“คุณตั้งสติแล้วฟังฉันนะ ฉันถูกบังคับให้ทำแบบนี้ ถ้าไม่ทำเขาจะฆ่าฉัน” พราวแพรวทราบดีว่าชายหนุ่มตรงหน้า ยังอยู่ในอาการมึนเมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ แต่เธอก็ยังหวังว่าเขาจะเชื่อเธอ
“ไม่ล่ะ ฉันขี้เกียจฟังนิยายน้ำเน่า เรามาสนุกกันดีกว่า ดราม่ามาเยอะแล้ว” ภารัณยังคงเข้าใจหญิงสาวผิด
“ถ้าฉันยอมคุณแล้วคุณจะพาฉันออกไปจากที่นี่มั้ย” พราวแพรวเอ่ยออกมาอย่างตัดสินใจ เธอค่อนข้างกังวลว่าหากเธอยอมผู้จัดการครั้งนี้ เขาอาจจะไม่มีสัจจะและให้เธอทำงานแบบนี้อีก
“ยังไงเสร็จงานเธอก็ต้องได้กลับบ้านอยู่แล้ว พูดอะไรพิลึก”
“ก็บอกแล้วไงว่าถูกบังคับให้ทำ ถ้าคุณไม่เชื่อฉันจะใช้ความบริสุทธิ์ของฉันเป็นการพิสูจน์มั้ยล่ะ ถ้าฉันยังบริสุทธิ์อยู่คุณต้องทำทุกอย่างตามที่ฉันขอ” พราวแพรวยื่นไม้ตายสุดท้ายที่เธอมีอยู่ เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่เธอพูดคือเรื่องจริง
“ได้สิ ฉันไม่มีอะไรที่ต้องเสียอยู่แล้ว บอกไว้เลยว่าถ้าเธอบริสุทธิ์จริงฉันแถมเงินให้อีกแสนเลย” ภารัณโคลงศีรษะและหลุดหัวเราะออกมาด้วยความขบขัน ผู้หญิงบริสุทธิ์เดี๋ยวนี้หายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรอีก แล้วในที่อโคจรแบบนี้ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เขาอยากจะหัวเราะให้ฟันหลุดเลยถ้าเธอยังบริสุทธิ์อยู่
“ได้ นอนกับคุณก็ยังดีกว่านอนกับคนอื่นแหล่ะ” พราวแพรวรำพึงด้วยความปวดร้าว
“งั้นก็มาถอดเสื้อให้ทีสิ ฉันขี้เกียจถอด” ภารัณเอ่ยตาปรือ ฤทธิ์แอลกอฮอล์มันยังคงควบคุมร่างกายของเขาอยู่
พราวแพรวตัดสินใจเดินเข้าไปหาชายหนุ่ม มือบางคว้าที่สาบเสื้อของชายหนุ่ม ก่อนที่เธอจะปลดกระดุมออกช้าๆ ตอนนี้คำว่าประหม่ายังน้อยไปสำหรับเธอ เพียงไม่นานอกกว้างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแห่งความแข็งแกร่งก็โผล่ออกมาอวดสายตาหญิงสาว ส่งผลให้เธอต้องเบือนหน้าไปที่อื่นด้วยความเขินอาย