Chapter 4

1489 คำ
@บ้านตระกูลไฉ รถเก๋งคันเล็กขับเข้ามาจอดบริเวณบ้านทรงจีนโบราณห้าชั้น โดยที่ชั้นหนึ่งและชั้นสองแบ่งเป็นออฟฟิศของต้าเหนิงดีไซน์ ส่วนชั้นสามถึงห้าเป็นที่พักอาศัยของคนในบ้าน วิกกี้เดินเข้าไปยังตัวบ้านและตรงไปยังห้องทำงานประมุขของบ้าน ป้ายหน้าห้องระบุไว้ว่า ประธานกรรมการ บริษัท ต้าเหนิงดีไซน์ จำกัด มือเรียวเล็กยกมือเคาะประตูห้องสองสามครั้ง ก่อนที่จะผลักเปิดประตูเข้าไป แล้วเดินเข้าไปในห้อง “สวัสดีค่ะคุณลุง” วิกกี้ยกมือไหว้คนในห้องอย่างนอบน้อม ก่อนจะนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ข้างหน้าโต๊ะทำงานไม้ตัวใหญ่ “เป็นยังไงบ้างลูก ได้งานโพรเจกต์จากดีแลนด์ไหม” หมิงผู้เป็นคุณลุงของวิกกี้เอ่ยถามอย่างมีความหวังเป็นอย่างมาก หากได้โพรเจกต์นี้ ธุรกิจครอบครัวของเขาคงจะฟื้นตัวกลับมาดีดังเดิมแน่นอน ยิ่งถ้าได้ร่วมงานกับดีแลนด์โฮเทลด้วยแล้ว ต้าเหนิงอาจจะมีลูกค้าเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ เพราะมันเป็นการการันตีความไว้วางใจจากดีแลนด์โฮเทลบริษัทยักษ์ที่บริษัทออกแบบต่างอยากร่วมงานด้วย “ผลตัดสินใจน่าจะออกสัปดาห์หน้าค่ะคุณลุง” วิกกี้ที่เห็นแววตาเป็นประกายของผู้มีพระคุณ เธอไม่กล้าบอกความจริง ว่าเธอจะไม่เอางานโพรเจกต์นี้แล้ว เพราะข้อเสนอบ้าๆ ของดินแดน “แล้วหนูคิดว่ามันพอจะมีหวังไหมลูก หากเราได้โพรเจกต์นี้ ลุงเชื่อว่าธุรกิจของเราฟื้นตัวแน่นอน” “เอ่อ คือว่า วันนี้มีบริษัทออกแบบกว่ายี่สิบบริษัทเลยค่ะ ที่ร่วมประมูลงานที่ดีแลนด์โฮเทล” ถึงจะมีบริษัทมากกว่าเข้าร่วมประมูลงาน แต่ทว่ามันก็ไม่น่าสิ้นหวังกับที่เขาบอกเธอว่างานออกแบบของเธอนั้นไม่น่าสนใจ แต่ที่งานมันน่าสนใจเพราะความอคติของเขาต่างหาก หมิงนิ่งเงียบไปพักหนึ่งอย่างครุ่นคิด ก่อนที่เขาจะพูดว่า “หนูต้องช่วยลุง เพื่อตระกูลของเรา พรุ่งนี้หนูต้องไปกินข้าวกับเฮียเฉิง ทางนั้นนัดหนูมาแล้ว” หมิงเอ่ยพูดพร้อมมองหน้าวิกกี้ “...” วิกกี้กลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่งอย่างลำบากใจ นี่คือสิ่งที่เธอหนี แต่มันกำลังวนกลับมาหาเธออีกแล้ว “ลองไปกินข้าว ดูนิสัยใจคอกันดูนะ เฮียเฉิงเขารอกี้มาตลอดสามปี จะมีผู้ชายที่ไหนซื่อสัตย์กับผู้หญิงได้แบบนี้ อีกทั้งเขามีฐานะที่ร่ำรวย ถ้ากี้ได้แต่งงานกับเขา ไม่เพียงแต่หนูจะสบายนะลูก” “แต่หนูไม่ได้ชอบเฮียเฉิง” “แต่หนูต้องทำเพื่อตระกูล หากเราไม่ได้งานโพรเจกต์จากดีแลนด์ ก็ยังมีครอบครัวของเฮียเฉิงมาช่วยพยุงบริษัทของตระกูลเรา” “...” “ลุงเลี้ยงหนูมาตั้งแต่เด็กตัวเล็กๆ จนจบปริญญาตรี ลุงไม่เคยเรียกร้องอะไรจากหนูนอกจากเรื่องนี้เลย ทำเพื่อลุงสักครั้งได้ไหม” พอเห็นหลานสาวนิ่งเงียบ หมิงก็พูดเรื่องที่ผ่านมาให้วิกกี้ได้สำนึกในบุญคุณของเขาด้วยน้ำเสียงนิ่ง “ค่ะ งั้นหนูขอตัวนะคะคุณลุง” วิกกี้พยักหน้าตอบรับ “อย่าเบี้ยวนัดนะลูก อย่าทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโตเหมือนเมื่อสามปีก่อน” หมิงพูดดักทางวิกกี้ “ค่ะคุณลุง” วิกกี้ตอบรับผู้เป็นลุง เธอหยัดตัวลุกขึ้น ก่อนที่เธอจะเดินออกไปจากห้อง “เป็นไงบ้างวิกกี้ ได้งานโพรเจกต์ไหม” เหมยลี่ลูกพี่ลูกน้องที่เหมือนว่าพึ่งตื่นนอนเอ่ยถามพร้อมปิดปากหาวไปด้วย “ไม่รู้สิ” วิกกี้เอ่ยตอบอย่างไม่ใส่ใจ “หึ คงไม่สำเร็จอีกตามเคยน่ะสิ นี่น่ะเหรอคนที่อุตส่าห์หนีไปเรียนไกลถึงอังกฤษ” เหมยลี่ที่ไม่เคยพูดดีกับวิกกี้ได้นาน พูดจาถากถางขึ้นมาทันที “เก็บปากไว้กินข้าวเถอะยัยเหมย แล้วก็หัดตื่นเช้าๆ มาทำงานบ้าง” วิกกี้เบะปากใส่ญาติผู้น้องที่ไม่ค่อยถูกชะตากันมาตั้งแต่เด็ก “อีกี้ มึงปากดีจังนะ” เหมยลี่ชี้นิ้วด่าวิกกี้ “อย่ามาชี้นิ้วใส่กูอีเหมย” “หยุด! เจอกันไม่ได้เลยสองคนนี้ กี้ไปพักผ่อนเถอะลูก แล้วพรุ่งนี้ก็อย่าลืมไปตามนัด” หมิงผู้เป็นพ่อของเหมยลี่เอ่ยห้ามศึกทั้งสองสาว “ค่ะ” วิกกี้พยักหน้า ก่อนที่เธอจะเดินออกจากบ้านทรงจีนโบราณห้าชั้นไปด้วยอารมณ์เซ็งๆ ใครหลายคนอาจมองว่าครอบครัวเป็นเซฟโซนที่ดีที่สุด แต่ทว่าเธอกลับมองมันเหมือนนรกแห่งการทวงบุญคุณมากกว่า วิกกี้ยกมือเสยผมลวกๆ แล้วขึ้นรถขับรถมุ่งหน้าไปคอนโด @คอนโดวิกกี้ พอเข้ามาในห้อง หญิงสาวก็ทุ่มตัวลงนอนหงายบนเตียงอย่างเหนื่อยล้ากับคำว่าบุญคุณ หญิงสาวนอนมองเพดานห้องด้วยหัวสมองที่ตื้อตันไปหมดกับการทวงบุญคุณผู้เป็นลุง เธอครุ่นคิดข้อเสนอของดินแดนดูแล้ว มันเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเธอตอนนี้ ถึงแม้ว่าเธอและดินแดนเรื่องราวในอดีตจะไม่ดีเลยสักนิด แต่เขาก็ยังเป็นคนที่เธอคุ้นเคย หากเธอยอมรับข้อเสนอของเขา ทนนอนกับดินแดนแค่ครั้งเดียว นอกจากต้าเหนิงจะได้งานโพรเจกต์ที่โรงแรมเกาะภูเก็ต ซึ่งผลกำไรมหาศาลมันจะทำให้ต้าเหนิงกลับมารุ่งเรืองดังเดิม ชีวิตของเธอก็จะอิสระและหลุดพ้นจากคำว่าบุญคุณที่ค้ำคอ มันย่อมดีกว่าเลือกแต่งงานกับผู้ชายอายุมากกว่าเธอยี่สิบปี เพื่อเอาเงินมาจุนเจือครอบครัว พอเลือกทางเดินให้กับชีวิตที่คิดว่าดีที่สุด หญิงสาวก็หยิบมือถือเข้าแอปไอจี เลื่อนปลดล็อกดินแดนทันที ก่อนที่จะใจกล้าส่งแชตไปหาเขา @ดีแลนด์ โฮเทล แกร๊ก~ “มึงคิดจะทำอะไรไอ้แดน” สุดเขตเอ่ยถามดินแดนทันที เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานของน้องชาย เขาหย่อนตัวนั่งไขว่ห้างบนโซฟา แล้วจ้องมองดินแดนด้วยแววตาจริงจัง ที่ช่วงบ่ายดินแดนขอร้องไม่ให้เขาเข้าไปเป็นกรรมการคัดเลือกบริษัทออกแบบด้วย “แล้วเฮียคิดว่าไง” เขาถามพี่ชายด้วยรอยยิ้มร้าย เพราะรู้อยู่แล้วว่าพี่ชายของเขานั้นอ่านเกมออก เพียงแต่เข้ามาถามเขาให้เคลียร์ในสิ่งที่เขาสงสัยว่าเป็นไปตามที่คิดหรือเปล่า “ก็คิดว่าสาวสวยหน้าหมวยคนนั้นเธอสวยเซ็กซี่ จนกูอยากได้มากอดสักคืน” สุดเขตพูดหยั่งเชิงน้องชายของเขา “คิดดีแล้วเหรอที่จะกินผู้หญิงของผมน่ะ” “กูว่าแล้ว ผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นเด็กของมึง ไม่งั้นแม่งไม่ตั้งใจทำงานแบบนี้คนเดียวหรอก ทั้งที่ทุกวันแทบจะโยนงานมาให้กูทำคนเดียวด้วยซ้ำ” สุดเขตประชดน้องชายของเขา ที่ทุกครั้งแทบกราบให้มาบริหารที่โรงแรม “เออน่าเฮีย ปล่อยโพรเจกต์งานออกแบบให้เป็นหน้าที่ของผม ส่วนเฮียไปดูแลงานส่วนอื่นเถอะ” “จริงจังกับเธอขนาดนั้นเลยเหรอวะ มึงถึงได้ลงทุนลุยงานเดี่ยวกับโพรเจกต์นี้ขนาดนั้น” “ไม่รู้ว่ะเฮีย แต่พอเห็นเธอเป็นของคนอื่น มันยิ่งทำให้ผมอยากเอาชนะเธอ หายไปต่างประเทศสามปี มีสิทธิ์อะไรเอาผู้ชายมาหยามผมวะ” “มึงนี่เลวจริงๆ” “นิสัยผมก็เหมือนเฮียนั่นแหละ เฮียด่าผมก็เหมือนด่าตัวเอง” “กูคนดีครับ” “ไม่มีคนดีที่ไหนชมตัวเองว่าเป็นคนดี” “คุยกับมึงแล้วกลิ่นความเหี้ยมันแรงเกินไป กูออกไปดีกว่า เฮ้ย! อีกเรื่องหนึ่ง จะเอาชนะหญิงก็เรื่องของมึง แต่งานโพรเจกต์มึงต้องตัดสินใจดีๆ เข้าใจไหมวะ” “เข้าใจครับเฮีย” “อืม กูไปละ” ว่าจบสุดเขตก็เดินออกไป ดินแดนหยิบพอตขึ้นมาสูบแล้วคิดตามคำพูดของสุดเขตอย่างครุ่นคิด แต่แล้วเรื่องงานก็หลุดออกจากภวังค์ความคิด เมื่อเห็นหน้าจอมือถือสว่างวาบขึ้น โดยที่มีคนส่งข้อความมาหาเขาทางไอจี วิกกี้ : ขอคุยหน่อยได้ไหม ดินแดน : คุยเรื่อง? วิกกี้ : เรื่องนั้น ดินแดน : เรื่องไหนล่ะ วิกกี้ : ข้อเสนอของนาย ดินแดน : หึๆ แล้วก็เล่นตัว ดินแดน : สองทุ่มมาหาฉันที่โรงแรม วิกกี้ : อืม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม