11

1591 คำ
ฌอนพาร่างสูงกว่าร้อยแปดสิบห้าของตนมานั่งตรงข้ามกับผู้จัดการหนุ่มของตนเองด้วยสีหน้าบูดบึ้ง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันยามเมื่อทรุดลงนั่งบนโซฟาตัวนุ่มแล้วรู้สึกเจ็บบริเวณสะโพกที่โดนถีบ ใบหน้าหล่อเหลาที่แก้มด้านขวาเป็นรอยนิ้วมือของรุจรวีที่นั่งเกาะแขนพี่ชาย ส่งสายตาอาฆาตให้เขาจนฌอนรู้สึกอยากจะจับร่างเล็กๆ มาจูบเสียให้ขาดใจ สั่งสอนในความปากดีที่ตอนนี้เจ้าตัวกำลังพูดเพื่อให้รวีวิทย์จัดการเขาให้หนักๆ ไม่หยุดปาก จนสุดท้ายรวีวิทย์ต้องบอกให้รุจรวีและศุภางค์ออกไปข้างนอกก่อนนั่นแหละ เจ้าตัวจึงหันมามองฌอน ความเงียบในห้องนี้ยังไม่เทียบเท่ากับความอึดอัดจากสายตาของรวีวิทย์ที่มองมาได้เลย สุดท้ายทนความอึดอัดไม่ไหวด้วยไม่ใช่วิสัยของตน ฌอนจึงถามผู้จัดการของตนอย่างหงุดหงิดว่า “พี่มีอะไรจะถามผมก็รีบๆ ถามเลย ผมติดธุระ” เจ้าตัวอ้างไปเช่นนั้น แต่มันก็จริงเพราะคืนนี้เขายังต้องทำงานด่วนที่ต้องรีบพิจารณา หากถ้าเขาช้า พ่อเขาอาจจะลงมาจัดการเอง...ฌอนไม่อยากจะคิดถึงตอนนั้นเลยจริงๆ ไม่ใช่ว่าเขาเข้ากับพ่อไม่ได้...แต่เพราะเข้ากันได้ดีเกินไปต่างหาก! พ่อถึงได้รู้เท่าทันเขาทุกอย่าง...แล้วตอนนั้นแหละ เขาจะถูกคุมเข้มพฤติกรรมทุกกระเบียดนิ้ว! แค่คิดว่าตนเองต้องเป็นเด็กดีของพ่อแม่แล้ว ซาตานตัวร้ายประจำบ้านก็ถึงกับปวดหัวตุบๆ เลยทีเดียว ฉะนั้นแม้จะยอมเป็นนายแบบชื่อดังแต่เขาก็ทำให้งานหลักของตนเองเสียไม่ได้โดยเด็ดขาด ซึ่งเรื่องเหล่านี้แม้แต่ผู้จัดการอย่างรวีวิทย์ก็ไม่รู้ ทำให้ทางรวีวิทย์รู้สึกขัดใจหลายทีที่เขาปฏิเสธงานใหญ่หลายงาน แต่ก็ไม่อยากบังคับ เพราะสัญญาที่ทาง วีเจโมเดลลิ่งเซ็นกับฌอนนั้นพิเศษกว่าของคนอื่น ทำให้ฌอนสามารถรับงานแต่เฉพาะที่เขาอยากทำเท่านั้น หากกระนั้นด้วยดวงหน้าหล่อเหลาสะดุดตา ท่วงท่าสง่าราวกับเจ้าชายผู้สูงศักด์ และลึกลับยิ่งกว่าปีศาจทำให้สาวๆ ณ เวลานี้ต่างหลงใหลนายแบบหนุ่มลูกครึ่งกันเป็นแถว “นายต่างหากฌอน มีอะไรจะอธิบายหรือเปล่าว่าทำไมนายถึงทำแบบนั้นกับรวี” รวีวิทย์ที่ใจเย็นลงนิดหนึ่งถามคนที่เขาดูแลเสมือนน้องชายคนหนึ่งเสียงเรียบ หากในใจยังคงกรุ่นโกรธ ว่าตอนรู้ข่าวฌอนออฟเด็กที่ไหนไม่รู้ก็ทำให้เขาปวดหัวพอแล้ว...