ขนมนั่งอยู่หน้าห้องฉุกเฉินขณะรอหมอทำแผลให้กับเจ้านายของเธอ ดวงตาคู่สวยก้มมองข้อมือของตัวเองที่ในตอนนี้มีผ้าพันแผลปรากฏอยู่
“ขนม!”
เสียงเรียกระคนตกใจของจันทร์เจ้าดังขึ้นหลังวิ่งเข้ามาด้วยความร้อนใจ เมื่อทราบว่าเกิดเรื่องเธอก็รีบทิ้งงานมาดูอาการของเพื่อนสนิทและพี่ชายทันที
“เป็นอะไรมากหรือเปล่า”
“ขนมไม่เป็นอะไร”
“แล้วนี่นั่งร้านมันพังลงมาได้ยังไง”
“มันเป็นอุบัติเหตุ คนงานที่อยู่ด้านบนก็ตกลงมาได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน”
“ดีนะที่ขนมไม่เป็นอะไรมาก”
หญิงสาวไม่ได้รู้สึกดีใจเลยด้วยซ้ำเมื่อเห็นว่าตัวเองปลอดภัย แต่คนอื่นต้องมาเจ็บตัวแทนแบบนี้
“ที่คุณอาทิตย์เจ็บมากแบบนั้นเพราะปกป้องขนม”
“เลิกรู้สึกผิดได้แล้ว”
จันทร์เจ้ายกมือขึ้นวางบนไหล่บอบบางเพื่อนปลอบโยนคนตรงหน้าไม่ให้คิดมาก นับว่าโชคดีที่เพื่อนสนิทของเธอไม่ได้เป็นอะไรมาก หากขนมได้รับบาดเจ็บหนักมีหวังพายุลูกใหญ่คงได้หล่นกลางหัวทุกคนที่อยู่ในบริเวณแน่นอน
“พี่อาทิตย์เขาเต็มใจช่วยขนม”
“ญาติของคุณอาทิตย์ค่ะ”
เสียงพยาบาลดังแทรกขึ้นมาเรียกความสนใจจากสองสาวให้หันไปมอง ขนมรีบมุ่งตรงไปยังห้องฉุกเฉินอย่างไว ก่อนจะเห็นร่างสูงนั่งกุมศีรษะตัวเองที่ในตอนนี้เต็มไปด้วยผ้าพันแผล
“ต่อไปต้องระวังเรื่องความสะอาดของแผลด้วยนะคะ พยายามหลีกเลี่ยงการโดนน้ำ และต้องมาล้างแผลอย่างสม่ำเสมอ”
“ครับ”
อาทิตย์พยักหน้าตอบกลับหมอหนุ่มทีไป ใบหน้าหล่อเลื่อนขึ้นมองหญิงสาวที่เดินมาหาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“เป็นยังไงบ้างคะพี่ชายสุดหล่อ” จันทร์เจ้าแกล้งถามอย่างขี้เล่นแม้จะเป็นห่วงพี่ชายไม่ใช่น้อยเหมือนกัน
“มือเป็นยังไงบ้าง”
“ขนมต้องถามคุณอาทิตย์มากกว่าว่าเป็นยังไงบ้าง”
“ผมไม่เป็นอะไรมาก”
“ขอบคุณมากนะคะที่ยอมเสี่ยงชีวิตช่วยขนมขนาดนี้”
ประธานหนุ่มแอบยกยิ้มมุมปากหลังคนตรงหน้ายกมือไหว้ขอบคุณเขาไม่หยุด ลำพังแผลแค่นี้ไม่ทำให้อาทิตย์สะทกสะท้านหรอก ทว่าหากหญิงสาวเจ้าของหัวใจเป็นอะไรขึ้นมาเขาคงได้คลั่งตายแน่นอน
“เชิญญาติของคนไข้รับยาค่ะ”
“เดี๋ยวขนมไปเองค่ะ”
ทันทีที่เห็นร่างเล็กหันหลังเดินตามพยาบาลออกไปรับยา จันทร์เจ้าก็รีบขยับเข้ามายืนข้างๆ พี่ชายอย่างมีข้อสงสัย
“พี่อาทิตย์เจ็บมากหรือเปล่า”
“เปล่า”
“แล้วอยู่ๆ พี่ผันตัวไปเป็นพระเอกขี่ม้าขาวได้ยังไง”
หญิงสาวเอ่ยถามเพราะจากที่ได้ยินมาพบว่าบริเวณนั้นมีแฟนหนุ่มของเพื่อนสนิทเธออยู่ด้วย เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นคนที่ควรจะปกป้องและดูแลก็ต้องเป็นคนรัก ไม่ใช่เจ้านายอย่างพี่ชายเธอ
“ได้ข่าวว่าแฟนของขนมก็อยู่ที่นั่นไม่ใช่เหรอ”
“อย่าพูดถึงไอ้เหี้ยนั่น”
“อย่าบอกนะว่าอีตารันต์มันวิ่งหนีเอาตัวรอด แล้วปล่อยให้แฟนตัวเองรับอันตราย”
อาทิตย์กัดฟันกรอดพร้อมฉายชัดความโกรธกร้าวและดุดันขึ้นมาหลังนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ความเห็นแก่ตัวของมันทำให้เขาอยากจะประเคนหมัดหนักๆ เพื่อสั่งสอนเหลือเกิน
มันดูแลและปกป้องขนมไม่ได้ด้วยซ้ำ แม่ง!
“เลวจริงๆ เลย ตอนแรกนึกว่าแค่นิสัยเจ้าชู้อย่างเดียว แต่ไม่คิดว่าจะเห็นแก่ตัวแบบนี้”
“นิสัยเจ้าชู้อะไร”
จันทร์เจ้าเลิ่กลั่กขึ้นมาทันทีหลังหลุดปากพูดในสิ่งที่เธอเพิ่งจะรับรู้มา เพียงเห็นแววตาเกรี้ยวกราดของพี่ชายขนแขนทั้งสองข้างก็ลุกซู่อย่างหวาดหวั่น
“ที่มันได้มาเป็นหัวหน้าวิศวกรดูแลโครงการของพี่อาทิตย์ก็เพราะแอบกิ๊กอยู่กับลูกสาวเจ้าของบริษัทตัวเอง”
“รู้ได้ยังไง”
“เจ้าก็เพิ่งรู้เรื่องนี้ไม่นานเหมือนกัน ผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกค้าประจำที่ร้านของเจ้า นั่งคุยโอ้อวดถึงผู้ชายใหญ่เลย แต่คงลืมไปแล้วว่าตัวเองกำลังคบชู้อยู่”
มือหนากำหมัดแน่นเพื่อข่มอารมณ์ไม่ให้ระเบิดออกมา หากขนมจะคบหรือรักกับใครคนคนนั้นควรจะเหมาะสมและรักเธอด้วยหัวใจจริงๆ ไม่ใช่ทำนิสัยเหี้ยๆ แบบนี้ลับหลัง
“ทำไมขนมต้องรักมันด้วย”
จันทร์เจ้าแอบกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเล็งเห็นพายุลูกใหญ่กระหน่ำขึ้นมาเรื่อยๆ เธอรู้ว่าคนเป็นพี่ชายพยายามปิดบังความรู้สึกของตัวเองมากมายขนาดไหน
“เจ้าไม่อยากให้ขนมโดนหลอก แต่ก็ไม่กล้าบอกตรงๆ”
“ผู้หญิงที่ไอ้เวรนั่นแอบคบอยู่คือลูกสาวของท่านวาธินใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ พี่อาทิตย์คิดจะทำอะไร”
“อุตส่าห์จะยืนรอดูเงียบๆ แต่มันดันเผยหางออกมาให้เห็นจนได้”
ประธานหนุ่มเค้นหัวเราะออกมาด้วยความสมเพชไอ้ผู้ชายคนนั้น ถึงเขาไม่ได้คิดที่จะแย่งขนมมาจากมัน ทว่าเมื่อเห็นโอกาสอยู่ในมือเหตุใดจะไม่รีบคว้าเอาไว้
ซึ่งวันนั้นจะเป็นวันที่มันได้แตะต้องหญิงสาวเป็นครั้งสุดท้าย และอาทิตย์จะไม่ยอมปล่อยให้ใครหน้าไหนมาดูแลเธอนอกเสียจากตัวของเขาเอง
การันต์มายืนรอแฟนสาวอยู่หน้าโรงพยาบาลหลังเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นเสร็จ เขาได้แต่พร่ำโทษตัวเองที่ตัดสินผิดพลาดทำแบบนั้นลงไป
ในตอนนั้นใครๆ ก็ต้องต่างเอาตัวรอดกันทั้งสิ้น ทว่านึกไม่ถึงว่าไอ้ประธานเจ้าของโรงแรมจะกล้าบ้าบิ่นยอมสละชีวิตตัวเองเข้าไปช่วยเหลือหญิงสาวจนได้รับบาดเจ็บแทน
“ขนม”
ชายหนุ่มเอ่ยเรียกหลังเห็นคนรักเดินออกมา เขารีบวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอพร้อมยกมือเล็กที่มีผ้าพันแผลขึ้นมาสำรวจดูด้วยความเป็นห่วง
“เจ็บมากหรือเปล่า”
“ขนมไม่ได้เป็นอะไรแล้ว”
“ขอโทษนะที่ตอนนั้นไม่ได้อยู่ปกป้องขนม พอดีรันต์เข้าใจว่าเหล็กบนนั่งร้านจะหล่นไปอีกทาง”
ประโยคคำแถส่งผลให้ใบหน้าสวยของจันทร์เจ้าลอบมองบนอย่างอดไม่ได้ และก็ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสีหน้าของพี่ชายข้างกายเธอไม่สบอารมณ์มากแค่ไหน
“ดีใจที่ขนมไม่เป็นอะไรนะ รันต์เป็นห่วงขนมแทบแย่”
“แหม นี่ขนาดเป็นห่วงนะคะ”
การันต์ชะงักมือที่กำลังจะดึงรั้งแฟนสาวเข้าสู่อ้อมกอด เขาปรายตามองร่างเล็กตรงหน้าอย่างคาดโทษหลังได้ยินวาจาประชดประชัน
“งั้นกลับกันเถอะ เดี๋ยววันนี้รันต์จะพาขนมไปทานดินเนอร์เพื่อชดเชยความผิดนะครับ”
“คนที่เพิ่งผ่านความเป็นความตายมาเขาคงมีอารมณ์มานั่งกินข้าวดินเนอร์อยู่หรอกนะ”
นับว่าเป็นครั้งแรกที่อาทิตย์อยากจะดึงตัวของน้องสาวมากอดแนบแน่นเพื่อให้รางวัลเสียเหลือเกิน แอบยอมรับว่าตัวเองรู้สึกดีไม่ใช่น้อยเมื่อได้เห็นสีหน้าโกรธเคืองของขนมยามใช้มองคนรักตัวเอง
แม่ง! โครตอยากจะได้ยินขนมบอกเลิกมันชะมัด
“แอบแช่งให้เขาเลิกกันอีกแล้วเหรอคะ”
จันทร์เจ้ากระซิบถามเสียงแผ่วเบาหลังยืนแอบลอบสังเกตปฏิกิริยาของพี่ชายที่เอาแต่จ้องคู่รักตรงหน้าด้วยแววตาคมกริบ ก่อนจะเห็นเจ้าตัวยกมือขึ้นเคาะหน้าผากของเธออย่างคาดโทษ
“รู้มาก”
“ว่าไงครับ ขนมอยากจะไปหรือเปล่า”
“วันนี้ขนมเหนื่อยมาก คงไปดินเนอร์กับรันต์ด้วยไม่ได้”
“งั้นรันต์ไปส่งที่บ้านนะครับ”
“ว้าย! พี่อาทิตย์ปวดหัวเหรอคะ”
จันทร์เจ้าร้องออกมาเสียงดังลั่นพร้อมเดินเข้าไปเกาะแขนพี่ชาย ซึ่งก็เป็นไปตามคาดเมื่อเห็นเพื่อนสนิทรีบเดินเข้ามาดูอาการอย่างเป็นห่วง
“ขนมว่าคุณอาทิตย์รีบกลับไปนอนพักดีกว่านะคะ”
“เอ่อ...พอดีที่ร้านมีปัญหานิดหน่อย เจ้าฝากขนมดูแลพี่อาทิตย์หน่อยได้ไหม”
“อืม เดี๋ยวขนมช่วยดูแลให้”
“เดี๋ยวถึงคอนโดผมจะให้คนขับรถไปส่งที่บ้าน”
อาทิตย์รีบพูดดักเอาไว้ทำเอาการันต์มีสีหน้าไม่สบอารมณ์ ยิ่งเห็นหญิงสาวเข้ามาประคองร่างสูงของเขาอย่างแนบชิดเจ้าตัวก็กดกลั้นอารมณ์หงุดหงิดแทบไม่อยู่
คนขับรถรีบวิ่งมาเปิดประตูรถให้เจ้านายอย่างรู้งาน ก่อนที่ขนมจะขึ้นมานั่งบนรถพร้อมเลื่อนสายตามองแฟนหนุ่มที่เอาแต่ยืนจ้องเธอคล้ายโกรธเคือง
“ถ้าอยากจะกลับกับแฟนก็ลงไปเถอะ ผมไม่ได้เป็นอะไรมาก”
อาทิตย์เอ่ยบอกพรางเอนตัวพิงเบาะ แม้ปากจะพูดไปแบบนั้นทว่าความรู้สึกลึกๆ ก็เฝ้ารอคอยให้เธอนั่งอยู่ข้างกายกันแบบนี้
“ไม่เป็นไรค่ะ”
ขนมเลื่อนมือปิดประตูรถเมื่อพูดตอบกลับคนตรงหน้า ไป ชายหนุ่มอุตส่าห์เสี่ยงชีวิตช่วยเหลือเธอจนได้รับบาดเจ็บจะให้มาใจไม้ไส้ระกำไม่ดูแลเขาได้อย่างไร
“ผมขอซบไหล่หน่อยได้ไหม พอดีพิงเบาะแล้วมันปวดแผล”
ไม่สนห่าเหวมันแล้วว่าจะได้ปีนต้นงิ้วต้นไหน!
.
.
.