เมื่อเขาพามาจอดที่ร้านข้าวต้มและเริ่มสั่ง มิวก็เริ่มหันไปมองรอบ ๆ ตอนนี้ถุงร้อนของเธอเริ่มเย็นแล้วเขาจึงได้บอกให้เธอเอาออกมาให้
“เอามาสิ”
“ทำไมคะ”
“บอกให้เอามาก็เอามาเถอะ”
เธอยื่นถุงน้ำร้อนไปให้เขาตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ภาวินทร์ลุกขึ้นเดินนำถุงน้ำร้อนนั้นเอาไปให้เด็กในร้าน เขาพูดไม่กี่ประโยคเธอก็ยิ้มและโค้งให้เขาก่อนจะหายไปพร้อมกับถุงน้ำร้อน
“รอเดี๋ยวนะ”
“พี่วินทร์ให้เขาไปทำอะไรเหรอคะ”
“เปลี่ยนน้ำร้อนให้เธอน่ะสิ”
“คะ? แล้วเขาทำให้ได้ด้วยเหรอคะ ที่จริงไม่ต้องลำบากถึงขนาดนั้นก็ได้”
ไม่ทันที่จะได้ตอบอาหารหอม ๆ ที่ทำใหม่ ๆ ก็เริ่มทยอยมาวางตรงหน้า มิวรู้สึกหิวขึ้นมาเล็กน้อยจากที่ไม่ได้คิดอะไรแต่เพราะอาหารที่น่ากินและข้าวต้มร้อน ๆ ที่นำมาวางก็ทำให้เธอไม่มีสมาธิ
“กินเถอะ อาหารพวกนี้ดีต่อสุขภาพ เดี๋ยวจะพาไปซื้อยา”
“ขอบคุณค่ะ”
เธอไม่พูดอะไรเมื่อเขาอนุญาตให้เธอกินก่อน อาหารที่ทำมาไม่ว่าจะเป็นผัดผักบุ้งไฟแดง หัวไชโป๊ผัดไข่ ไข่เจียวหมูสับกรอบ ๆ เมื่อได้กินข้าวต้มร้อน ๆ มิวก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น ภาวินทร์ที่กินไปด้วยและมองข้าวของเธอที่หมดก่อนเขาก็นึกประหลาดใจไม่น้อย
“เอาข้าวเพิ่มอีกไหม”
“อื้ม ขอบคุณค่ะ”
เธอตัวเล็กกว่าเขามากแต่เท่าที่ดูแล้วกินจุไม่น้อย มิวใช้เวลาไม่นานแต่กินข้าวต้มไปสามถ้วยซึ่งภาวินทร์ต้องสั่งถึงสองรอบให้เธอแล้วยังสั่งกับข้าวมาเพิ่มอีกสองอย่าง
“กินเก่งไม่เบาเลยนี่”
“นิดหน่อยค่ะ”
“ไม่หน่อยนะ ใครได้เป็นแฟนนี่คงต้องเลี้ยงดี ๆ เลยล่ะ”
“มีไปทำไมคะแฟน เกะกะและวุ่นวาย อีกอย่างมิวเลี้ยงตัวเองได้”
“อิ่มแล้วเหรอ”
“อิ่มแล้วค่ะ อิ่มมาก ๆ เลย ร้านนี้อร่อยจังเลยขอบคุณนะคะที่พามากิน เท่าไหร่คะเดี๋ยวมิวช่วยจ่าย”
“ไม่ต้อง มีที่ไหนจะให้ผู้หญิงช่วยจ่าย”
“แต่เรา…”
“ไม่ว่าจะเป็นฐานะไหนคนอย่างภาวินทร์ก็ไม่เคยให้ผู้หญิงควักเงินจ่ายให้หรอกนะ อยู่เฉย ๆ เถอะ”
เขาเรียกพนักงานมาคิดเงินที่โต๊ะ ไม่นานพนักงานผู้หญิงก็ยื่นถุงน้ำร้อนมาให้
“ของเธอครับเอาให้เธอเลย”
“นี่ค่ะคุณลูกค้า แฟนคุณใส่ใจคุณมากเลยนะคะ”
“ขอบคุณค่ะ แต่เขาไม่ใช่แฟนฉันค่ะ เป็น… เจ้านายค่ะ”
“อุ๊ย ขอโทษนะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
ภาวินทร์ที่กำลังจ่ายเงินอยู่หันมามองหน้าเธอนิดหนึ่งก่อนจะหันหน้าหนี คำว่าเขาเป็น “เจ้านาย” ของเธอฟังแล้วก็น่าฟังอยู่หรอกแต่เขากลับหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
“ไปเถอะ”
“ค่ะ”
เขาพาเธอแวะซื้อยาที่ร้านขายยา แต่ครั้งนี้ให้เธอลงไปคนเดียวเพราะเขาไม่อยากให้คนขายถามมากอีกและไม่อยากหงุดหงิดอีกครั้งที่เธอต้องบอกว่าเขาเป็นเจ้านาย
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”
“อืม ถ้าพรุ่งนี้ไปไม่ไหวก็ไปวันพุธก็ได้นะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เริ่มงานวันแรกมิวไม่อยากผิดสัญญา มิวจะไปให้ได้ค่ะ”
“แต่พี่ไม่อยากรังแกคนป่วยนะ”
“พรุ่งนี้ก็หายดีแล้วค่ะ”
“รู้ได้ยังไง”
“ไม่มีใครปวดท้องประจำเดือนทุกวันหรอกนะคะ พี่วินทร์ก็น่าจะรู้เรื่องนี้ดี ขอบคุณนะคะที่มาส่งมิวขอตัวก่อน”
เธอเดินลงไปจากรถและยืนรอส่งเขาที่หน้าประตูหอพักก่อนที่ภาวินทร์จะบ่นออกมาอีกครั้ง
“ก็ต้องรู้แน่อยู่แล้ว ฉันมีพี่สาวสองคนเชียวนะมันจะยากตรงไหน ผู้หญิงเวลาปวดประจำเดือนก็ต้องเป็นแบบนี้กันหมดฉันก็ต้องรู้อยู่แล้วสิว่าต้องทำยังไงบ้าง ไม่งั้นจะหนีมาอยู่คอนโดเหรอ
วันถัดมา
มิวเดินเข้ามาที่คอนโดของภาวินทร์และพบกับความเงียบเหมือนไม่มีคนอยู่ เธอจึงคิดว่าเขาไม่อยู่จึงเริ่มทำความสะอาดเก็บของทิ้งถังขยะในห้องนอนเล็กที่อยู่ข้าง ๆ ที่ไม่มีใครอยู่และเตียงก็ยังยับยู่ยี่เหมือนผ่านการใช้งานมาแล้ว เมื่อเธอเริ่มกวาดและเก็บของก็พบกับเครื่องประดับของผู้หญิงทั้งต่างหู ที่ติดผมและยังมีซองถุงยางที่เปิดใช้งานแล้วอีกสองชิ้น
“น่าเกลียดจริง ๆ ไม่คิดจะเก็บกันบ้างเลยหรือยังไงนะ”
เธอเก็บไปบ่นไป เมื่อทำความสะอาดข้างในเสร็จแล้วจึงออกมาล้างห้องน้ำซึ่งเป็นห้องน้ำด้านนอก
“ก็ดูสะอาดดีนี่นา”
เธอแทบจะไม่ต้องทำอะไรมากเพราะคอนโดของเขาสะอาดดีอยู่แล้วหากไม่นับห้องนอนเล็กนั่น แต่เมื่อเธอเปิดห้องนอนใหญ่เข้าไปก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่ามีคนนอนอยู่และเครื่องปรับอากาศก็ยังเปิดอยู่
“ว้าย! ขอโทษค่ะ”
เธอรีบปิดประตูทันทีและมานั่งสงบอารมณ์อยู่ข้างนอก ภาวินทร์ที่นอนถอดเสื้ออยู่บนเตียงแค่หันมามองเธอแต่ไม่ได้พูดอะไร เขาตื่นเพราะเสียงเครื่องดูดฝุ่นของเธอที่ห้องเล็กแต่ก็ไม่อยากออกไปรบกวนจึงนั่งอ่านข้อความมือถืออยู่บนเตียง แต่ก็ไม่นึกว่าลูกแกะน้อยจะเดินเข้ามาในห้องของเขา
“ให้ตายสิทำไมนอนไม่ใส่เสื้อผ้าล่ะ หรือว่า…”
เธอมองไปที่ถุงขยะที่พึ่งจะเก็บกวาดออกมาจากห้องนอนเล็กก็รู้สึกขยะแขยงขึ้นมาในทันทีจนนึกอยากจะอาเจียนขึ้นมา
“แหวะ ให้ตายเถอะทำไมเป็นคนน่าเกลียดแบบนี้นะ”
“มาแล้วเหรอ มาเร็วกว่าที่คิดเอาไว้นี่”
“ว้าย!”
เธอหันไปเมื่อถูกเขาทักแต่ก็ต้องรีบหันกลับเพราะคนที่พึ่งเดินออกมาจากห้องนอนสวมเพียงผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวเพียงผืนเดียว หน้าที่แดงจัดจนถึงติ่งหูทำให้เขารู้สึกขำ แม้ว่าเขาจะไม่เคยมีเซ็กส์กับสาวเวอร์จิ้นมาก่อนเพราะน่ารำคาญ แต่กับเธอเขากลับนึกอยากแกล้งและชอบที่จะเห็นท่าทางตลก ๆ แบบนี้
“เป็นอะไร ตกใจอะไร”
“คะ คือว่า… ทำไมพี่วินทร์ไม่สวมชุดให้มันดี ๆ ก่อนจะออกมา”
“อ่อ พี่จะอาบน้ำพอดีก็เลยไม่สวม ห้องน้ำมีสองห้องนะ ข้างในห้องนอนอีกห้องหนึ่งตอนนี้เข้าไปทำได้แล้ว”
“ค่ะ”
เขาเลี่ยงมาใช้ห้องน้ำในห้องนอนเล็ก เมื่อเข้ามาก็ต้องทึ่งกับสิ่งที่เธอจัดเก็บในห้องนอนแขกที่มักจะมีเพื่อน ๆ ของเขามาใช้งานอยู่ประจำ
“เป็นเจ้าแม่ทำความสะอาดเหรอเนี่ย สุดยอดไปเลย”
เมื่อเดินเข้าไปในห้องน้ำก็เหมือนกับไม่ใช่ห้องของตัวเองแม้ว่าก่อนหน้านี้จะไม่ได้สกปรกนักเพราะเขาก็จ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดอยู่แล้ว แต่พักหลัง ๆ เขารู้สึกไม่เป็นส่วนตัวก็เลยไม่อยากจ้างจนมาพบกับลักษิกาในคืนนั้น
ยี่สิบนาทีถัดมา
เขาเดินออกมาและเห็นเธอที่กำลังเช็ดผ้าม่านอยู่ที่ห้องรับแขกด้านนอกจึงได้เดินเข้าไปเพื่อถาม
“หิวข้าวหรือยัง”
“….”
แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้ยิน เมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้ ๆ ก็ได้ยินเธอฮัมเพลงอยู่ เมื่อเข้าไปดูจนเกือบจะชิดก็เห็นหูฟังแบบไร้สายอยู่ที่หูของเธอ มิน่าล่ะถึงไม่ได้ยินที่เขาถาม ภาวินทร์จึงได้ดึงหูฟังออกและกระซิบอีกครั้ง
“น้องมิว หิวข้าวหรือยัง”
“ผลัวะ!”
“โอ๊ย!! อะไรวะเนี่ย เจ็บนะ!”
“ว้าย!! ขอโทษค่ะ คือว่า…”
ผ้าที่เธอกำลังเช็ดผ้าม่านอยู่หันมาฟาดใส่หน้าของเขาเต็มแรง ภาวินทร์รู้สึกมึนไปเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าเขาจะเจ็บตัวเพราะเรื่องแบบนี้ แต่สีหน้าของเธอรู้สึกผิดอย่างจริงจังจนเขาไม่กล้าเอาเรื่อง
“ช่างเถอะ ๆ เดี๋ยวพี่มา”
“คือว่า…”
“อยู่เฉย ๆ แล้วช่วยถอดหูฟังออกด้วยจะได้คุยกันรู้เรื่อง”
ภาวินทร์เดินกลับเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าอีกครั้ง มิวรีบถอดหูฟังเก็บทันทีและเดินมายืนรอเขาหน้าห้องน้ำพร้อมกับผ้าแห้งสะอาดที่เธอยืนถือรออยู่
“นี่ค่ะ ผ้าเช็ดหน้าขอโทษนะคะมิวเห็นมันอยู่ในลิ้นชักข้างในห้องนอนเล็กเลยคิดว่าใช้ได้”
“นั่นมันผ้าสำหรับแขกพี่ไม่ใช้ ไปเอาผ้าในห้องใหญ่มาอยู่ลิ้นชักชั้นที่สองของตู้สีขาว”
“ค่ะ”
เธอรีบวิ่งไปทันทีพร้อมกับภาวินท์ที่เดินมานั่งตรงโซฟารับแขก มิวรีบเดินถือผ้าขนหนูสะอาด ๆ สีขาวมายื่นให้เขา เมื่อเช็ดจนเสร็จแล้วจึงหันมามองกองเครื่องประดับที่วางอยู่บนถ้าขนหนูสีขาวและมีทิชชูรองอยู่อีกชั้น ซึ่งเท่าที่ดูจากสายตามีไม่น้อยกว่าเจ็ดชิ้น
“นี่อะไรน่ะ”
“คือว่าทั้งหมดนี่มิวเก็บได้จากห้องนอนอีกห้องข้าง ๆ ค่ะ ไม่รู้ว่าพี่วินทร์จะเก็บไปคืนเจ้าของหรือเปล่า ก็เลยเก็บมาไว้ให้ก่อน แต่ไม่รู้ว่าจะจำเจ้าของได้หรือเปล่านะคะเพราะแต่ละอัน…เหมือนจะมีไม่ครบ แล้วก็เหมือนไม่ใช่ของคนเดียวกัน”