แต่ไอ้เด็กที่ไม่รู้นี่ดันกลายมาเป็นน้องสาวตัวเอง หัวอกคนเป็นพี่แทบระเบิด รู้อย่างนี้ไม่น่ายอมปล่อยให้รุจรวีออกไปเที่ยวกลางคืนจนเจอกับเรื่องแบบนี้เลย หากมีคนจดจำน้องสาวของเขาได้ รวีวิทย์ก็ไม่รู้จะแก้ตัวเช่นไร แล้วอะไรก็ไม่ทำให้อกของคนหวงน้องร้อนไปมากกว่าภาพเมื่อครู่! ภาพที่ฌอนจูบรุจรวี! ฌอนได้ยินรวีวิทย์ถามอย่างนั้นก็เลิกคิ้วเข้มของตนเองขึ้น “แบบนั้นของพี่คืออะไร?” นายแบบหนุ่มลูกครึ่งถามอย่างยียวน “เรื่องข่าวกับน้องพี่ หรือเรื่องจูบเมื่อกี้” ดวงตารวีวิทย์ลุกวาวกับคำถามกวนประสาททั้งที่ตัวเองตั้งใจว่าจะใจเย็น “ทั้งสองเรื่อง!” เขาตวาดลั่น ฌอนเหยียดปากออกเป็นรอยยิ้ม “งั้นผมไม่มีอะไรจะพูด” “ฌอน!” “ทุกอย่างเป็นเรื่องบังเอิญทั้งนั้น ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายให้พี่ฟังยังไงเหมือนกัน ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมกลับบ้านก่อนแล้วกัน” ฌอนลุกขึ้นยืน รีบตัดบททันควัน อาศัยที่รวีวทิย์กำลังโกรธคิดอะไรไม่ออกชิ่งกลับบ้านก่อน ด้วยเชื่อแน่ว่าเมื่อไรที่รวีวิทย์อารมณ์เย็นลง เขาคงหาทางแก้เผ็ดเขาได้แน่ๆ ฉะนั้นฌอนจึงคิดว่า หากเขาไม่อยากถูกรีววิทย์เล่นงาน เขาต้องกวนโมโหอีกฝ่ายเข้าไว้ “ผมไปดีกว่า พรุ่งนี้เจอกันที่โรงแรม...แล้วกันพี่วิทย์” เขาเอ่ยชื่อโรงแรมชื่อดัง สถานที่ใช้จัดงานเปิดตัวน้ำหอมคอลเลกชั่นใหม่ของแบรนด์ดังแล้วรีบเดินตรงไปยังประตูทันที หากฝีเท้าของนายแบบหนุ่มก็หยุดชะงักเพราะคำพูดไล่หลังของผู้จัดการของตนเอง “ครั้งนี้ฉันจะไม่เอาเรื่องนายนะฌอน แต่ฉันหวังว่าต่อไปนี้นายจะไม่มายุ่งกับน้องสาวฉันอีก!” คนหวงน้องพูดเสียงเข้ม หากนายแบบหนุ่มในความดูแลกลับไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมามอง ทำเอารวีวิทย์กรุ่นโกรธกับท่าทางราวกับหยิ่งผยองและไม่คิดจะสนใจฟังคำห้ามของเขาจากฌอน แล้วยิ่งอีกฝ่ายไม่ตอบรับหรือปฏิเสธในสิ่งที่เขาพูด รวีวิทย์ก็ยิ่งระแวงและกลัวว่าฌอนจะมาทำให้น้องสาวของเขาต้องแปดเปื้อน! ฌอนเดินจากไปเงียบๆ ทำเหมือนไม่ได้ยินคำห้ามของรวีวิทย์ ซึ่งไม่รู้เสียเลยว่าสำหรับคนอย่างฌอน พาร์กเกอร์แล้ว สิ่งไหนที่ถือว่าเป็นของต้องห้าม...ยิ่งเย้ายวนสำหรับเขา! แล้วยิ่งกับยัยตัวเล็กคนนั้นด้วยแล้ว ดวงตาสีน้ำเงินเข้มทอประกายวาววับประหลาด ริมฝีปากหยักสีสดเหยียดยิ้ม ‘ร้ายๆ’ ออกมา ยิ่งดื้อ...ก็ยิ่งน่าปราบไม่ใช่หรือ! คราวนี้แหละ เขาจะทำทุกอย่างเพื่อมัดยัยตัวเล็กนั่นให้ได้ เอาให้รู้ไปเลยว่าคนอย่างเขา ‘ฌอน พาร์กเกอร์’ จะใช้เสน่ห์ของตนเองมัดใจผู้หญิงปากจัดคนนั้นไม่ได้! เกลียดเขาเข้าไป...โกรธเขาเข้าไป... แล้วเธอจะได้รู้รุจรวี...