หลังจากที่ค่ำคืนอันแสนหวานจบลงไป ลลินก็ตื่นขึ้นมาด้วยความเมื่อยล้า ก่อนที่หญิงสาวจะแกะมือหนาที่กอดเอวเธอไว้ เพื่อที่เธอจะลุกไปแต่งตัว เธอภาวนาอย่าให้ชายแดนรู้สึกตัว แต่สิ่งที่เธอภาวนานั้นกลับไม่เป็นผล ชายหนุ่มลืมตาทันทีที่หญิงสาวแกะมือของเขาออกจากเอวบางของเธอ
“จะไปไหน” ชายแดนเอ่ยขึ้นเสียงเบา ปลายจมูกยังสูดดมความหอมจากเรือนผมนุ่ม
“ก็กลับบ้านน่ะสิ ปล่อยเราได้แล้วแดน แค่นี้เราก็อายจะแย่แล้ว” ลลินเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกอาย ตอนนี้สติสัมปัชชัญญะกลับมาครบถ้วน สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่ใช่ความฝัน แต่มันคือเรื่องจริง เธอยั่วยวนชายแดนจนเขาทนไม่ไหว แล้วอย่างนี้เธอจะมีหน้ามองหน้าเขาได้อย่างไร
“เดี๋ยวก่อนสิคุยกันก่อน” ชายแดนคว้าตัวหญิงสาวไว้ในอ้อมกอดอีกครั้ง
“ไม่มีอะไรต้องคุยหรอก แดนไม่ผิด เราผิดเองที่ยั่วแดน ถือว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นแล้วกัน” ลลินเกิดรู้สึกอายขึ้นมาอย่างมาก ทั้งที่ตอนแรกเธออยากครอบครองชายหนุ่ม แต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่าการกระทำของเธอมันน่าอายเหลือเกิน เพื่อให้ได้ตัวชายหนุ่มเธอถึงกับเขาตัวเข้าแลกเลยหรือ
“เราก็ผิดที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ ในเมื่อเรื่องมันเลยเถิดขนาดนี้แล้ว เราก็ต้องคบกันแล้วมั้ยลิน” น้ำเสียงของชายหนุ่มรวบรัดตัดตอนทันที
“อะไรนะ เราไม่อยากผูกมัดแดนด้วยวิธีนี้หรอก แต่ก็ลองดูก็ได้” ลลินเอ่ยอย่างเขินอายหลังจากได้ยินคำกล่าวของชายหนุ่มเมื่อสักครู่
หลังจากที่ได้ยินคำตอบของหญิงสาว แทนที่ชายหนุ่มจะปล่อยเธอให้ไปอาบน้ำแต่งตัว เขากลับจัดการรักหญิงสาวอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้มันเต็มไปด้วยความสุข หญิงสาวปล่อยหัวใจให้ล่องลอยไปกับชายหนุ่ม เธอและเขาสอดประสานเพลงรักกันอยู่ร่วมหนึ่งชั่วโมง ก่อนที่เขาจะจำใจปล่อยร่างบางให้ลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วเตรียมพาเธอไปส่งที่อพาร์ทเม้นท์ของเธอ
รถยนต์หรูเคลื่อนออกมาจากอพาร์ทเม้นท์ของชายหนุ่ม ก่อนที่จะมาหยุดอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์ของหญิงสาว ความรู้สึกของชายหนุ่มตอนนี้มันเต็มไปด้วยความรู้สึกมีความสุขอย่างที่ชายหนุ่มไม่เคยเป็นมาก่อน
“คืนนี้เรามานอนที่นี่ได้มั้ย” ชายแดนเอ่ยออกมาด้วยแววตากรุ้มกริ่ม
“จะหื่นเกินไปแล้วนะแดน” ลลินดุชายหนุ่มทันที