หลักเจรจางานเสร็จ วีวิทย์ก็แยกกับเลขาสาวก่อนจะให้คนขับรถไปส่งยังคลับหรูใจกลางเมืองที่เขาเป็นหุ้นส่วน วันนี้วีวิทย์มีนัดกับน้องชายสุดที่รักที่ไม่ค่อยจะเต็มใจมานักเพราะไม่อยากห่างจากภรรยาของเขา
“เมื่อไหร่มึงจะเลิกลากกูมาซะที กูมีเมียที่ต้องเอาใจนะโว้ยยยย” คุณ อดีตน้องรหัสของเขาโวยวายไม่หยุด
“มึงเอาใจเมียทุกวันอยู่แล้ว มาหากูแค่บางวันยังจะทำเป็นบ่น”
“ไอ้พี่เหี้ย กูอุตส่าห์ดีใจที่มึงมีเมียเป็นตัวเป็นตน จะได้เลิกเป็นภาระกูสักที ที่ไหนได้หนักกว่าตอนไม่มีเมียอีก”
“น้อยๆ หน่อยไอ้น้องเหี้ย มึงต้องตอบแทนกูบ้าง ตอนมึงเสียผู้เสียคนก็มีแต่กูไม่ใช่เหรอที่คอยส่งข้าวส่งน้ำ”
“ก็ตอนนั้นกูยังเด็ก แต่ตอนนี้มึงโตเป็นควายแล้วนะ เมียก็มีเลิกทำตัวเป็นเด็กซะที”
คุณได้ทีเทศนาพี่ชายไม่หยุดเพราะเมื่อก่อนเขาก็เคยถูกวีวิทย์เทศนามา
“มันจะอะไรกันนักกันหนาวะชีวิตมึง”
“เฮอะ มันก็เหมือนติดคุกไง คนแบบนี้กูไม่ควรต้องแต่งงาน” วีวิทย์เอ่ยอย่างขมขื่นก่อนจะยกเหล้าเทลงคอ
“แต่มึงก็แต่งแล้ว เพราะฉะนั้นก็ทำหน้าที่ผัวซะที”
“...”
ผัวเหรอ…เอากันเฉยๆ ก็น่าจะได้ แต่ถ้าจะให้ทำหน้าที่แบบที่สามีเขาทำกันไม่มีวันซะหรอก
“กูถามมึงจริงๆ ถ้ามึงทุกข์นัก ทำไมมึงไม่บอกคุณปู่ตรงๆ”
“มึงก็รู้ว่าใครก็ขัดคุณปู่ไม่ได้”
“แล้วคุณเคทมีปัญหาอะไร กูไม่เห็นที่ติในตัวเธอเลยนะ”
“ผิดที่คิดจะมาเป็นเมียกูไง”
“ครับ ไอ้คุณวีวิทย์ หนุ่มหล่อ รวย _วยใหญ่ผู้เลือกได้ แต่กูอยู่ได้แค่สามสิบนาทีนะ จะกลับละ”
“มึงจะรีบกลับไปไหนวะ”
“มึงก็ควรกลับได้แล้ว เลิกคั่วผู้หญิงซะที มึงมีเมียแล้วนะ”
“ถ้าใครเห็นมึงอยู่กับผู้หญิงอื่น มีหวังได้ลงหน้าหนึ่งแน่ นักธุรกิจหนุ่มหล่อไฟแรงนอกใจเมีย อย่าให้กูต้องสอน”
“น้อยๆ หน่อย ไอ้น้องเหี้ย ตั้งแต่แต่งงาน กูก็เลิกเอากับคนอื่นแล้ว กูไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกนะ”
“ก็แหงล่ะ มึงล่อมากี่คนแล้วล่ะก่อนวันแต่ง”
“ก็ไม่ขนาดนั้น”
“รีบดื่มรีบกลับซะที กูคิดถึงเมีย อยากนอนกอดเมียจะแย่” คุณพูดยั่วโมโหหนุ่มรุ่นพี่ผู้เกลียดการผูกมัดเป็นชีวิตจิตใจ ชายหนุ่มเองก็ไม่รู้ว่ารุ่นพี่คนนี้มีปมอะไรนักหนา ถึงไม่ยอมคบกับใครแบบจริงจังสักครั้ง ที่ผ่านมาเขาแค่เล่นสนุกแล้วก็เฉดหัวทิ้งแต่ก็ดูเหมือนว่ากรรมกำลังตามสนองที่เขาต้องมาแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก
“เอาน่า อยู่ๆ กันไปก็รักกันเอง”
“ถ้ามึงไม่รู้จะปลอบใจอะไรก็ไม่ต้องพูดดีกว่า” วีวิทย์เอ่ยเซ็งๆ ก่อนยกเหล้าลงคอ
รักเหรอ…รักแบบคลุมถุงชนน่ะเหรอ…เฮอะ…ไม่มีวัน
เมื่อครบสามสิบนาทีแล้วสองหนุ่มก็แยกย้ายกันกลับไปบ้านของตน วีวิทย์กลับมาถึงเพนท์เฮาส์เกือบสี่ทุ่ม บ้านช่องมืดสนิท เป็นไปได้ว่าคุณภรรยาคนดีคงหลับไปแล้ว
เขาเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องนอนของตนก่อนจะออกมานั่งดื่มเหล้าดูรายการทีวีเรื่อยเปื่อย
…ตอนแรกที่เขาคิดว่าเคทหลับไปแล้วนั้นไม่ใช่ เป็นเวลาเกือบห้าทุ่มที่เธอเปิดประตูบ้านเข้ามาอย่างเงียบเชียบ
เมื่อเธอเห็นเขาก็เลิกลักเล็กน้อยเพราะไม่เคยกลับบ้านทีหลังสามี วีวิทย์เองก็ชำเลืองมองเธออย่างไม่ชอบใจนัก
…มื้อเที่ยงก็ไปกินข้าวกับผู้ชายแถมยังกลับบ้านซะมืดค่ำ
เคทที่เห็นท่าทางตึงๆ นั่นก็พยายามฝืนส่งยิ้มให้
…..รอยยิ้มนั้นช่างแตกต่างกับตอนที่เธออยู่กับผู้ชายคนอื่น
“ไปไหนมา” วีวิทย์เอ่ยถามเสียงเย็น
“ไปเยี่ยมคุณตามาค่ะ”
“กลับบ้านดึกดื่นแบบนี้ไม่เกรงใจกันเลยนะ”
“คะ อะไรนะคะ” เคทเอียงคอ เธอแทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าจะได้ยินประโยคนี้ออกจากปากคนที่กลับบ้านดึกเกือบทุกคืน
“ใครกันแน่ที่ไม่รู้จักเกรงใจคนอื่น” เคทสวนเบาๆ
“ว่าไงนะ”
“เปล่าค่ะ ไม่ว่าไง” เคทเอ่ยเซ็งๆ ก่อนจะเดินหนีชายหนุ่มเข้าไปในห้อง แต่ทว่าเขาก็เอ่ยบางอย่างขึ้นมาเสียก่อน
“วันนี้ไปกินข้าวกับใครมา”
“กินข้าว ข้าวเที่ยงเหรอคะ อ๋อเคทไปกับคุณชามา”
“โกหก”
“ไม่ได้โกหก” เคทหันไปจ้องตาสามีในนามอย่างไม่ลดละ
“ผู้ชายคนนั้นคือใคร”
“ผู้ชาย ผู้ชายไหน” เคทหรี่ตาลงพลางนึกถึงผู้ชาย
“อ๋ออออ คุณหนึ่ง คุณหนึ่งเป็นลูกค้าของเคทค่ะ”
“ลูกค้า ลูกค้าแล้วทำไมต้องไปกินข้าวกันสองต่อสอง”
“สองต่อสองที่ไหน คุณชากับคุณน้ำขิงก็ไปด้วย” เคทไม่อยากจะเชื่อว่าวีวิทย์จะชอบจับผิดคนอื่นได้ถึงขนาดนี้
“ฉันไม่สนหรอกนะว่าเธอจะทำอะไร ไปไหนกับใคร แต่จะทำก็อะไรช่วยรักษาหน้าฉันด้วย”
“ทีตัวเองออกไปเที่ยวกับทุกอาทิตย์อย่างกับคนไม่มีเมีย”
“ฉันไม่เคยไปกับผู้หญิง”
“คงเชื่อหรอก”
เคทสวนกลับเขาก่อนจะเดินหนีเข้าไปในห้อง
หญิงสาวทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างเซ็งๆ ไอ้พี่บ้านั่นไม่เคยเห็นใจใคร ใจดำ แถมยังชอบจับผิดอีกต่างหาก ไม่แปลกหรอกถ้าเคทจะอยากจบกับเขาเสียที
“จะบอกอะไรให้ ไม่ใช่แค่พี่หรอกนะที่อยากหย่า เคทก็อยากหย่าจะแย่” เคทพึมพำกับตนเอง
แล้วเธอก็ลุกไปอาบน้ำเพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนจะออกมานั่งที่โต๊ะทำงาน เธอหยิบกระดาษขึ้นมาวาดรูปผู้ชายคนหนึ่งแล้วก็เติมเขาเติมเขี้ยวให้ดูน่าเกลียด น่ากลัว
“ไอ้พี่บ้า”
“หล่อตายล่ะ”