ตอนที่ 1 ฝันร้าย

1488 คำ
"เจ็บ" "....." "อย่าทำนะ" 'ณภัทร' ที่กำลังนอนอยู่ก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา เพราะได้ยินเสียงคนข้างกายกำลังละเมออยู่ ชายหนุ่มจึงขยับลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับปลุกแฟนสาวอย่าง 'มิชา' ให้ตื่นจากฝันร้าย "มิครับ" "อย่าทำแบบนั้น กลัวแล้ว" "มิตื่นครับ มิตื่น" ณภัทรพยายามใช้มือสะกิดแฟนสาวให้ตื่น ซึ่งเธอก็ไม่ยอมตื่นสักที จนจิตใจเขาว้าวุ่นไปหมด เพราะอาการฝันร้ายของแฟนสาว เกิดจากเรื่องราวในอดีตที่ฝังใจเธอมา "อย่าทำกะ...กรี๊ดดด (มิชา) / มิครับ (ณภัทร)" ทำยังไงมิชาก็ไม่ยอมตื่นสักที ณภัทรจึงเขย่าอย่างแรงจนคนที่นอนอยู่สะดุ้งพร้อมกับลืมตาขึ้นมา โดยมีน้ำตาร่วงไหลรินลงอาบแก้ม ชายหนุ่มจึงใช้มือเช็ดซับออกเบา ๆ ด้วยความอ่อนโยน "ไม่เป็นอะไรนะ มิก็แค่ฝันร้าย" "ภะ...ภัทร ฉันกลัว" มิชาขยับมากอดเขาแน่น ทั้งที่มีอาการสั่นกลัวอยู่ "....." "ฉันฝันร้ายอีกแล้ว" หญิงสาวพูดทั้งที่ร้องไห้อยู่ด้วยความกลัว เพราะสิ่งที่ตัวเองฝันนั้นมันเคยเกิดขึ้นจริงในอดีตของเธอ เนื่องจากตอนเด็กมิชาเป็นเด็กกำพร้า ซึ่งอาศัยอยู่ที่มูลนิธิที่มีเด็กแบบเธออาศัยอยู่ค่อนข้างเยอะ และเธอก็ตัวเล็กมาก ทำให้โดนแกล้งสารพัดบ่อย ๆ จนจำฝังใจ แต่เมื่ออายุได้แปดขวบ ก็โชคดีมีสองสามีภรรยาคู่หนึ่งได้รับเลี้ยงมา ซึ่งภรรยาเป็นคนไทย ส่วนสามีเป็นคนเยอรมัน โดยพอทำเอกสารทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกท่านก็พาเธอไปอยู่ต่างประเทศจนถึงอายุสิบแปด เนื่องจากธุรกิจที่พวกท่านทำส่วนมากอยู่ที่นั่น และพอเธอจบมอปลายแล้ว หญิงสาวก็ตัดสินใจกลับมาอยู่ที่ประเทศไทย เพราะมันก็เป็นประเทศบ้านเกิดของเธอตัวเอง ไม่ใช่เธอไม่ชอบชีวิตที่เยอรมันนะ เธอชื่นชอบที่นั่นมาก แต่เธอชอบบรรยากาศที่ประเทศบ้านเกิดของตัวเองมากกว่า เพราะช่วงที่ไปอยู่เยอรมัน แม่บุญธรรมก็จะพาเธอมาเยี่ยมคุณตา คุณยายอยู่เป็นประจำทุกช่วงที่เธอปิดเทอม มิชากลับมาอยู่คนเดียว เพราะพ่อกับแม่ก็ยังมีธุรกิจที่ต้องสะสางอยู่ นาน ๆ ทีพวกท่านถึงจะได้กลับมาเยี่ยมบ้าง โดยส่วนมากเธอมีเวลาจะกลับไปเยี่ยมพวกท่านเองมากกว่า ส่วนบ้านคุณตาคุณยายก็อยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเลย "ไม่ต้องกลัวนะ มันผ่านมาแล้วครับ" ณภัทรปลอบแฟนสาวทั้งที่เธอสะอื้นยังไม่หาย ชายหนุ่มยื่นมือไปหยิบทิชชูมาเช็ดซับเหงื่อตามกรอบหน้าให้คนรัก "ดูสิเหงื่อเต็มหน้าไปหมดเลย" "ฉันกลัว" "ผมรู้ครับ ผมรู้ว่ามิกลัว" เพราะมิชาเคยเล่าเรื่องที่เคยเจอให้เขาฟังบ่อย จนชายหนุ่มโกรธแค้นมาก อยากไปจัดการคนที่เคยทำหญิงสาวให้หมด แต่เพราะว่าเรื่องมันเกิดนานมาแล้ว คนพวกนั้นก็หายสิ้นกันไปหมด การตามตัวก็ค่อนข้างลำบาก "ดีขึ้นยังครับ" หลังจากนั่งปลอบกันมาเกือบครึ่งชั่วโมง เขาก็ถามคนที่นั่งคร่อมตักเขาอยู่ "ดีขึ้นมากแล้ว" ทั้งที่บอกว่าดีขึ้นแล้ว แต่มิชาก็ยังซบที่บ่าชายหนุ่มอยู่ "หิวข้าวไหมครับ" "ตอนนี้กี่โมงแล้ว" "เจ็ดโมงเช้า" "วะ...วันนี้ขอไม่ไปเรียนได้ไหม" "ยังไม่ดีขึ้นเหรอ ไหนบอกผมว่าดีขึ้นแล้ว" "ดีขึ้นแล้ว แต่แค่ไม่อยากไป แล้ววันนี้มีเรียนแค่คาบเดียวเอง" "ไม่ไปก็ไม่ไปครับ เดี๋ยวผมก็จะขาดด้วย" "ฉันอยากขาด นายไม่ต้องมาขาดด้วยหรอก" "ผมอยากอยู่กับมิ" "ก็ได้ งั้นขอไปล้างหน้าแปรงกันก่อน" มิชาขยับตัวลงจากเตียงนอน แล้วรีบเดินเข้ามาในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าแปรงฟัน โดยใช้เวลาภายในห้องน้ำไม่นาน หญิงสาวก็เดินกลับออกมา ก็เห็นแฟนหนุ่มที่กำลังทำอาหารเช้าอยู่ "ทำอะไรเหรอ" เธอเดินเข้าไปใกล้ ๆ แฟนหนุ่มเพื่อมองสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ "ข้าวต้มกุ้งครับ ผมว่าได้ซดอะไรร้อน ๆ น่าจะดี เลยเลือกที่จะทำ" "ไม่เห็นต้องลำบากเลย สั่งเอาง่ายกว่านะ" "ไม่ลำบากเลยครับ" ณภัทรก้มลงมาจูบบริเวณหน้าผาก ซึ่งเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังขยับเข้าไปกอดเขาไว้แน่น "แล้วใกล้เสร็จยัง" "ผมปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ แต่เดี๋ยวรอเดือดอีกสักหน่อยก่อน" "งั้นนายก็ไปล้างหน้าแปรงฟันสิ เดี๋ยวฉันดูหม้อข้าวต้มให้" "ครับ งั้นเดี๋ยวผมไปจัดการตัวเองก่อนนะ ฝากด้วยนะครับเบบี๋" ณภัทรดึงมือแฟนสาวที่กอดเอวตัวเองออก แล้วหันมาจ้องมองเธอ "ก็ไปสิ จะมายืนจ้องทำไม" ชายหนุ่มยิ้มให้กับแฟนสาว แล้วรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำ มิชาพอเห็นแฟนหนุ่มเดินผ่านไปแล้ว หญิงสาวก็ก้มลงดูหม้อข้าวต้มที่เดือดปุด ๆ "น่ากินจังเลย" เธอบ่นพึมพำ พร้อมกับขยับมาหั่นผักชีไว้โรยหน้า ครืด! ครืด! ซึ่งขณะที่กำลังหั่นผักชีอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของตัวเองที่ดังสั่นอยู่ในห้องนอน หญิงสาวจึงรีบวางสิ่งที่ตัวเองทำลง แล้วเดินเข้าไปในห้องที่มีโทรศัพท์ของตัวเองดังสั่นอยู่ พอเดินมาถึงเธอก็ก้มลงหยิบขึ้นมาดู ก็พบว่าเป็นเบอร์ของเพื่อนสาวอย่าง “เฟื่องฟ้า” มิชาจึงรีบกดรับสายทันที (วันนี้ฉันขาดนะ พอดีปวดหัวนิดหน่อย) โดยที่เธอยังไม่ได้พูดอะไรออกไป ปลายสายก็พูดแทรกเข้ามา "ฉันก็ว่าจะไม่ไปเหมือนกัน แต่เห็นว่ามันเช้าอยู่ก็เลยไม่ได้โทรบอก" (อ้าว! เป็นอะไร) "ปวดหัวนิดหน่อยเหมือนกัน ก็เลยว่าจะหยุดสักวัน" (อ๋อ อย่าลืมกินยาล่ะ) "โอเค เธอก็เหมือนกัน" (แค่นี้ก่อน ดินเรียกไปกินข้าวแล้ว) พอเฟื่องฟ้าพูดแบบนั้นก็กดตัดสายไปเลย เธอจึงวางโทรศัพท์ลงที่เดิม แล้วเดินกลับออกมาที่ห้องครัว โดยพอเห็นข้าวต้มในหม้อได้ที่แล้วก็กดปิดเตาแก๊ส พร้อมกับหยิบผักชีและต้นหอมที่ซอยเตรียมเอาไว้มาโรยลงหม้อ พรึบ! ขณะที่กำลังตักข้าวต้มใส่ถ้วยอยู่นั้น ก็รู้สึกถึงแรงกอดจากด้านหลัง เธอจึงหันไปยิ้มให้กับคนกอดตัวเอง "จะมากอดทำไม อึดอัด" "ก็แฟนผมน่ากอดไง ไปนั่งเถอะครับเดี๋ยวผมทำต่อเอง" "ไม่เอา นายนั่นแหละไปนั่ง นายทำอาหารแล้ว เดี๋ยวฉันจะทำหน้าที่เสิร์ฟเอง" "โอเคครับ" ณภัทรเดินไปนั่งลงที่โต๊ะ ส่วนเธอพอตักข้าวต้มเสร็จเรียบร้อยแล้วก็รีบเอาไปเสิร์ฟเขา และเราก็ลงมือกินทันที "วันนี้เราทำอะไรกันดี" หลังจากที่นั่งกินมาสักพัก แฟนหนุ่มของเธอก็พูดขึ้นมา ซึ่งเธอก็ส่ายหน้าไปมาเพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีเหมือนกัน "ไปดูหนังที่ห้างกันไหม" "ไม่ ฉันไม่อยากออกไปไหน" เพราะวันนี้ที่อยากหยุด เธออยากนอนอยู่ที่ห้องมากกว่า "งั้นเราดูหนังที่ห้องกันก็ได้ เหมือนว่าวันนี้จะมีเรื่องใหม่เข้าเน็ตฟลิกซ์ด้วย" "เอาแบบนั้นก็ได้ งั้นรีบกินกันเถอะ" เธอพยักหน้า แล้วนั่งกินข้าวของตัวเองต่อ ซึ่งหลังจากที่เรากินเสร็จกันแล้ว เธอก็อาสาเป็นคนล้าง โดยพอล้างเสร็จก็รีบเดินมานอนลงด้านข้างที่ตอนนี้มีแฟนหนุ่มของเธอกำลังนอนดูโทรทัศน์อยู่ "ขอกอดได้ไหม" พอนอนลง เธอก็อ้อนอยากกอดเขา "ได้สิครับ ผมเป็นของมิอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตหรอก" ณภัทรดึงแฟนสาวเข้ามากอดตามที่เธอต้องการ "หนังผีเหรอ" "ครับ" "ทะ...ทำไมไม่บอกก่อนล่ะว่าหนังผี" "ก็มิไม่ได้ถามนี่นา" ณภัทรทำหน้าทะเล้น ซึ่งเธอก็รู้ได้เลยว่าเขากำลังแกล้งเธออยู่ เนื่องจากชายหนุ่มรู้ดีว่าเธอค่อนข้างที่จะกลัวหนังประเภทนี้ "เดี๋ยวจะโดนตีเลย" ถึงจะแค่พูดขู่ แต่เธอก็ใช้มือเรียวเล็กของตัวเองตีไปที่หน้าอกของเขาอย่างไม่แรงมาก ซึ่งอีกฝ่ายแทนที่จะเจ็บ แต่เขากลับหัวเราะออกมาแทน "ไอ้บ้าภัทร เดี๋ยวจะโดนมากกว่านี้"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม