รอยรักบนสมรภูมิ

1109 คำ
หมอมองหน้าเขาอย่างลังเล “รวมค่าผ่าตัดเบื้องต้นและเตรียมตัว... ไม่ต่ำกว่าสองแสนค่ะ" สองแสน ตัวเลขนั้นเหมือนมีคนเอาค้อนมาทุบกลางอกเขา คุณแม่มาริกาที่ยืนอยู่ข้างๆ ทรุดนั่งลงอย่างหมดแรง “เราจะไปหาเงินมาจากที่ไหนละลูก...” แต่คีตะไม่พูดอะไร เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดทันที ปลดล็อกแอปธนาคาร ยอดเงินที่พี่แอลโอนให้เมื่อเช้ายังค้างอยู่ในบัญชี "ผมจะหาให้ทันเวลา... แม่ไม่ต้องห่วงนะครับ" “รักษาเลยครับคุณหมอ เตรียมผ่าตัดในอีกสามวัน” เสียงของคีตะมั่นคงแต่แฝงความร้อนรน หมอหญิงพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ “ได้เลยค่ะ ดิฉันจะประสานงานให้ทันทีนะคะ ยังไงจะติดต่อกลับมาอีกครั้ง ว่าจะเป็นคุณหมอยูจิน หรือคุณหมอแอลค่ะ” ชื่อสุดท้ายที่หมอเอ่ยออกมาทำให้ คีตะชะงัก เขายกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนถามด้วยน้ำเสียงเรียบแต่แฝงแววสงสัย “แอล! อลินา กรระวิทย์ ทายาทบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ ระวิทย์กรุ๊ป ใช่ไหมครับ?” หมอหญิงชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนตอบด้วยรอยยิ้มบาง “ใช่ค่ะ แต่ตอนนี้คุณหมออลินาลาพักอยู่ค่ะ” คีตะนิ่งไปเล็กน้อย ดวงตาสั่นวูบเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง แต่เพียงเสี้ยววินาที เขาก็กลับมามีสติอีกครั้ง เขาหันไปจับมือแม่แน่น น้ำเสียงอ่อนโยนแต่หนักแน่น “แม่ครับ... น้องต้องหายนะครับ อีกสองวันผมจะหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ได้” แม่มาริกามองหน้าลูกชาย ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวังและความรัก เธอยกมือขึ้นตบหลังมือของเขาเบาๆ พลางเอ่ยเสียงสั่น “แม่เชื่อในลูกนะคีตะ... เราจะผ่านมันไปด้วยกัน” คีตะพยักหน้าแน่น สายตาจับจ้องไปยังม่านสีขาวที่กั้น ระหว่างเขากับร่างเล็กของสานฝัน หัวใจของเขาเต้นแรงไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เพราะสัญญาในใจที่ตั้งมั่นไว้แล้ว “ผมจะไม่มีวันปล่อยให้น้องต้องเจ็บอีก... ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม” ลานจอดรถโรงพยาบาล คีตะเดินออกมาจากโรงพยาบาล ท่ามกลางแสงไฟสีขาวที่สะท้อนพื้นกระเบื้อง ใบหน้าคมเคร่งเครียด แต่ดวงตาแน่วแน่ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกทันที เสียงสัญญาณดังเพียงสองครั้งก่อนที่ปลายสายจะรับ “ฮัลโหล...ไอ้คีตะ!” น้ำเสียงปลายสายเต็มไปด้วยความหยอกล้อ “มึงหายหัวไปไหนวะ ตั้งแต่ปิดเทอมติดต่อยากชิบหาย ถ้าไม่มีเรื่อง คงไม่ได้ยินเสียงมึงแน่ๆ” คีตะหลุดยิ้มมุมปาก แม้ในใจยังหนักอึ้ง “มึงว่างเปล่าวะ ออกมาเจอกูหน่อย ร้านเดิม” “โห! มึงเรียกกูแบบนี้มีแต่เรื่องแน่” เสียงหัวเราะดังลอดมาตามสาย ก่อนอีกฝ่ายจะพูดต่อ “อะๆ หรือแกยอมไปเป็นเด็กดริ้งของคลับ พี่ช่อตาลแล้วเหรอว่ะ กูบอกแล้วว่าที่นั่นได้เงินดี" คีตะหัวเราะในลำคอเบาๆ “มึงไม่ต้องพูดมากรีบออกมา กูไม่ได้รวยเหมือนมึงที่ต้องมานั่งกินนอนกินนะไอ้กร" เสียงปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น “เออ ได้ เดี๋ยวกูไปร้านเดิมในยี่สิบนาที... มึงอย่าหายไปอีกล่ะไอ้เวร” คีตะกดวางสาย เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนเงยหน้ามองท้องฟ้า แสงแดดยามบ่ายแก่ทำไม่มันร้อนทั้งกายและใจอย่างนี้ แสงไฟจากโรงพยาบาลสะท้อนเข้าตา หัวใจเขาเต้นแรงอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เพราะความตั้งใจที่จะไม่ยอมแพ้ “คืนนี้... ต้องหาทางให้ได้ ไม่ว่าจะต้องเจอเรื่องแบบไหนก็ตาม” ทะเลสัตหีบเวลาบ่ายแก่ บ้านพักตากอากาศของอลินา ตื๊ด... ตื๊ด...!! เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากหัวเตียงกลางห้องสีขาวอบอุ่น ใต้ผ้าห่มผืนหนา ร่างบางของ อลินา ขยับตัวนิดๆ ก่อนจะโผล่หัวขึ้นมาอย่างงัวเงีย เมื่อคืนเธอแทบหมดแรง... หลังจากศึกเร้าร้อนบนสมรภูมิรบ กับชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าหล่อคนนั้น" เธอคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู ยังไม่ทันพูด เสียงปลายสายก็ดังลั่นจนสะดุ้ง “ย๊าาา! ยัยแอล! หายหัวไปไหนทั้งคืน!!” อลินาขมวดคิ้ว หรี่ตา แล้วขยับมือถือออกห่างหูแทบไม่ทัน “ยัยช่อตาล... ผีเจาะปากออกมาหรือไงยะ พูดเบาๆ หน่อย หูฉันจะแตกอยู่แล้ว!” ปลายสายหัวเราะแห้งๆ ก่อนรีบลดเสียงลง “ก็คนมันตกใจ! ฉันไปหาแกที่โรงพยาบาลก็ไม่เจอ ไปบ้านก็ไม่มีใครรู้ว่าแกไปไหน... นี่แกหนีเที่ยวอีกแล้วใช่มั้ย!” อลินาเบะปากนิดๆ พลางมุดกลับเข้าไปในผ้าห่ม “ไม่ใช่หนีเที่ยว แค่มาพักผ่อนเฉยๆ” “พักผ่อน?” เสียงช่อตาลแผ่วลง แต่แฝงความอยากรู้อยากเห็น “พี่คีรณัฐรู้มั้ยว่าแกอยู่ไหนน่ะ... เขาตามหาแกทั้งคืนเลยนะ แอล” เสียงนั้นทำให้อลินาชะงักไปทันที ปลายนิ้วเธอหยุดค้างอยู่ตรงขอบผ้าห่ม ก่อนที่ดวงตาจะค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างมีแววลังเล “เขาตามหาฉัน... งั้นเหรอ...? เธอพึมพำเบาๆ เหมือนพูดกับตัวเอง ความทรงจำเมื่อคืนไหลย้อนกลับมา สายตาคมเข้มของคีตะรอยสัมผัสที่ทั้งอ่อนโยน และร้อนแรง หัวใจเธอเต้นแรงขึ้นอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว “แกอยู่ไหน ฉันจะไปหาเดี๋ยวนี้!” เสียงของ ช่อตาล ดังลั่นจากปลายสาย จนอลินาต้องขยับมือถือออกห่างหูเล็กน้อย “มาสิ... บ้านพักริมทะเลของฉัน” เธอตอบเสียงงัวเงีย แต่ยังไม่ทันจะวางสายช่อตาลก็แหวกลับมาอีก “แอล! แกทำเสียงแบบนั้นคืออะไร อย่าบอกนะว่า” ติ๊ด! อลินากดตัดสายก่อนที่เพื่อนจะพูดจบ พร้อมถอนหายใจยาว เธอลุกขึ้นจากเตียง ผ้าห่มร่วงจากบ่าเผยให้เห็นชุดนอนสีขาวบางเบา ที่แทบจะกลืนไปกับผิวเนียนละเอียด อลินาเดินไปหน้ากระจก ลูบผมตัวเองเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองภาพสะท้อน... แล้วดวงตาคู่งามก็เบิกกว้างทันที รอยแดงเล็กๆ ที่ลำคอ หลักฐานจาก “ศึกเมื่อคืน” “ไอ้เด็กบ้า!” เธออุทานออกมาทันที ทั้งตกใจ ทั้งเขิน จนแก้มร้อนผ่าว “ยังจะมาฝากรอยไว้ให้อายอีกนะ เดี๋ยวเหอะ... เจอเมื่อไรจะได้รู้กัน!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม