ถ่านไฟเก่า

1684 คำ
ภูวิน... ขณะที่ผมเดินออกมาจากห้องเรียนพร้อมไอ้ต้อมจู่ๆก็มีเสียงใครคนนึงตะโกนเรียกชื่อผม "วิน!!!" "พี่เบลป่าววะไอ้วิน??" ไอ้ต้อมสะกิดถามเมื่อเห็นพี่เบลกำลังเดินมาทางผม "อืมใช่" "ดีใจจังที่วินยังไม่กลับว่าไงต้อมสบายดีมั้ยไม่เจอกันตั้งนานหล่อขึ้นนะเรา^^" พี่เบลหันมาทักไอ้ต้อม "คยมันหล่ออ่ะครับให้ทำไงๆได้ 5555ว่าแต่พี่กลับมาจากเมืองนอกตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเนี่ย" "กลับมาได้เกือบหนึ่งอาทิตย์แล้วล่ะ^^" "ว่าแต่พี่มาทำอะไรที่นี่อ่ะ" ผมถามพี่เบล ถามว่าพี่เบลคือใครพี่เบลคือผู้หญิงที่ผมเคยควงอยู่พักใหญ่ๆก่อนที่พี่เบลจะมาลาออกแล้วย้ายไปอยู่กับครอบครัวที่ต่างประเทศเพราะพ่อแม่พี่เบลเปิดร้านอาหารไทยที่โน่น จนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันก่อนผมเจอพี่เบลโดยบังเอิญตอนพาสาวไปซื้อของที่ห้างพี่เบลมากับเด็กผู้ชายตัวเล็กคนนึงอายุน่าจะประมาณขวบกว่าๆหน้าตาน่ารักมากแต่ทำไมผมรู้สึกว่าหน้าตาเด็กคนนี้เหมือนใครสักคนที่ผมรู้จักโดยเฉพาะแววตาของเด็กน้อยแต่นึกยังไงผมก็นึกไม่ออกแต่ช่างมันเถอะ จากนั้นเราก็เลยได้คุยกันผมก็เลยทราบว่าพี่เบลเพิ่งย้ายกลับมาเพราะมีปัญหากับครอบครัวพี่เบลก็เลยตัดสินใจพาลูกกลับมาอยู่ที่นี่กับลูกแค่สองคน "มาขอเอกสารการเรียนน่ะพี่ว่าจะเอาไปสมัครเรียนภาคพิเศษแล้วก็จะเอาไปสมัครงานด้วย" "อืมมแล้วได้หรือยัง" "อาจารย์ให้มาเอาอาทิตย์หน้าน่ะ" "แล้วลูกพี่ไปไหนล่ะ" ผมถามพี่เบลเพราะเห็นเธอมาคนเดียว "แกนอนอยู่โรงพยาบาล" "แกเป็นอะไร" "เมื่อคืนแกตัวร้อนมากสงสัยไม่ชินกับอากาศเมืองไทยอีกอย่างแกก็เป็นเด็กป่วยง่ายอยู่แล้ว นี่พี่ก็ขอพยาบาลออกมาหลายชั่วโมงแล้วพี่ขอตัวกลับก่อนนะกลัวลูกจะงอแงร้องไห้เพราะไม่เจอพี่" "แล้วนี่พี่มายังไง" "นั่งรถเมล์มาน่ะ" "งั้นเดี๋ยวผมไปส่งพี่ดีกว่า" "ไม่เป็นไรพี่เกรงใจ" "ไม่ต้องเกรงใจหรอกผมจะได้ไปเยี่ยมลูกพี่ด้วย" "อื้มมมขอบคุณนะวิน" "กูไปส่งพี่เบลก่อนนะไว้เจอกัน" ผมหันไปพูดกับไอ้ต้อมจากนั้นผมก็พาพี่เบลมาที่รถที่ลานจอดรถซึ่งอยู่หน้าตึกบริหาร พอผมเดินมาสายตาผมก็เหลือบไปเห็นปันปันเดินลงมาพร้อมกับเพลินเพื่อนสนิทของตัวเอง ผมทำเป็นไม่สนใจเพราะยังเคืองเรื่องที่ปันปันปิดบังผมอยู่ "เอ๊ะนั่นน้องปันปันเพื่อนวินหรือเปล่า" พี่เบลหันมาถามเธอคงเห็นผมหันไปมองปันปันพอดี "อืม" ผมตอบสั้นๆ ปันปัน.... "ปันแกเป็นไรอ่ะวันนี้ดูไม่ค่อยโอเคเลยตั้งแต่เช้าแล้วแกไม่สบายหรือเปล่า" เพลินถามฉันหลังเรียนคาบสุดท้ายเสร็จ "ปวดหัวนิดหน่อยอ่ะแกสงสัยเมื่อคืนนอนดึกตื่นเช้า" "ปวดหัวแล้วยังจะมาเรียนอีกนะแกเนี่ยทำไมไม่นอนพักผ่อนอยู่ที่บ้าน" "ไม่เอาอ่ะอยู่บ้านก็เหงาพ่อกับแม่ก็ไม่อยู่ไปทำธุระที่สิงคโปร์" "อืมๆ" "แล้วที่แกไม่สบายวินมันรู้ป่ะ" "ฉันไม่สบายทำไมวินต้องรู้ด้วย" "อ้าวก็ปกติเวลาแกป่วยหรือเป็นอะไรวินก็ต้องรู้ทุกครั้งป่ะ" "นั่นมันเมื่อก่อนแต่ตอนนี้ไม่ต้องรู้ทุกเรื่องก็ได้ป่ะ" "แหนะพูดแบบนี้งอนกันอีกแล้วอ่ะดิ" "งอนอะไรไม่มีโตๆกันแล้วไม่ใช่เด็กๆซะหน่อย" "แหมมมคำพูดกับสีหน้าของแกนี่ไปกันคนละทางเลยนะ" ยัยเพลินแซวฉัน "ตกลงแกจะไม่ให้ฉันไปบอกวินใช่ป่ะว่าแกไม่สบาย" "ไม่ต้องบอกถ้าแกบอกฉันจะโกรธแกด้วยอีกคน" ตั้งแต่วันนั้นที่โรงหนังฉันกับวินเราก็ไม่ได้คุยไม่ได้เจอหน้ากันเลยเพราะวินไม่กลับบ้านถ้าไม่อยู่คอนโดก็คงอยู่กับผู้หญิงสักคนกิจวัตรประจำวันของคุณชายวินก็มีอยู่แค่นั้นแล่ะ "โอเคๆจ้า" ขณะที่ฉันกับยัยเพลินกำลังเดินลงมาจากตึกเรียนยัยเพลินก็เอ่ยขึ้นเสียงดังจนฉันตกใจ "เห้ยยัยปันนั่นวินใช่มะว่าแต่กำลังควงสาวสวยที่ไหนขึ้นรถอ่ะหน้าตาคุ้นๆ" ยัยเพลินพูดพร้อมกับชี้ให้ฉันดูตรงลานจอดรถก็เห็นวินกำลังเปิดประตูรถให้กับสาวสวยหุ่นดีคนนึงซึ่งเธอไม่ได้สวมชุดนักศึกษาแต่ฉันก็รู้สึกคุ้นหน้าเหมือนที่ยัยเพลินคุ้น "อ่อฉันนึกออกแล้วพี่เบลไงดาวคณะอักษรที่ลาออกไปเมื่อสองปีก่อนไม่เจอตั้งสองปีพี่เบลยังสวยหุ่นดีเหมือนเดิมเลยนะแกว่ามั้ย" พอยัยเพลินเอ่ยชื่อฉันก็นึกออกทันที ผู้หญิงที่กำลังขึ้นรถไปกับวินเธอมีชื่อว่าพี่เบล พี่เบลกับวินเคยควงกันอยู่พักนึงก่อนที่พี่เบลจะลาออกจากมหาลัยเพราะต้องย้ายไปอยู่เมืองนอกกับครอบครัว ฉันจำได้ว่าพี่เบลเป็นผู้หญิงที่วินควงนานที่สุดในบรรดาผู้หญิงทุกคนตอนนั้นมีแต่คนอิจฉาพี่เบลเพราะวินดูเอาใจใส่พี่เบลมากกว่าผู้หญิงทุกคนที่เคยควง "ขึ้นรถไปด้วยกันแบบนี้ไม่ต้องเดาว่าถ่านไฟเก่ากำลังจะคุ" ฉันกับยัยเพลินยืนมองดูรถหรูของวินที่แล่นผ่านไป ไม่รู้ทำไมใจฉันถึงรู้สึกกระตุกวูบแล้วก็สั่นเมื่อเห็นภาพตรงหน้า "เพลินคนรถมารับแล้วขอตัวกลับบ้านก่อนนะแก พรุ่งนี้ถ้าไม่ไหวฉันขอลานะ" ฉันบอกยัยเพลินเมื่อลุงคนรถมาจอดรอรับ "โอเคพักผ่อนให้เยอะๆนะอย่าลืมกินยาด้วยล่ะ" "อื้มมม^^" ฉันยิ้มให้เพลินก่อนจะเดินขึ้นรถ .................................................... ภูวิน.... "พี่ไม่รบกวนวินมากเกินไปใช่มั้ย" พี่เบลหันมาถามผมหลังจากขึ้นรถแล้วขับออกมาจากมหาลัย "ไม่เลยพี่" ผมตอบกลับ "ขอบคุณนะวินดีกับพี่ตลอดเลย^^" พี่เบลยิ้มเศร้า เธอเศร้าแบบนี้มาตั้งนานแล้วล่ะชีวิตคนเรามันจะเศร้าอะไรขนาดนั้นผมก็ไม่เข้าใจ "แล้วตอนนี้เราจะไปโรงพยาบาลเลยใช่มั้ย" "อื้มม" "ถ้าผมจะขอแวะซื้อของเล่นกับขนมไปฝากเจ้าตัวเล็กจะได้มั้ย" "พี่เกรงใจ" "พี่เลิกพูดคำว่าเกรงใจสักทีจะได้มั้ยผมแม่งฟังแล้วโคตรเบื่อเลย" ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังเพราะพี่เบลจะเป็นคนที่ขี้เกรงใจมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว "พี่ขอโทษ" "กับผมพี่ไม่ต้องเกรงใจเข้าใจไหมคิดซะว่าผมเป็นน้องชายพี่ก็แล้วกัน" "อื้มมม" หลังจากนั้นผมก็แวะร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อขนมที่เด็กอายุขวบกว่ากินได้กับของเล่นเด็กผู้ชายที่คิดว่าแกน่าจะชอบจากนั้นผมก็ขับรถมาส่งพี่เบลที่โรงพยาบาลเพื่อมาเยี่ยมลูกชายของพี่เบล "หม่ามี้ ฮืออ อือออ" พอเปิดประตูเข้าไปเสียงเด็กน้อยก็ร้องไห้จ้าน้ำตานองเต็มสองแก้มเมื่อเจอหน้าผู้เป็นแม่ "โอ๋ โอ๋ ไม่ร้องนะครับคนเก่ง หม่ามี้กลับมาแล้วค่า" พี่เบลรีบเข้าไปกอดปลอบลูก "แกเพิ่งตื่นค่ะตื่นมาไม่เจอคุณแม่ก็ร้องไห้จ้าเลย" "ขอบโทษที่รบกวนนะคะแล้วก็ขอบคุณมากเลยนที่ช่วยดูแลแกให้" "ไม่เป็นไรค่ะมันเป็นหน้าที่ของพยาบาลอยู่แล้ว อ่อนี่ค่ะบิลค่ารักษาพยาบาลของน้อง" พยาบาลยื่นเอกสารมาให้พี่เบลแต่ผมเป็นคนยื่นมือไปรับเพราะพี่เบลยังคงอุ้มลูกอยู่ "ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอตัวก่อนนะคะถ้ามีอะไรกดเรียกได้เลยนะคะ" "ค่ะขอบคุณอีกครั้งนะคะ" พี่เบลไหว้ขอบคุณพยาบาลอีกครั้ง พอพยาบาลเดินออกไปจากห้องพี่เบลก็มาขอเอกสารในมือผมไปดู "สี่หมื่นห้าเลยเหรอเนี่ย เห้อออ" พี่เบลมีสีหน้าเป็นกังวลเมื่อเห็นบิลค่าใช้จ่าย "ถ้าพี่ไม่มีเดี๋ยวผมออกให้" "ไม่เป็นไรพี่พอมีน่ะแต่เงินเก็บพี่ก็คงไม่เหลือ แต่ไม่เป็นไรไว้พี่รีบหางานทำเอา" "แล้วตอนนี้พี่พักอยู่ที่ไหน" "พี่เช่าโรงแรมนอนชั่วคราวน่ะพี่คิดว่ารอให้ลูกหายดีแล้วพี่จะไปหาเช่าห้องหรือไม่ก็บ้านหลังเล็กๆอยู่เอาที่ไม่แพง" "เอางี้พี่ไม่ต้องไปเช่าห้องที่ไหนพี่ไปอยู่คอนโดผมก่อนก็ได้ผมมีคอนโดหลายห้อง" ผมบอกเพราะผมรู้สึกสงสารพี่เบลเธอเป็นเพียงผู้หญิงคนนึงที่ไม่มีที่พึ่งที่ไหน "แต่พี่ไม่อยากรบกวนวิน แค่วินช่วยจ่ายค่ารักษาให้ลูกพี่มันก็มากเกินพอแล้ว" "ผมบอกพี่ว่าไงเมื่อกี้" "แต่ว่า" "ไม่ต้องพูดแล้วตอนนี้พี่เอาเวลาดูแลลูกเถอะเรื่องที่อยู่เดี๋ยวผมจัดการให้พี่ไม่ต้องคิดมากเข้าใจไหม" "ขอบคุณนะวิน น้องบอสขอบคุณคุณอาวินสิครับ" พี่เบลบอกลูกชายตัวน้อยให้ไหว้ขอบคุณผมแกมีดวงตาที่เศร้ามากจนผมอดสงสารไม่ได้ "ขอบคุณค๊าบ" เด็กน้อยยกมือไหว้ทั้งที่น้ำตายังนองหน้า แต่ทำไมเวลาผมมองหน้าเด็กน้อยผมก็ยิ่งคุ้นวะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม