“ฉันไม่ทำ ปล่อยฉันไปเถอะนะ” พราวแพรวร้องไห้อย่างไม่อาย
“หยุดร้องเดี๋ยวนี้” สิ้นเสียงคำรามอันน่ากลัว ผู้จัดการวัยดึกก็จ่อปืนไปที่ขมับของหญิงสาว เขาต้องการให้เธอรู้ว่าที่เขาพูดทั้งหมดมันคือความจริง
เมื่อพราวแพรวเห็นปืนจ้องมาที่ขมับของตนเอง หญิงสาวสั่นจนไม่สามารถควบคุมอาการได้ นาทีนี้การมีชีวิตรอดนั้นสำคัญที่สุด หญิงสาวจึงเอ่ยปากรับคำด้วยความหวาดกลัว ส่งผลให้ผู้จัดการวัยดึกแสยะยิ้มด้วยความพอใจ ก่อนที่เขาจะหันมาบอกรายละเอียดของงานแล้วเดินออกไปจากห้องด้วยความพอใจ
พราวแพรวยอมโอนอ่อนผ่อนตามผู้จัดการเพื่อเอาชีวิตรอด เธอหวังเพียงว่าแขกที่เข้ามาพบเธอจะมีเมตตากับเธอ แล้วช่วยพาเธอออกไปจากสถานที่แห่งนี้ หญิงสาวนั่งตัวสั่นราวกับลูกนกหลงรัง ผ่านไปพักใหญ่แขกของเธอก็ก้าวเข้ามาในห้อง
ชายหนุ่มรูปร่างสูงสง่า หน้าตาคมสันราวกับนายแบบตามปกนิตยสาร เดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่แดงกล่ำบอกอาการมึนเมาได้อย่างชัดเจน เขาเหล่ตามองหญิงสาวเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปนั่งที่เตียงใหญ่ จังหวะนั้นเองพราวแพรวรีบก้าวเข้าไปหาชายหนุ่ม
“คุณช่วยพาฉันออกไปจากที่นี่ได้มั้ยคะ” พราวแพรวเอ่ยเสียงสั่น
“ช่วยเหรอ ทำไมฉันต้องช่วยเธอ ในเมื่อเธอเต็มใจที่จะทำแบบนี้” ภารัณเอ่ยเสียงยานคาง
“ฉันไม่ได้เต็มใจนะคะ ฉันถูกบังคับมาได้โปรดช่วยฉันด้วยค่ะ” ร่างบางของหญิงสาวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว ชายหนุ่มผู้นี้คือความหวังสุดท้ายที่จะสามารถพาเธอออกไปจากที่นี่ได้
“ถูกบังคับเหรอ บอกตามตรงนะว่าเชื่อยาก ถ้าถูกบังคับไอ้ที่แต่งตัวแบบนี้ฉันว่าไม่ใช่มั้ง” ภารัณยังคงเอ่ยเสียงยานคาง เขามั่นใจว่าหญิงสาวผู้นี้ไม่ได้ถูกบังคับมาแน่นอน มารยาหญิงหลายร้อยเล่มเกวียน ยากแท้หยังถึง ผู้หญิงคนนี้คงงัดมันออกมาใช้เป็นอย่างแน่ แต่ที่เขาสงสัยคือว่าเจ้าหล่อนจะต้องการออกไปจากที่นี่ทำไม ในเมื่อมันคืองานของหล่อน
“ฉันถูกบังคับจริงๆ คุณช่วยพาฉันออกไปจากที่นี่เถอะ ให้ฉันกราบก็ยอม” หญิงสาววิงวอนชายหนุ่มด้วยน้ำตา ความหวังที่จะหลุดพ้นไปจากที่นี่มันน้อยลงเรื่อยๆ
“อย่ามากราบฉันเลย เราต่างคนต่างทำหน้าที่ก็จบแล้ว มัวแต่ดึงดราม่าอยู่นั่นแหล่ะ ฉันเห็นมาเยอะแล้วผู้หญิงแบบเธอ สุดท้ายก็ทำเพื่อโก่งราคาค่าตัว” ภารัณยังไม่เชื่อว่าสิ่งที่หญิงสาวพูดมันคือความจริง การที่เธอเข้ามาที่นี่เธอก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าเธอมาทำไม แล้วจะมาอ้างเหตุผลร้อยแปดให้เขาหงุดหงิดใจเพื่ออะไรกัน