ตอนที่ 3 คำสั่ง
ผมคิดว่าหลังจากคืนนั้นคุณอัลเดรจะสลัดผมทิ้งเหมือนผมเป็นเพียงรองเท้าแตะเก่าๆ ที่เขาไม่ต้องการ คือทิ้งผมจากไปเหลือไว้เพียงความเจ็บปวดที่เป็นแผลฝังลึกในใจผม ส่วนเขาเองก็คงวางแผนมีครอบครัวที่อบอุ่นมั่นคงและดำเนินชีวิตต่อ แต่ถ้าทุกอย่างมันง่ายดายแบบนั้นก็เหมือนกับว่าผมยังไม่รู้จักผู้ชายที่ชื่ออัลเดรดีพอ เพราะบ่ายแก่ๆ ของวันหนึ่งคุณอัลเดรกลับมาอีกครั้งแล้วเข้าไปคุยธุระกับคุณโรแลนตามลำพัง
“เจสัน”
“ครับ คุณโรแลน” ผมลอบมองชำเลืองตาขึ้นไปมองดูสายตาของเจ้านายอัลฟ่าผู้อ่อนโยนด้วยหัวใจสั่นไหว ผมกลัวเหลือเกิน...กลัวว่าสิ่งที่ผมคิดมันกำลังจะเป็นจริง
“เดี๋ยวนายไปเก็บของแล้วตามอัลเดรไป ฉันจะให้นายไปช่วยเรื่องงานแต่งงานของอัลเดร”
ผมหันไปสบตากับอัลฟ่าหนุ่มอีกคนที่ยกยิ้มตรงมุมปาก สายตาถากถางเหยียดหยันส่งมาให้ผมแทนคำพูดเยาะเย้ยที่เขาคงตะโกนก้องใส่หน้าผมอย่างสาแก่ใจว่าครั้งนี้ผมไม่อาจดื้อดึงปฏิเสธได้เพราะคุณโรแลนเป็นคนเอ่ยปากสั่งกับผมเอง
“คุณโรแลนจะให้ผม....” ผมถามย้ำถึงความต้องการของคุณโรแลนอีกครั้งแม้ใจจริงอยากปฏิเสธคำสั่งแล้วคุกเข่าลงไปอ้อนวอนร้องขอว่าผมไม่อยากไป ผมไม่อยากหลุดเข้าไปในอาณาจักรของคนเย็นชาไร้หัวใจอย่างคุณอัลเดร แต่เพราะรู้สถานะตัวเองดีว่าผมเป็นเพียงคนรับใช้ต่ำต้อยไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรทั้งนั้น
“แค่ชั่วคราว นายไม่ต้องห่วง แค่ไปช่วยให้งานแต่งงานเรียบร้อย เสร็จแล้วนายก็กลับมา” คุณโรแลนกำชับกับผมเหมือนช่วยให้ผมอุ่นใจขึ้นว่าผมจะได้กลับมารับใช้คุณโรแลนเหมือนเดิม
“ครับ” ผมพยักหน้ารับคำสั่งช้าๆ แล้วเดินออกจากห้องทำงานของคุณโรแลนกลับมาเก็บเสื้อผ้าบางส่วน
ผมเดินถือกระเป๋าเสื้อผ้าเข้ามาภายในห้องนอนขนาดใหญ่บนชั้นสองของคฤหาสน์ส่วนตัวของคุณอัลเดร คฤหาสน์หลังใหญ่นี้ไม่ได้เล็กไปกว่าคุณโรแลนเท่าไหร่เลยต่างกันก็ตรงที่คฤหาสน์ของคุณโรแลนตกแต่งตามสไตล์อิตาลีแท้ๆ ส่วนที่นี่ตกแต่งแบบสมัยใหม่ ข้าวของเครื่องใช้ดูเรียบง่ายแต่หรูหราสมฐานะตระกูลอัลบราเซส
“นี่ห้องนาย” เสียงทุ้มห้าวจากเจ้าของบ้านดังอยู่ข้างหลังผม
“ขอบคุณครับ” ผมเดินทิ้งระยะห่างแล้วเอากระเป๋าไปวางลงบนเตียงนอนพร้อมกับหันหลังมาทางเจ้านายอัลฟ่า
“คืนนี้...”
“ไม่....” ผมส่ายหน้าปฏิเสธทันทีโดยไม่ได้รอฟังว่าเจ้าของบ้านต้องการอะไร
“จำได้มั้ยว่านายถูกส่งมาที่นี่ทำไม”
“ผมรู้ ผมจะช่วยงานแต่งงานของคุณอย่างเต็มที่และจัดการทุกอย่างให้ออกมาดีที่สุด”
“ดี...คืนนี้ไปหาฉันที่ห้องทำงานฉันมีงานให้นายทำ” คุณอัลเดร ออกคำสั่งกับผมก่อนจะหมุนตัวเดินกลับออกไปจากห้องนอนของผม
ผมก้าวเท้าพ้นบานประตูห้องทำงานหรูหราใหญ่โต เบื้องหน้าโต๊ะทำงานสีดำทันสมัยขนาดใหญ่ถูกวางตั้งไว้กลางห้อง หลังโต๊ะถัดไปเก้าอี้นวมตัวใหญ่ซึ่งมีเจ้านายอัลฟ่าหนุ่มของผมนั่งจิบบรั่นดีจากแก้วใบหรู ด้านข้างผู้หญิงสวยสง่าดุจนางพญาหงส์คนหนึ่งยืนกอดอกปรายตามาทางผม ริมฝีปากสีแดงเลือดนกกระตุกยิ้มเยือกเย็นจนผมอึดอัด
“เจสัน นี่คุณอลิเซียภรรยาของฉัน”
คุณอัลเดรนั่งจ้องหน้าผมนิ่งมือหนายกแก้วบรั่นดีขึ้นจรดริมฝีปาก พร้อมกับคลี่ยิ้มออกมาน้อยๆ ผมหันไปโค้งศีรษะให้กับภรรยาของคุณอัลเดรด้วยความนอบน้อม สายตาของคุณอลิเซียเมื่อยามมองผมให้ความรู้สึกชวนอึดอัดไม่ต่างจากคุณอัลเดรเลยสักนิดเดียว
“คนนี้เหรอ เจสันที่คุณจะให้มาช่วยจัดการงานแต่งงานของเรา” คุณอลิเซียเดินไปทิ้งตัวลงบนโซฟารับแขกด้านข้างพร้อมกับวาดขาเรียวขึ้นมานั่งไขว่ห้างอย่างทรงเสน่ห์
“ใช่ คนนี้แหละ”
“หวังว่าคงจะมีฝีมือและความสามารถมากพอ สมกับราคาคุยของคุณนะคะอัลเดร ฉันไม่อยากให้งานแต่งงานของเราเละไม่เป็นท่าเพราะคนที่เก่งแต่ปากท่าดีทีเหลว”
ผมยืนนิ่งฟังคำดูถูกดูแคลนของว่าที่เจ้าสาวของคุณอัลเดรด้วยหัวใจอันเจ็บปวด การมาที่นี่ของผมเหมือนเป็นการเดินมาสู่ประตูนรกที่ทุกย่างก้าวคือกับดักทัณฑ์ทรมาน
“คุณอลิเซียโปรดวางใจ ผมจะพยายามทำอย่างเต็มที่ให้งานแต่งงานของคุณและคุณอัลเดรออกมาดีที่สุดครับ” ผมโค้งให้กับว่าที่สะใภ้คนเล็กของตระกูลอัลบราเซสอย่างช้าๆ
“เอาเถอะ ในเมื่ออัลเดรวางใจให้เธอเป็นคนมาจัดการทุกอย่าง ฉันก็คงต้องเชื่อมั่นในการตัดสินใจของเขา"
คุณอลิเซียลุกขึ้นจากโซฟาตัวยาวแล้วเดินเชิดใบหน้าสวยไร้ที่ติมาจ้องหน้าผม ริมฝีปากบางคลี่ออกมาน้อยๆ ยกเป็นมุมสูงแล้วเดินออกจากห้องไป
ผมยืนนิ่งเพื่อรอฟังคำสั่งจากอัลฟ่าหนุ่มเจ้าของบ้านเผื่อว่าจะมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ต้องการ มันเป็นลักษณะนิสัยหรือจะบอกว่าเป็นความเคยชินของคนรับใช้อย่างผมก็ได้เพราะทุกครั้งผมไม่เคยห่างคุณโรแลนเลย หากเจ้าตัวไม่บอกว่าให้ไปพักหรือไม่ต้องคอยเฝ้าผมก็จะยังยืนอยู่ข้างกายไม่ห่างไปไหน
“พรุ่งนี้อลิเซียกับฉันต้องไปถ่ายรูปพรีเว็ดดิ้งที่สตูดิโอ แล้วก็เลือกชุดแต่งงาน นายเตรียมตัวด้วยก็แล้วกัน”
“ครับ” ผมพยักหน้ารับช้าๆ
“เจสัน...มานวดไหล่ให้ฉันที วันนี้ฉันนั่งทำงานเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”
ผมยืนอึ้งตัวแข็งไม่กล้าขยับ ผมเคยนวดให้คุณโรแลนก็จริงแต่กับคุณอัลเดรมันไม่เหมือนกัน ผมไม่อยากสัมผัสร่างกายของเขาไม่ว่าจะส่วนใดก็ตาม
“เอ่อ...”
“มาสิ” คุณอัลเดรเอนหลังพิงไปกับพนักของเก้าอี้สีดำตัวใหญ่ ใบหน้าคมนั้นเชิดขึ้นมามองผม แก้วบรั่นดีในมือถูกเจ้าของยกขึ้นมาชูในอากาศพร้อมกับหมุนกลิ้งกลอกน้ำสีชาด้านในวนไปมาเบาๆ
“เจสัน” เสียงห้วนนั้นเริ่มแข็งขึ้นเมื่อผมยังไม่ยอมขยับขาก้าวเข้าไปทำหน้าที่
“ครับ...”
ผมเดินอ้อมไปทางด้านหลังแล้ววางมือลงไปบนไหล่กว้างสัมผัสกล้ามเนื้อหัวไหล่แน่นตึงแล้วออกแรงตรงปลายนิ้วกดลงไปช้าๆ
“อืม...ดีมาก” เสียงเจ้าของไหล่หนาครางต่ำๆ ในลำคออย่างพึงพอใจ ผมปล่อยให้ความเงียบเข้ามาโอบล้อมรอบตัวเพราะคิดบทสนทนาชวนคุยไม่ออก ถ้าหากคนบนเก้าอี้เป็นคุณโรแลนผมคงมีเรื่องให้คุยหรือมีเรื่องให้ถามเยอะแยะเต็มไปหมด
ผมยืนบีบนวดกดน้ำหนักมือลงไปตามหัวไหล่ ท้ายทอย แล้วไล่นิ้วหัวแม่มือขึ้นไปตามแนวกระดูกและเส้นเอ็นสูงขึ้นเพื่อช่วยคลายเส้นให้กับคุณอัลเดรเหมือนเวลาผมนวดให้คุณโรแลน
“อ้ะ” ผมร้องออกมาด้วยความตกใจเพราะอยู่ๆ คุณอัลเดรก็คว้าข้อมือผมหมุนเก้าอี้ตัวใหญ่มั้นกลับมาแล้วฉุดให้ผมล้มลงมานั่งทับบนตักกว้าง
“คุณอัลเดรปล่อยผม” ผมยกมือขึ้นมาดันหน้าอกกว้างแล้วพยายามลุกขึ้นจากตักหนา สายตาหันไปมองรอบตัวเพราะกลัวว่าจะมีใครเปิดประตูเข้ามาเห็น
“ทำไมฉันต้องปล่อย ฉันเคยทำมากกว่านี้ด้วยซ้ำ”
“คุณอัลเดรปล่อยเถอะ ถ้าคุณอลิเซียหรือใครมาเห็นเข้ามันจะไม่ดีนะครับ”
“มองหน้าฉันสิ” กลิ่นบุหรี่ราคาแพงผสมกลิ่นบรั่นดีเจือมากับกลิ่นลมหายใจอ่อนๆ ของคุณอัลเดรทำให้ผมเจียนบ้า ผมอยากลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปจากห้องนี้หรือทางที่ดีผมอยากวิ่งกลับไปหาคุณโรแลนหรือกลับไปรับใช้คุณพารัสที่อิตาลีเลยก็ได้ แต่ผมไม่อยากอยู่ใกล้เจ้านายอัลฟ่าคนนี้
“ฉันบอกให้มองหน้าฉัน” คุณอัลเดรจับคางของให้เงยหน้าขึ้นแล้วพลิกหันให้มันหมุนกลับมาสบตาสีเข้มแข็งกร้าว
“คุณอัลเดร”
“จูบฉันสิ” คุณอัลเดรยิ้มมุมปากพร้อมกับยื่นหน้าและริมฝีปากเข้ามาใกล้ผมอีกครั้ง
“คุณอัลเดร...ได้โปรดเถอะอย่าทำแบบนี้เลยนะครับ”
“จูบ...เดี๋ยวนี้”
“ไม่” ผมส่ายหน้าแล้วฝืนเบี่ยงหน้าหนีไปอีกทาง
ผมรู้ว่าผมกำลังทำให้คุณอัลเดรโกรธ เพราะผมรับรู้ถึงสีหน้าและแววตาเหมือนหมาป่าของเขา เจ้านายอัลฟ่าผลักผมให้ลุกขึ้นจากตักแล้วเหวี่ยงผมกลับลงไปนอนแผ่ลงบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่เสียงดังโครมใหญ่ แก้วบรั่นดีใบหนาราคาแพงล้มคว่ำกลิ้งตะแคงปล่อยให้ของเหลวสีอำพันด้านในไหลหกลงมาเจิ่งนองทั่วไปหมด ผมรับรู้ถึงของเหลวชื้นแฉะกลิ่นฉุนของเหล้าราคาแพงซึ่งไหลซึมเปียกชื้นเสื้อเชิ้ตด้านหลัง
