บทที่ 1
เลี่ยงไม่ได้
เพล้ง!
เสียงปาข้าวของดังก้องเข้ามาในหูของ เพลง พริมรตา สาวสวยหน้าตาน่ารัก อนาคตของเธอกำลังจะได้เป็นแอร์โฮสเตสแต่เหมือนทุกอย่างต้องจบลง เพราะพ่อของเธอถูกฟ้องล้มละลาย ทรัพย์สมบัติที่มีมันพังทลายหายไปกับคำว่าการพนัน
เพราะปัญหาที่มันสะสมมานานทำให้เธอเลือกที่จะหนีออกจากบ้านเพื่อไปตั้งหลักด้วยตัวของเธอเอง แต่เพราะความเห็นแก่ตัวของพ่อเธอ เธอถูกส่งต่อเหมือนของไม่มีค่า ไม่รู้วันไหนเธอจะต้องถูกส่งให้ไปอยู่บ้านเทวะดำรง ครอบครัวของผู้มีอิทธิพล เธอรู้ดีว่าตระกูลนี้เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงอย่าคิดไปมีปัญหาด้วยเด็ดขาด
เพื่อนร่วมคลาสเรียนของเธอเป็นลูกชายคนเล็กของบ้านเทวะดำรง เธอรู้ดีว่าคนในตระกูลนี้เป็นยังไงถึงไม่อยากเอาตัวเข้าไปยุ่ง สุดท้ายชีวิตของเธอก็ต้องมาวนเวียนอยู่กับครอบครัวนี้เพราะพ่อของเธอแท้ ๆ
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
(เพลงตื่นหรือยังลูก ทำไมวันนี้ยังไม่ไปเรียนอีกรีบไปเรียนได้แล้ว!)
"ค่ะพ่อ"
ฉันเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าก่อนจะมองหน้าตัวเองในกระจกบานใหญ่ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงไม่มีทางเลือกเพียงแค่ตอนนี้ฉันเลือกไม่ได้
เมื่อก่อนฉันมีอิสระในชีวิต อยากทำอะไรอยากไปที่ไหนไม่เคยมีใครมาบงการ ตั้งแต่ที่ฉันรู้ว่าพ่อของฉันจะยกฉันให้บ้านเทวะดำรง ฉันก็ถูกจับตามองไม่ว่าจะก้าวขาไปที่ไหน ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะมีคนตามดูตลอด พวกเขาคงจะกลัวว่าฉันจะหนีออกจากประเทศ
ฉันเรียนใกล้จะจบแล้วอยู่ปี 4 กำลังจะได้เป็นแอร์โฮสเตส
คงกลัวว่าฉันได้ทำงานเมื่อไหร่ก็จะบินหนีไปอยู่ประเทศอื่น
พวกเขาจะรู้ไหมว่าในบัญชีฉันมันเหลือเงินอยู่แค่ไม่ถึงแสน ฉันจะไปที่ไหนได้ ขอประคองชีวิตตัวเองไปก่อนได้ไหม
มหาวิทยาลัยเอกชน
ฉันขับรถมาจอดหน้าตึกคณะ เพียงแค่ก้าวขาเดินลงจากรถฉันก็เจอลูกชายคนเล็กของบ้านเทวะดำรง เขากำลังเดินข้ามถนนมาหาฉัน ถ้าจำไม่ผิดลูกชายคนเล็กของบ้านนี้เรียนบริหารแต่เขามาทำอะไรที่ตึกนี้
รอบกายของเขามีคนติดตาม มีคนดูแลความปลอดภัย ฉันทำเป็นไม่เห็นแกล้งเดินหนีแต่กลายเป็นว่าเขาให้คนมาดักหน้าดักหลังฉันไม่สนสายตาของนักศึกษาที่มองมาเลย
"นี่! ถอยออกไปนะ ฉันจะรีบไปเรียน!"
"วันนี้เป็นวิชารวม อาจารย์รวมคลาสให้มาเรียนด้วยกันลืมไปแล้วหรือไง?"
ฉันหันไปมองหน้าคุณปราณใบหน้าเขาดูนิ่ง ๆ แต่ดวงตาของเขาไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด มันมีความละมุนซ่อนอยู่
"งั้นก็ปล่อยฉันไปสิให้คนมาขวางฉันทำไม!"
"ฉันเห็นเธอมาตั้งแต่ปี 1 ไม่คิดว่าอนาคตจะได้อยู่บ้านเดียวกันก็เลยแวะมาทักทาย ไว้เจอกันที่บ้านนะ"
อีบ้า! ฉันอยากจะด่าตามตูดแต่ก็ไม่กล้าออกเสียงเพราะคนติดตามคุณปราณมีปืนทุกคน ป้ายต้องเบ้อเริ่มเทิ่มห้ามพกอาวุธเข้ามาในสถานศึกษา แล้วนี่อะไร อำนาจต้องยิ่งใหญ่ขนาดไหนเชียวถึงได้ทำอะไรตามอำเภอใจแบบนี้
ก่อนจะเข้าตึกคณะฉันเดินมาที่ห้องสมุดเพื่อเอาหนังสือมาคืนทำให้ฉันได้เจอกับเพื่อน ๆ ที่มายืนรอตามนัดหมาย ฉันมีเพื่อนอยู่แค่สองคน คนแรกชื่อไอรินเป็นลูกสาวเจ้าของสายการบิน เธอก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เกลียดตระกูลเทวะดำรงมาก ส่วนอีกคนครอบครัวทำธุรกิจขนส่งทั่วไปเธอชื่อว่ามุกดา เธอเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้รับผลกระทบจากครอบครัวเทวะดำรงเหมือนกัน
"มุกดาแกดูสิเพลงมันหน้าบึ้งมาอีกแล้ว ทะเลาะกับพ่อมันมาอีกแน่ ๆ"
"ฉันเห็นใจมันมากเลยนะไอริน จากลูกคุณหนูต้องมาซวยเพราะพ่อมันแท้ ๆ"
"พวกแกไม่ต้องมาทำหน้าสงสารฉันเลย วันนี้ฉันไม่ได้ทะเลาะกับพ่อแต่ฉันเจอคุณปราณหน้าตึกคณะ"
"คุณปราณมาหาแก?"
มุกดาทำสีหน้าตกตะลึง ปกติแล้วบ้านนี้ไม่เคยเข้าหาใครและไม่มีใครอยากเข้าหา นอกจากกลุ่มเพื่อนที่ทำธุรกิจและมีผลประโยชน์ด้วยกัน
"ก็ใช่น่ะสิมาทักทายแล้วบอกให้ฉันไปเจอกันที่บ้าน เหลือเชื่อเลยนะ จากเมื่อก่อนแค่หน้ายังไม่อยากจะมองกันเลย"
"แกต้องระวังตัวนะเพลง ฉันเป็นห่วงแกมาก"
"ใช่ฉันกับไอ้มุกเป็นห่วงแกมากนะเว้ย ถ้าฉันมีเงินมากพอขนาดนั้นฉันจะปิดหนี้ให้พ่อแกเลย"
"แกอย่าคิดแบบนั้นอย่าไปสนใจหนี้สินที่พ่อฉันสร้างเอาไว้เลย เงินส่วนหนึ่งก็เอามาส่งเสียให้ฉันเรียน ถ้าฉันต้องตอบแทนบุญคุณฉันก็คงเลี่ยงไม่ได้"
"แล้วพ่อแกส่งตัวแกไปให้บ้านนั้น แกคิดบ้างไหมว่าแกคงไม่ได้ไปเป็นสาวใช้หรือไปทำงานกับลูก ๆ เขาหรอกนะ ฉันกลัวว่าแกจะได้ไปเป็นแม่เลี้ยงขอบคุณโปรดกับคุณปราณน่ะสิ"
"ก็ถูกของไอรินนะเพลง แกต้องระวังตัวเองให้ดี"
ขอบคุณที่ทำให้ฉันหุบยิ้มในวันที่ยิ้มได้นะ ไม่ใช่ว่าฉันไม่กลัวฉันเองก็กลัวเหมือนกัน ถ้าไปทำอะไรผิดพลาดหรือไปทำให้ครอบครัวนั้นไม่พอใจ ฉันหายสาบสูญไปจากโลกใบนี้ทำบุญให้ฉันด้วยก็แล้วกัน
พวกฉันสามคนเดินออกมาจากห้องสมุดเพื่อขึ้นไปเรียนวิชาร่วมแต่หน้าห้องมีบอดี้การ์ดยืนคุมทุกประตู นักศึกษาที่เดินเข้าห้องถูกตรวจอาวุธค้นตัวกันหมด แม้แต่พวกฉันสามคนก็ถูกตรวจจนละเอียดเหมือนกัน
ฉันเดินเข้ามาในห้องเรียน โต๊ะกลางห้องมันเคยเป็นที่ประจำของฉันแต่ตอนนี้ถูกคุณปราณกับเพื่อน ๆ ของเขาแย่งไปแล้ว ฉันจึงเดินเลี่ยงมานั่งริมหน้าต่างเกิดอะไรขึ้นฉันจะได้กระโดดหน้าต่างลงไปเลย