ปัจจุบัน
เช้าที่มหาลัย
“หนูไปเรียนแล้วนะคะ”
เสียงหวานของปลายฝน เอ่ยบอกคนรักอย่างสายธาร ก็เพื่อนในกลุ่มผมนั่นแหละ ไอ้นี่ตัวดี แต่งงานคนแรกเลย
“ครับ มาหอมหน่อย”
ฟ้อด!!
และมันก็ทำอะไรไม่เกรงใจคนไม่มีแฟนอย่างผมเอาซะเลย
“หนูก็ไปแล้วนะคะพี่เดย์ เที่ยงสั่งข้าวรอหนูด้วย”
และนี่ก็เสียงของมะปราง แฟนของไอ้ซันเดย์ เพื่อนอีกคนในกลุ่ม
“หนูไปแล้วนะคะพี่ไดจิ ”
และนั่นก็เสียงของลินิณญ์ ทีนี้ก็เหลือแต่ผมที่ยังโสด
แต่ผมก็ไม่คิดจะมีแฟนหรอก ไม่อยากเจ็บกับสิ่งที่เรียกว่าความรัก ใช้ชีวิตแบบนี้ดีที่สุดแล้ว
“แล้วนี่ไอ้ภูมิยังไม่มาอีกเหรอวะ”
พวกเรามากันพักใหญ่แล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นไอ้ภูภูมิมา ไอ้สายธารจึงถามขึ้น
“สงสัยไปส่งเด็กมั้ง”
ผมพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“ห๊ะ/ห๊ะ”
แต่ก็ไม่คิดว่าเพื่อนๆจะให้ความสนใจขนาดนี้
“ แล้วพวกมึงจะพูดอะไรเสียงดังวะ”
ผมเอ็ดเพื่อนเบาๆ ไม่รู้พวกมันจะห๊ะอะไรกันนักหนา
จนคนที่นั่งอยู่แถวนั้นหันมามองกันหมด
“ มึงรู้อะไรก็บอกมาไอ้ปกป้อง กูอยากใส่ใจ”
ไอ้สายธารยื่นหน้าเข้ามาถามผม
“ เดี๋ยวนี้มึงชอบเสือกเนาะ ”
ผมเลิกคิ้วสูงถามมัน
“ กูก็อยากรู้/กูก็อยากรู้บอกมา”
และเพื่อนอีกสองคน ก็ทำหน้าไม่ต่างจากไอ้สายธารสักเท่าไหร่นัก
“ ไม่เอาเดี๋ยวไอ้ภูมิก็มาโวยกู เอาไว้พวกมึงถามมันเองแล้วกัน”
ผมไม่ได้อยากเล่าอะไร รอให้เจ้าตัวเค้ามาพูดเถอะ
จะได้ไม่โดนด่าแรงนัก เพราะไม่รู้ว่าเพื่อนมันอยากบอกหรือเปล่า
“ นั่นไงมาพอดี”
และคนที่ตาไวกว่าเพื่อน ก็คงจะเป็นไอ้ซันเดย์นั่นแหละ
“ มึงติดเด็กเหรอวะไอ้ภูมิ ทำไมมาสายจังวะ”
พอไอ้สายธารถามขึ้น ไอ้ภูมิมันก็หันมามองหน้าผมอย่างเอาเรื่อง
“ พวกมึงรู้ได้ไง ไอ้ปกป้องมึงเป็นคนบอกใช่ไหม”
และมันก็หันมาคาดคั้นความจริงจากผม ก็คงต้องยอมรับแหละเพราะมีผมคนเดียวที่รู้
“ อืม แล้วมึงจะมีความลับอะไรนัก ก็เพื่อนกันทั้งนั้น”
“ ไอ้ปกป้องไอ้เพื่อนเวร มึงนี่ไม่เคยเก็บความลับอะไรได้เลย”
แล้วมันก็บ่นผมใหญ่เลย แต่แล้วไงใครจะแคร์
“ ไปทำโปรเจคกันได้แล้ว เดี๋ยวก็ไม่จบกันหรอก”
และหลังจากนั้นพวกเราก็ไปทำโปรเจคกัน ไม่ได้มีใครพูดอะไรขึ้นมาอีก จนกระทั่งถึงตอนเย็นพวกเราก็ต้องเตรียมแยกย้าย
“ ไอ้ภูมิวันนี้มึงไปดื่มกับกูมั้ย แม่งกูไม่มีเพื่อนเลยว่ะเหงาทุกวัน”
ผมลองชวนมันดู เผื่อจะมีเพื่อนไปดื่มบ้าง
“ ไม่ไปกูมีธุระ”
คำนี้มันพูดอยู่ทุกวัน แต่ผมนั่นแหละที่เสือกชวนมันทุกวันเอง
“ ไอ้ห่านี่ติดเด็กฉิบหาย ระวังหลงเขาหัวปักหัวปำโงหัวไม่ขึ้นนะมึง”
ผมเตือนเพื่อนด้วยความหวังดี คำว่าเด็กอ่ะเขาเข้ามาเพื่ออยากได้เงินเรา แต่ถ้าเราให้ใจไปคงมีแต่เรานั่นแหละที่จะเจ็บ
“ เรื่องของกูมึงนี่เสือกดีเนอะ”
ไม่น่าพูดเลยผม ปล่อยให้มันโดนเองอ่ะถูกแล้ว
“ งั้นกูไปละ ”
ผมยกมือให้เพื่อน และมุ่งหน้ากลับคอนโด
แต่งตัวเสร็จผมก็ไปผับไอ้ไดจิเลย เพราะวันนี้มันบอกมีเด็กให้ช่วยดู ผมนี่กระปรี้กระเปร่ารอเลย เผื่อเด็กถูกใจกินเด็กมันแม่ง
เมอร์เรนด้าคลับ
“ฉันดูเป็นไงบ้างพัด พอใช้ได้รึเปล่า”
ผ้าแพรยืนมองตัวเองที่หน้ากระจก ถามเพื่อนรักอย่างไม่มั่นใจ เพราะห่างหายจากการแต่งตัวแบบนี้มานานมากแล้ว
“โหยผ้าแพร แกดูสวยและดูยั่วมาก ฉันเชื่อว่าแกต้องได้ไปเป็นเด็กโซนvipแน่นอน”
ใบพัดตาโต เมื่อเห็นเพื่อนรักอย่างผ้าแพร ในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยดูเซ็กซี่ยั่วยวน บวกกับหน้าตาที่สะสวยและผิวที่ขาวราวผู้ดีเก่า ก็ใช่ไงเธอมันลูกคุณหนูบ้านรวยแต่เดิมไง ก็แค่ตอนนี้ไม่รวยแล้วก็แค่นั้นเอง แต่ราศีก็ยังอยู่แบบนั้นแหละไม่ได้หายไปไหน
“ ผ้าแพรเสร็จรึยัง นายมาแล้ว”
พี่แซนหัวหน้าพนักงานเดินมาเรียก
“เสร็จแล้วค่ะพี่แซน”
ผ้าแพรรีบเดินออกไปหาแซนในทันที เพราะถ้าผ่านก็จะได้เริ่มงานที่โซนvipเลย
“โห!!ผ้าแพรทำไมเราสวยซ่อนรูปแบบนี้ ดูสิหุ่นยังกะนาฬิกาทราย แต่งหน้าทำผมแล้วยังกะคุณหนูบ้านรวย”
กึก!!คำพูดที่เหมือนจะชม แต่มันกลับทิ่มแทงอย่างบอกไม่ถูก
“ขอบคุณค่ะพี่แซน แพรว่าเราไปกันเถอะ”
เธอรีบตัดบทอดีตก็คืออดีต จะมัวมาจมปลักอยู่แบบนี้ ชีวิตก็คงจะเดินต่อไม่ได้
ก๊อกๆๆ
“ขออนุญาตค่ะนาย ”
แซนยืนเคาะประตูที่หน้าห้องเจ้านาย และยืนเงียบรอเสียงอนุญาตจากด้านใน
“เชิญครับ”
แอ้ด!!
สิ้นสุดเสียงอนุญาต แซนกับผ้าแพรก็เปิดประตูเข้าไป แต่ก็ไม่ได้มีแค่เจ้านายที่อยู่ในห้อง เพราะข้างกายของเจ้านายหนุ่ม ยังมีสาวสวยที่นั่งอยู่ด้วย
“สวัสดีค่ะนาย/สวัสดีค่ะนาย”
สองคนรีบไหว้ทักทายเจ้านาย เจ้านายหนุ่มทำเพียงพยักหน้ารับ
“นี่ลินิณญ์แฟนผม แต่น่าจะอายุน้อยกว่าพวกคุณหลายปี”
“สวัสดีค่ะคุณลินิณญ์/สวัสดีค่ะคุณลิณญ์”
ทั้งสองทักทายเมียนายแบบไม่ได้ยกมือไหว้ เพราะเมียนายน่าจะอายุน้อยกว่าทั้งสองหลายปี
“สวัสดีค่ะ นี่เหรอคะที่พี่บอกว่าจะย้ายมาอยู่โซนvip”
เสียงหวานของเมียนาย ถามขึ้นอย่างเป็นมิตร
“ครับ เดี๋ยวรอเพื่อนผมแป๊บนะใกล้ถึงแล้ว คุณแซนลงไปก่อนเลยครับ ให้แค่..เอ่อ/ผ้าแพรค่ะ”
“ครับ ให้แค่คุณผ้าแพรอยู่พอ”
“งั้นพี่ไปก่อนนะ ”
สิ้นคำสั่งเจ้านาย แซนก็หันมาบอกลูกน้องอย่างเป็นห่วง
“ ได้ค่ะพี่แซน”
ผ้าแพรรีบรับปากแซน
“ พี่ผ้าแพรนั่งรอก่อนนะคะ”
ลินิณญ์เมียของเจ้านาย ผายมือให้เธอนั่งที่โซฟาตัวยาว
“ขอบคุณนะคะคุณลินิณญ์”
ร่างบางนั่งลงเบาๆที่โซฟาตัวยาว อย่างใจจดจ่อ
แค่เจ้านายก็ตึงแล้ว ถ้าเจอเพื่อนเจ้านายละ ‘เฮ้อ!!ชีวิตผ้าแพร’
ก๊อกๆๆ
“เข้ามา”
เสียงด้านนอกเคาะประตู และเสียงด้านในก็อนุญาตเรียบร้อย ไม่นานประตูก็เปิดออก พร้อมกับร่างหนาที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำแบรนด์หรูพับครึ่งแขน กางเกงผ้าสแลชสีดำอย่างดี ที่ข้อมือเขานั้นยังมีนาฬากาเรือนแพง ที่ดูๆแล้วน่าจะหลักล้าน ผ้าแพรเผลอมองเขาอยู่นานอย่างตกตลึง เขาหล่อและดูดีขึ้นมาก เรียกได้ว่าเพอร์เฟคเลยแหละ
“เอ้อนี่เพื่อนผมเองชื่อปกป้อง ส่วนนี่คุณผ้าแพรที่บอกจะให้มาช่วยดู”
เราสบตากันเพียงเสี้ยว ก่อนที่เขาจะมองไปทางอื่น
จนฉันเริ่มทำตัวไม่ถูก กำชายกระโปรงอันน้อยนิดของตัวเองไว้แน่น
“สวัสดีค่ะคุณปกป้อง”
ฉันเลยทักทายเพื่อนของเจ้านายไปตามมารยาท เพราะตอนนี้ฉันเป็นแค่พนักงานในร้าน
“เหอะ คนนี้เหรอที่จะย้ายมาโซนvip”
เขาถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน พร้อมยืนเอามือล้วงกระเป๋าด้วยท่าทีเรียบเฉย
“เออใช่ ช่วยดูให้กูหน่อยว่าใช้ได้รึเปล่า แล้วก็เดี๋ยวให้คุณผ้าแพรลองให้บริการมึงดู เดี๋ยวมึงไปนั่งข้างเธอเลย ”
ปกป้องไม่รอช้า รีบเดินมานั่งข้างเธออย่างว่าง่าย
จนโซฟาข้างๆเธอมันยุบลงอย่างแรง แต่เธอก็ไม่ได้มองดูเขาต่อ ยอมรับว่าอายเขามาก ที่ต้องกลับมาเจอเขาอีกครั้ง ในสถานการณ์แบบนี้ ทั้งที่ตัวเองเป็นคนบอกเขาแท้ๆ ว่าจะต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่กลับมาเจอกันอีกครั้งในสภาพที่เธอต้องมาทำงานกลางคืนในผับ คิดแล้วก็อายเขาแทบแทรกแผ่นดินหนี
“ เดี๋ยวเอาชุดเครื่องดื่มมาให้ผมหนึ่งชุด ที่ห้องทำงานผมนะด่วนเลย”
ไม่นานเจ้านายก็โทรให้คนเอาเครื่องดื่มมาให้
ส่วนฉันก็ได้แต่นั่งก้มหน้า ไม่กล้ามองอะไรอีกเลยรอบข้าง
ก๊อกๆๆ
“ ขออนุญาตครับนาย เครื่องดื่มที่นายสั่งได้แล้วครับ”
พนักงานเปิดประตูเอาชุดเครื่องดื่มมาให้ ฉันเม้มปากแน่น ประหม่าเหลือเกินที่ต้องมาบริการเขา
“ เชิญเลยครับคุณผ้าแพร คิดซะว่าเพื่อนผมเป็นแขกvipก็แล้วกัน เราจะได้ดูการบริการของคุณด้วย
ทำให้เต็มที่นะครับ เดี๋ยวขอตัวก่อน”
เจ้านายของฉันเดินเข้าไปในห้องแล้ว พร้อมกับภรรยาของเขา ตอนนี้เหลือแค่ฉันกับปกป้อง ที่กำลังนั่งโซฟาตัวเดียวกัน บรรยากาศมันเงียบซะจน ได้ยินเสียงหายใจของอีกฝ่าย