“ไม่เคยจำ ฉันเคยบอกนายตั้งกี่ครั้งแล้วว่านายไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธฉัน”
“คุณอัลเดร คุณกำลังจะแต่งงานนะครับ คุณไม่ควรทำแบบนี้”
“ฉันรู้ว่าอะไรควร หรือไม่ควร คนรับใช้อย่างนายไม่มีสิทธิ์มาสอนฉัน”
คุณอัลเดรคว้ามือลงมาบีบกรอบหน้าพร้อมกับออกแรงกดฝ่ามือตรึงผมให้นอนนิ่งแผ่หลาอยู่บนโต๊ะตัวใหญ่ มืออีกข้างหนึ่งคว้าลงมากับคอเสื้อของผมพร้อมกับออกแรงกระชากกลับอย่างแรง กระดุมเสื้อเม็ดเล็กๆ ซึ่งผมติดมันอย่างเรียบร้อยดีแล้วขาดกระเด็นหล่นหายไปตามพื้นห้อง
ผมยกมือขึ้นมาแล้วพยายามหยุดการเคลื่อนไหวของเจ้านายอัลฟ่าซึ่งกำลังคลุ้มคลั่งใส่ผมอย่างขาดสติ ผมยกเข่าทั้งสองข้างคู้ขึ้นมาแล้วพยายามยกเท้ายันเจ้าของร่างหนาที่โน้มตัวลงมาทาบทับผม
“คุณอัลเดรอย่านะครับ” ผมพลิกตัวกลับพยายามดิ้นหนีแต่ทันทีที่ผมหันหลังกลับ สัมผัสอันตรายที่ผมกลัวที่สุดก็พุ่งมาปะทะบั้นท้ายของผมแนบแน่น
“ฮึ...เจสัน นี่นายให้ท่าฉันเหรอ”
คุณอัลเดรโน้มตัวลงมากดทับผมไว้จากด้านหลัง มือหนาทั้งสองรวบข้อมือของผมเอาไว้แน่นแล้วกดตรึงติดไปกับแผ่นกระจกหนาซึ่งวางปูไว้บนโต๊ะทำงาน บรั่นดีราคาแพงขวดใหญ่ล้มนอนตะแคงปล่อยของเหลวด้านในหกออกมาจนเกือบหมด และตอนนี้ทั่วทั้งตัวของผมมีแต่กลิ่นบรั่นดีหอมตลบอบอวลไปทั้งตัวซึ่งชื้นแฉะ ตรงด้านหลังนั้นสัมผัสแข็งตึงจากท่อนเนื้อคุ้นเคยมันกำลังพองตัวแข็งขืนทิ่มแทงมาตรงร่องก้นอวบอูมของผม
“คุณอัลเดรอย่านะ”
“หุบปาก นายมีหน้าที่แค่ยืนถ่างขาเฉยๆ เจสัน”
ผมหลับตาแล้วฟุบหน้าลงไปแก้มด้านหนึ่งถูกกดในนาบลงบนโต๊ะซึ่งเจิ่งนองไปด้วยแอลกอฮอล์ดีกรีแรงกลิ่นฉุน ผมถูกคนตัวโตกว่าจับยึดยืนแนบชิดอยู่ด้านหลังเอื้อมมือลงมาปลดเข็มขัดแล้วรูดซิปดึงกางเกงของผมให้มันหลุดร่นลงไปกองอยู่ตรงข้อเท้า
“อ๊า ซี้ดดดด” เสียงครางกระเส่าผสมความพึงใจที่ได้สอดใส่ดุ้นเอ็นอันร้อนผ่านเข้ามาในตัวผมลึกจนสุด
ความรู้สึกแน่นตึงคุ้นเคยที่ผมเคยได้รับกลับมาอีกครั้งร่างกายของผมทรยศกับจิตใต้สำนึกรู้ผิดชอบชั่วดี ในขณะที่น้ำตาแห่งความรู้สึกผิดไหลลงมาอาบแก้มผสมไปกับบรั่นดีบนโต๊ะ แต่ด้านหลังลงไปช่องรักคับแคบของผมกลับตอดรัดเหนี่ยวรั้งอัลฟ่าหนุ่มเหมือนไม่อยากให้ดุ้นเนื้อนั้นพรากจากไป