฮากับเหล่าสาวสวยที่ทางไนต์คลับเลือกเฟ้นมาเป็นพิเศษ ถูกต้องตามกฎหมาย ทว่าสายตาคมกริบประดุจเหยี่ยวทะเลทรายที่ได้ชื่อว่าแสนดุร้ายและจอมพยศคู่หนึ่งกลับจ้องเขม็งไปยังหญิงสาวคนหนึ่ง...
หล่อนแต่งหน้าแต่งตัวจัดจ้าน ใส่ชุดเดรสรัดรูปแนบเนื้ออวดส่วนสัดเซ็กซี่ขยี้ใจ จนบรรดาเหล่าชายที่มาเที่ยวพากันมองตาค้าง น้ำลายสอ อยากจะสอยแม่สาวร้อนแรงเข้าห้องปฏิบัติกิจกามใจจะขาด พร้อมกับเกิดคำถามว่า
หล่อนเป็นใคร?
ท่าทางของหล่อนดูลุกลี้ลุกลนอย่างไรชอบกล...
เจ้าของร่างอวบอัดกลมกลึงหันซ้ายหันขวา สองตาคอยสอดส่องไปทั่วเหมือนสำรวจอะไรบางอย่าง ทีแรกหล่อนก็ชม้ายชายตาชวนเหล่าแขกเหรื่อชั้นสูงของเขาพูดคุยดีหรอก แต่พอถูกแตะเนื้อต้องตัวนิดๆ หน่อยๆ หล่อนก็สะบัดมือคู่กรณีออกเต็มแรง ชักสีหน้า แล้วรีบเผ่นแน่บไปทันที
ฌอห์น คาร์เตอร์ เจ้าพ่อคนดังผู้เป็นเจ้าของไนต์คลับสุดหรูแห่งนี้และอีกหลายแห่ง ยังไม่นับรวมคาสิโนในแถบทวีปเอเชียและอเมริกา เกิดสะดุดตาแม่สาวเซ็กซี่เข้าอย่างจัง ตั้งแต่หล่อนเหยียบเข้ามาในอาณาเขตของเขา
ไม่ใช่เพราะหล่อนสวยจัด…
มีหน้าอกหน้าใจ เอวเล็ก สเปกเขา…
หรือมีสะโพกผาย บั้นท้ายงอนงามน่าฟอนเฟ้น…
แต่พฤติกรรมของหล่อนนี่แหละที่น่าสงสัย!
เห็นแค่แวบเดียวก็รู้แล้วว่าหล่อนไม่ใช่คนในอาณัติของเขา ไม่ได้ทำงานที่นี่ ไม่ได้มีหน้าที่คอยปรนเปรอความสุขให้หมู่ชาย แม้หล่อนจะแสร้งทำตัวกร้านโลก แต่อาการหวงเนื้อหวงตัวมันบ่งฟ้องว่าหล่อนไม่คุ้นเคยและไม่ชอบเรื่องอย่างว่า เขาเลยมั่นใจว่า...
หล่อนไม่ใช่คุณโส (เภณี) ชั้นสูงแน่!
แล้วหล่อนมาทำอะไรในที่แบบนี้?
เป็นคำถามใหม่ที่ผุดขึ้นในหัว ก่อนจะคิดต่อไปว่า
หรือ...หล่อนจะเป็นสปายที่คู่แข่งส่งเข้ามาแฝงตัวเพื่อสืบ ‘ความลับ’ ของเขา!
ฌอห์นต้องการรู้คำตอบเป็นที่สุด ริมฝีปากหยักหนาได้รูปสวยจึงเอ่ยสั่งลูกน้องเสียงทุ้มลึกว่า
“ไปเอาตัวหล่อนมา”
“ครับ”
ลูกน้องหนุ่มโค้งศีรษะรับคำบัญชา ก่อนจะเดินหายออกไปจากห้องวี. ไอ. พี. เฉพาะผู้บริหารระดับเจ้าของด้วยความรวดเร็ว
เจ้าพ่อหนุ่มสายเลือดอเมริกันชนขนานแท้วัย 35 ปี กระตุกยิ้มเหี้ยม ด้วยความคิดที่ว่า
“เดี๋ยวก็รู้ว่า...หล่อนเป็นใครกันแน่!?”
โอ๊ยยย กลัวจนฉี่จะราดอยู่แล้ว!
ยายจุ๊บแจงเอ๊ย…
ยายบ้า! บ้าๆๆๆ แกสมองเสื่อมรึไง?
ถึงกล้าไปรับปากพี่เชษฐ์มาทำเรื่องระห่ำเสี่ยงตายแบบนี้!
ครีเอทีฟสาวผู้สวมมาดคุณโสกำมะลอกนด่าตัวเองเป็นวรรคเป็นเวร นึกอยากจะตีอกชกหัวตัวเองนัก ขณะยืนตัวสั่นงันงก หน้าตาเลิกลั่ก ทำอะไรไม่ถูก เหมือนเด็กน้อยที่เดินหลงเข้ามาในฝูงหมาป่าจอมตะกละตะกลาม
ที่จริงชีวิตของเธอนั้นแสนจะห่างไกลจากสถานที่แห่งนี้แบบสุดกู่ แทบจะไม่มีวันมาบรรจบพบกันได้เลย ถ้าไม่ใช่เพราะคำสั่งแกมขอร้องแบบสายฟ้าฟาดของผู้กำกับหนุ่มที่เป็นทั้งพี่ชายและเจ้านายของเธอว่า…
“จุ๊บแจง…แกต้องไปเป็นคุณโสเดี๋ยวนี้!”
จิดาภาจำได้ว่าตอนนั้น เธอสำลักกาแฟจนแทบพ่นใส่หน้าพี่ชาย ก่อนจะร้องถามเสียงหลง
“หา! พี่เชษฐ์พูดบ้าอะไรนะ?”
“แกช่วยพี่หน่อยน้า... ไม่งั้นคราวนี้พี่ตายแน่”
เจ้าตัวรีบยกมือไหว้ปลกๆ พร้อมกับนวดเฟ้นเธออย่างประจบ ขณะกล่าวออดอ้อนอย่างที่ชอบทำ เพราะรู้ดีว่าไม่แคล้วเธอจะต้องใจอ่อน
แต่...ไม่ใช่ครั้งนี้!
“นี่มันเรื่องคอขาดบาดตายสำหรับจุ๊บเลยนะพี่เชษฐ์ ให้ทำอะไรดันไม่ทำ ริจะให้น้องไปเป็นสาวขายบริการซะยังงั้น ไม่เป็นห่วงพรหมจรรย์ของน้องบ้างรึไง...ไอ้พี่บ้า!”
จิดาภาต่อว่าพี่ชายอย่างเหลืออด แต่อีกฝ่ายยังคงหน้าด้านยืนกรานขอให้เธอช่วย
“ก็ให้ไปทำจริงๆ ซะที่ไหนล่ะ... ฉันแค่ขอให้แกช่วยปลอมตัวไปหาข้อมูลให้ฉันหน่อย”