ว่าไอ้ฉายาคาสโนวาของฉันมันไม่ได้มีไว้เล่นๆ เท่านั้น! ---- ฝ่ายรุจรวีและศุภางค์ที่ถูกระเห็จให้ออกมาอยู่นอกห้องก็ได้แต่วนเวียนเฝ้าอยู่แถวหน้าประตูนั่นไม่ห่างนั่นแหละ แต่เพราะรัศมีของมันอยู่ไกลเกินกว่าที่เธอจะได้ยินว่าสองหนุ่มพูดอะไรกัน ซ้ำกระจกใสที่กั้นก็ทำให้เธอไม่ได้ยินเสียงอะไรเล็ดลอดออกมาเลยนอกจากสีหน้าเคร่งขรึมของทั้งสองฝ่าย ก่อนที่พี่ชายเธอจะลุกขึ้นยืนตามนายฌอนที่ลุกขึ้นหันหลังให้รวีวิทย์ หญิงสาวเขม่นมองพี่ชาย พยายามอ่านปากรวีวิทย์ว่าอีกฝ่ายพูดว่าอะไรแต่ก็ไม่ทันเพราะรวีวิทย์พูดเร็วเกินไป แล้วในขณะที่กำลังแปลงกายเป็นตุ๊กแกเกาะกระจกอยู่รอมร่อ ศุภางค์ก็มาลากตัวเพื่อนสาวของตนเองออกไปเสียก่อน สาวเปรี้ยวส่ายหน้าช้าๆ อย่างอ่อนอกอ่อนใจ พอมองหน้าเพื่อนแล้วจากเห็นใจที่มีข่าวก็เริ่มกลายเป็นขำผสมอยากรู้ว่าแท้จริงแล้วฌอนคิดอย่างไรกันแน่ถึงได้จูบรุจรวี แต่เชื่อเถอะว่าถ้าให้เธอถามเอาจากเพื่อน รุจรวีไม่มีทางตอบคำถามเธอแน่ๆ “แกเลิกเกาะกระจกเป็นตุ๊กแกได้แล้วรวี ยังไงเดี๋ยวแกก็ได้รู้เรื่องอยู่แล้วละน่า” ศุภางค์เอ่ยขึ้น รั้งแขนเล็กๆ ของเพื่อนเอาไว้ไม่ให้เจ้าหล่อนถลาไปเกาะติดสถานการณ์อีกรอบ “ขัดใจฉันจริงๆ เลยยัยแพม!” รุจรวีว่าเสียงเขียว แต่ยังเหลียวมองเป็นระยะๆ ทันเห็นฌอนเดินตรงมาทางเธอ หญิงสาวมองสบตาเขาไม่ยอมหลบเลี่ยง ดวงตาสีน้ำเงินคู่นั้นมันน่าเอานิ้วจิ้มให้ตาบอดเสียจริงๆ เลย! หญิงสาวคิดในใจแต่ปากก็ขยับพูดกับเพื่อนของตนเองไปด้วยว่า “แกดูพี่วิทย์สิ ทำไมไม่กระทืบหมอนี่อีกสองสามทีให้ติดดินไปเลยนะ! พี่วิทย์ยอมปล่อยหมอนี่ออกมาได้ยังไงกัน!” “แหม...” คนฟังลากเสียงยาว ชักหมั่นไส้ที่เพื่อนจ้องจะทำร้ายนายแบบคนโปรดของตน “แกก็อย่าใจร้ายไปเลยรวี ฉันว่าที่จริงคนที่เสียหายคือฌอนนะไม่ใช่แก รู้ไหมว่าแกโชคดีสุดๆ นะที่ได้สัมผัสริมฝีปากของฌอน โอ๊ย! นี่แกฟาดฉันทำไมยะ!” คนกำลังพร่ำเพ้อลูบแขนตนเองป้อยๆ มองเพื่อนตาขวาง ในขณะที่รุจรวีหน้าแดงก่ำ ทำตาขวางใส่เพื่อนไม่แพ้กัน “คนที่เสียหายคือฉันนี่ยัยบ้า!” หญิงสาวตบอกตนเองหนักๆ สองสามทีแล้วว่า “แกควรเข้าข้างฉันที่เป็นเพื่อนแกมากกว่าหมอนั่นนะ เมื่อกี้ก็เหมือนกัน ตอนพี่วิทย์จัดการหมอนั่นแทนที่แกจะเข้าข้างฉันแกกับไปช่วยไอ้บ้านั่น แกเป็นเพื่อนฉันอยู่รึเปล่ายัยแพม!” “เอาน่า...ใจเย็นๆ นะรวี ยังไงฉันซึ่งเป็นเพื่อนแกก็ย่อมต้องเลือกแกอยู่แล้ว แม้ฌอนจะเป็นนายแบบในดวงใจของฉันก็ตาม” “ไอ้แพม!” “อะไรอีกละ” ศุภางค์เอานิ้วออกจากหู ถามเสียงเหมือนรำคาญ แต่ในใจกลับรู้สึกขำ เธอไม่เคยเห็นยัยรวีมีท่าทางเกลียดใครมากๆ แบบนี้มาก่อนเลย สงสัยฌอนจะมีความสามารถพิเศษจริงๆ ที่ทำให้คนที่วันๆ ใช้ชีวิตเรียบๆ เรื่อยๆ ไม่เคยโกรธเกลียดใครสักทีอย่างรุจรวีรู้สึกแทบอยากจะฆ่าเขาได้ แน่นอนว่าเพื่อนที่แสนดีอย่างเธอไม่พลาดโอกาสเกาะติดสถานการณ์อยู่แล้ว!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม