“จะเดินตามไปอ่อยพี่ฉันหรือไง”
“ถ้าฉันจะทำแบบนั้นมันก็เรื่องของฉัน พี่ชายนายดูดีกว่านายหลายเท่าจนน่าอ่อย”
“กะจะอ่อยเอางานว่างั้นสิ หึ”
“มันก็น่าลองนะ”
“ถ้าอยากได้งานมาก ก็ลองมาขอร้องฉันบนเตียงสิ เธอกับฉันเป็นอดีตคู่นอนกันอยู่แล้วหนิ ลองมาเสนอตัวกับฉันน่าง่ายกว่าตามอ่อยพี่ชายของฉัน” ดินแดนซุกไซ้ซอกคอระหงที่หอมละมุนอย่างหื่นกระหาย
“โอ๊ย อื้อ”
“หอมจังวะ” เขาซุกไซ้สูดดมกลิ่นกายสาวไม่หยุด
“ปล่อยฉันนะ! แล้วไปนอนฝันเอาเถอะ ฉันไม่มีทางเอาตัวแลกงานโพรเจกต์นี้กับคนอย่างนายแน่” วิกกี้เอียงคอหนีจากสัมผัสป่าเถื่อนของเขา
“ฉันจะคอยดู ว่าฉันจะฝันไปเอง หรือจะได้แตกในตัวเธออีกครั้ง”
“ทุเรศ ไอ้โรคจิต ไอ้บ้ากาม ปล่อยสิโว้ย!” วิกกี้เอ่ยเสียงดัง เมื่อลิฟต์เลื่อนลงเกือบจะถึงชั้นล่างของโรงแรมแล้ว
“แล้วเจอกันช่วงบ่ายนะยัยหมวย” เขาขบเม้มลำคอระหงดังจ๊วบ แล้วดันร่างบางออกห่างกาย
วิกกี้ถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่เขาผละตัวออกก่อนที่ประตูลิฟต์จะเปิดออก วิกกี้ตวัดตามองดินแดนอย่างไม่พอใจ ที่เขามักชอบฉวยโอกาสกับเธอ
“มองอะไร ไม่ออกจากลิฟต์ใช่ไหม”
“ชิ” วิกกี้สะบัดหน้าหนีด้วยอารมณ์หงุดหงิด ก่อนที่เธอจะเดินออกจากลิฟต์ไป
“หึ” ดินแดนแสยะยิ้มมุมปากกับท่าทีของวิกกี้ จากนั้นดินแดนก็กดปิดประตูลิฟต์ ก่อนจะกดลิฟต์ขึ้นไปชั้นสี่สิบแปด
วิกกี้เดินเข้าไปนั่งที่คาเฟ เธอสั่งเครื่องดื่มและเบเกอรี แต่ทว่ายังไม่ทันได้หยิบขนมเข้าปาก มือถือก็สั่นดังขึ้น พอวิกกี้เห็นรายชื่อโทรเข้ามา หญิงสาวก็ถอนหายใจก่อนที่จะกดรับสาย
“ค่ะคุณลุง”
(เป็นไงบ้าง ต้าเหนิงของเราได้งานประมูลจากดีแลนด์ไหม)
“ยังไม่ได้เสนอราคางานเลยค่ะคุณลุง ทางผู้บริหารดีแลนด์ให้เสนอราคางานช่วงบ่าย”
(ลุงหวังว่าต้าเหนิงจะได้งานนี้นะ)
“หนูจะสู้ให้เต็มที่ค่ะลุง”
“อืม ทำให้ได้” ปลายสายรับคำ ก่อนที่จะกดวางสายไป
“เฮ้อ~” วิกกี้ถอนหายใจยาวที่ต้องแบกความหวังธุรกิจของตระกูล งานมันไม่ยาก แต่มันยากตรงที่ดินแดนเป็นกรรมการนี่แหละ วิกกี้นั่งเหม่อลอยที่คาเฟจนถึงเที่ยงครึ่งก็ขึ้นไปที่ชั้นสี่สิบห้าเพื่อเตรียมตัว
“ต้าเหนิงดีไซน์เชิญค่ะ” พนักงานดีแลนด์โฮเทลเอ่ยเรียกวิกกี้เมื่อถึงคิวที่ต้องยื่นเสนอราคางาน
“ขอบคุณค่ะ” วิกกี้กล่าวขอบคุณ ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปในห้องตรงกันข้าม แต่พอเข้ามาในห้อง วิกกี้แทบอยากกระโจนวิ่งหนีออกจากห้องทันที เพราะมีเพียงเขาคนเดียวที่นั่งอยู่ในห้องนี้
“เป็นอะไรไปครับคุณวิกกี้” ดินแดนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไพเราะ แต่ทว่าใบหน้าและแววตาของเขากลับเรียบนิ่ง
“ทำไมมีนายแค่คนเดียว”
“พูดให้มันเพราะๆ หน่อยยัยหมวย ฉันเป็นเพื่อนเล่นเธอเหรอ” ดินแดนพูดเสียงดุ จนวิกกี้หน้าซีดเผือด
“ขอโทษค่ะท่าน” วิกกี้ยกมือไหว้ผู้บริหารหนุ่มเหมือนประชด เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้ตรงกันข้ามกับเขา
มือเรียวเล็กเปิดแฟ้มที่เป็นรายละเอียดแผนงาน ก่อนจะเริ่มนำเสนอการออกแบบและงบประมาณโพรเจกต์อย่างลื่นไหล เพราะเธอเตรียมตัวมาอย่างดี
“ฉันคิดว่าสิ่งที่เธอนำเสนอมา ยังไม่น่าสนใจ ไม่ตอบโจทย์ และไม่เป็นไปตามที่โรงแรมของฉันต้องการ”
“จุดไหนคะ ที่นาย เอ๊ย! ที่คุณคิดว่ามันยังไม่น่าสนใจคะ ทางเราสามารถปรับแก้ได้นะคะ” วิกกี้เอ่ยถามอย่างใจเย็น ทั้งที่ภายในใจอยากกรี๊ดออกมาเมื่อนำเสนอจบกับการคอมเมนต์ของเขาที่ฟังยังไงก็ดูมีอคติกับเธอ เขาไม่ได้ประเมินตามความเป็นจริงสักนิด
“ทุกจุด โดยเฉพาะราคางานที่ค่อนข้างสูงกว่าเจ้าอื่นที่เสนอมาช่วงเช้า”
“เรื่องราคาสามารถต่อรองได้นะคะ คุณลองพิจารณาต้าเหนิงอีกครั้งได้ไหมคะ จะให้ปรับแก้ส่วนไหนบอกกี้ได้เลย”
“ผลงานออกแบบต้าเหนิงไม่น่าสนใจสักนิด แต่ต้าเหนิงกลับมีอย่างอื่นน่าสนใจมากกว่า” เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ทางคุณสนใจงานส่วนไหนคะ” วิกกี้ถามด้วยแววตาเป็นประกายอย่างมีความหวัง
“ตัวเธอไงที่น่าสนใจ เธอลองเอาตัวเองมาให้ฉันพิจารณาบนเตียงสิ ถ้าเรื่องบนเตียงเด็ดกว่าเดิม ฉันสามารถทำให้ต้าเหนิงได้งานโพรเจกต์นี้นะ” ดินแดนหยิบคีย์การ์ดโรงแรมชั้นบนสุดเลื่อนไปตรงหน้าวิกกี้
“ทำไมนายถึงได้เลวแบบนี้ดินแดน ฉันมาเสนองานโพรเจกต์ ฉันไม่ได้มาเสนอตัวเป็นงานบำเรอของนาย” วิกกี้กำมือแน่นที่เขาดูถูกเธอมากขนาดนี้
“ฉันก็ไม่ใช่คนดีอยู่แล้วหนิ เธอน่าจะรู้ดี ถ้าไม่รับข้อเสนอของฉัน ก็ออกไปซะ” ดินแดนพูดเสียงเข้มจ้องมองหญิงสาวอย่างไม่ได้แคร์ หากเธอไม่รับข้อเสนอของเขา
“...” วิกกี้มองดินแดนน้ำตาคลอเบ้า แล้วเดินเชิดหน้าออกไปจากห้องทันที เธอน่ะทำงานเต็มที่แล้ว แต่เขากลับยื่นเงื่อนไขบ้าๆ มาเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธอ