บทที่7

1518 คำ
แววตาหม่นเศร้าสะท้อนความเจ็บปวดขณะมองตัวเลขบนแผงดิจิทัลซึ่งไล่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ร่างบางแนบกายพิงกระจกใสเบื้องหลังซึ่งเผยให้เห็นวิวมหานครยามราตรีกระจ่างสายตา เวลาใกล้สี่ทุ่มภายในลิฟต์คอนโดหรูเงียบสงัด ไร้ผู้คนโดยสารรอบข้างมีเพียงแค่เธอ ดังนั้นจึงไม่เหลือเหตุผลให้นีนรตาต้องซ่อนความรู้สึก เธอกัด ริมฝีปากเมื่อความหวาดกลัวกำลังบีบคั้นเล่นกับหัวใจคนอ่อนแอจนหวั่นไหว หลายนาทีกว่าลิฟต์ตัวเดิมจะหยุด ณ ปลายทาง ขาสองข้างก้าวเดินกระทั่งหยุดหน้าห้องที่บางครั้งทั้งคู่เคยใช้เวลาอยู่ร่วมกัน นีนรตากำคีย์การ์ดในอุ้งมือจนแทบแหลกละเอียด สัมผัสบดขยี้ทำเอาเล็บยาวเผลอจิกไปโดนเนื้อตัวเอง “วิน…” ไม่รู้อะไรดลใจให้หญิงสาวเรียกชื่อเขาด้วยความเคยชิน อาจเพราะอดีตถ้าคุณาวินรู้ว่าเธอจะมาหา เขามักเปิดประตูต้อนรับพร้อมอ้อมแขนอันอบอุ่น ทว่าบัดนี้กลับว่างเปล่าสิ้นดี ไม่มีผู้ชายคนนั้นอีกต่อไป… “ฮึก…” เมื่อรู้ตัวสองขาซึ่งพยุงตัวเองให้มั่นคงกลับไร้เรี่ยวแรงเอาดื้อ ๆ เธอทรุดลงหน้าห้องอีกฝ่าย ขณะคีย์การ์ดและสัมภาระในมือเกลื่อนพื้นตามด้วยหยดน้ำตาที่ไหลลงเป็นทางยาว ร่างบางตัวสั่นพลางหยิบโทรศัพท์เครื่องเล็กออกจากกระเป๋าสะพาย ความดื้อดึงส่งผลให้ปลายนิ้วกดโทร. หาคุณาวินซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับเหมือนเดิม ‘ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก…’ ‘ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก…’ ‘ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก…’ พอเป็นเช่นนั้นหญิงสาวจึงกดหมายเลขคนรักถี่รัว หยดน้ำตาไหลทะลักพร้อมเสียงสะอื้นไม่ต่างกับคนเสียสติ ก่อนนี้ไม่เคยคิดว่าอานุภาพความรักจะทำให้มนุษย์คนหนึ่งโง่เขลา คลุ้มคลั่งกระทั่งมาเจอกับตนเอง เธอร้องไห้อย่างไม่อายทว่าในจังหวะเดียวกันเสียง แจ้งเตือนบางอย่างกลับดังขึ้นมา ปรากฏข้อความท่ามกลางสายตาที่พร่าเบลอ ติ๊ง! ‘ฝันดีนะลูก พรุ่งนี้เจอกัน’ มือที่จับสมาร์ตโฟนสั่นเทาจนถึงลาดไหล่และเสียงสะอื้นไห้ วินาทีนั้นเหมือนเข็มนับพันจู่โจมความรู้สึก นีนรตาทบทวนได้ในทันทีว่าตนน่าสมเพชขนาดไหน ขณะที่เธอกำลังรอคอยใครบางคนซึ่งไม่รักไม่เห็นค่าในตัวเธออย่างสิ้นหวัง กลับมีใครอีกคนที่พร้อมจะฉุดรั้งเธอให้หลุดพ้นจากเหตุการณ์แย่ ๆ เพราะฉะนั้นหยุดเถอะตั้งสติเสียที ก้าวข้ามวังวนเหล่านี้และเผชิญหน้ากับความจริง ถ้าไม่ลองเปิดประตูก็ไม่มีทางรู้ว่าสิ่งที่รอคอยจะเป็นดั่งคำที่นวลทองกล่าวหาหรือเปล่า สุดท้ายหญิงสาวจึงสูดหายใจเข้าปอดพยุงร่างกายแสนอ่อนล้าให้ลุกยืนแล้วแตะคีย์การ์ดดันประตูห้องเข้าไป บรรยากาศรอบข้างมืดสนิทคล้ายยืนยันไปในตัว เธอจึงกดเปิดสวิตช์กระทั่งไฟทุกดวงกระจ่างตา นัยน์ตาแดงก่ำกวาดมองไปทางโซนห้องครัวพบข้าวของ หลายอย่างเบาบางจนน่าตกใจ แม้ชะงักไปเล็กน้อยแต่นีนรตายัง ไม่เลิกล้มความตั้งใจ เธอเดินตรงไปทางห้องนอนซึ่งต้องทะลุอีก ด้านหนึ่ง พอเห็นเป้าหมายมือเล็กจึงผลักประตูที่ยังปิดไม่สนิทดี หลังจากนั้นจึงพาตนเองก้าวผ่านบานขวางกั้นดังกล่าว ชั่วขณะกลิ่นอายความอบอุ่นของวันวานกลับตีรวนขึ้นมาจนสมองรวมถึงโสตประสาทพร่าเบลอ หญิงสาวใช้สองมือยันฝาประคองตนเอง ผ่านไปหลายนาทีกว่านีนรตาจะเรียกสติให้กลับคืนมา พอเริ่มสังเกตดี ๆ พบว่าเสื้อผ้าคุณาวินหายไปกว่าครึ่ง แถม ของมีค่าตรงหัวเตียงก็ว่างเปล่า เห็นเช่นนั้นริมฝีปากที่ทั้งซีดและสั่นจึงแค่นยิ้มบาง ๆ ออกมา การที่อีกฝ่ายจากไปโดยไร้ซึ่งคำลา แต่กลับทิ้งความทรงจำครั้งเก่าระหว่างเรามันก็ชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือว่าคำพูดของนวลทองคือความจริง ทางที่คุณาวินเลือกทำเอาเธอแสบทรวงรวดร้าวไปทั้งหัวใจ ผ่านพ้นไม่กี่ข้ามคืนนีนรตากลับถูกอีกฝ่ายเขี่ยออกจากชีวิตไม่ต่างกับเศษขยะ ตอนนี้ในสายตาของสองแม่ลูกเธอคงน่าขัน คนตัวเล็กกัดฟันกรอดยามคล้อยตามความคิดเช่นนั้นเธอยิ่งปวดใจ สุดท้ายตัดสินใจคว้ากรอบรูปถ่ายใบเก่าทิ้งลงในถังขยะ ปลายเตียง เมื่อคุณาวินเลือกหันหลังให้เรื่องของเราอย่างถาวร ก็ไม่เหลือเหตุผลให้นีนตราอยู่ตรงนี้เช่นกัน… กลิ่นหอมฉุยของน้ำแกงป่าในครัวทำหญิงสาวที่เดินลงมา ชั้นล่างแย้มยิ้มบาง ๆ เท้าทั้งสองข้างย่องเบาตรงไปสวมกอดหญิง วัยกลางคน “หอมจัง” นีนรตาโน้มประทับรอยจูบข้างแก้มมารดาฟอดใหญ่ เกือบ สองเดือนที่ ‘นรี’ ไม่มาเยี่ยมลูกสาว หล่อนยุ่งกับงานจึงไม่สามารถปลีกตัว ประจวบกับ ‘อำพัน’ ผู้เป็นสามีเริ่มมีหลายโรครุมเร้าเท่ากับภาระหน้าที่ในสวนแสงจันทร์ทั้งหมดตกอยู่ที่หล่อนเพียงคนเดียว “แม่มาถึงนานแล้วเหรอจ๊ะ แล้วพ่อล่ะ พ่อมาด้วยหรือเปล่า” “โอ๊ย พ่อเราเขาข้อเข่าไม่ดีเข้าเมืองกรุงแต่ละที ไม่บ่นเมื่อยขาก็เมื่อยหลังให้พักผ่อนอยู่ที่บ้านสวนนั่นแหละ วันนี้แม่มาคนเดียวคิดถึงนีน เป็นไงบ้างลูกไม่เจอกันหลายเดือน ทำงานเหนื่อยหรือเปล่าสบายดีไหม” “แค่แม่มาหานีนก็หายเหนื่อยแล้ว ผลไม้ที่สวนเราเป็นยังไงบ้างจ๊ะ ปีนี้ขายได้หลายบาทเลยสิ” “ก็มีพวกนายทุนมาเหมาซื้อไป ได้กำไรหลายตังอยู่แหละ แต่บางส่วนแม่ก็เก็บไว้เองด้วย พวกนี้หน้าเลือดขายหมดไม่ได้หรอกนีน” นรีส่ายหน้าพลางบ่นอุบอิบ สวนผลไม้แสงจันทร์เป็นหนึ่งทรัพย์สินที่นีนรตาเก็บหอมรอมริบซื้อให้บุพการี เพราะต้องการให้พวกท่านได้ทำในสิ่งที่ตนเองรัก แถมมีอาชีพที่มั่นคง “โหแม่ของนีนเก่งที่สุด” “ไม่ต้องมาชมแม่ เรานั่นแหละทำไมผอมลงแบบนี้ มาเลยมากินขนมจีนฝีมือแม่ดีกว่า น้ำยาป่าของโปรดนีนแม่จำได้” นรีลูบเรือนผมลูกสาวพลางหันตักอาหารจานร้อน ส่วนนีนรตาพอประสานสายตากับแม่ก็สะอึกในใจ เมื่อก่อนหน้านี้ที่กว่าจะพาตัวเองออกจากคอนโดคุณาวินและขับรถมาถึงบ้าน เธอนั่งร้องไห้เพียงลำพังราวเกือบสองชั่วโมง หยดน้ำตาไหลเปื้อนหน้าขณะฟุบลงกับพวงมาลัย การสูญเสียคนรักทั้งเจ็บปวดและน่าสมเพชในเวลาเดียวกัน เพราะขณะที่คนรอบข้างไม่ว่าจะครอบครัวและเพื่อนต่าง เห็นค่าในตัวเธอ ทว่านีนรตากลับพร่ำเพ้อทุ่มเทความรู้สึกให้ผู้ชายสารเลวจนหมดหน้าตัก ทั้งที่คุณาวินไม่คู่ควรกับความรักดี ๆ ด้วยซ้ำ ดังนั้นบทเรียนของการแยกทางคือครั้งต่อไปอย่าริอ่านรักใครมากกว่าตนเองเด็ดขาด หญิงสาวมองแผ่นหลังมารดาครู่หนึ่งจากนั้นจึงหมุนกายเดินกลับไปที่โต๊ะอาหาร วินาทีที่กำลังจะทรุดกายอยู่ ๆ อาการเวียนหัวกลับแล่นเข้ามาจนต้องคว้าเก้าอี้ใกล้ตัวเป็นแหล่งพักพิง แพขนตางอนยาวกะพริบเล็กน้อย เหมือนภาพข้างหน้าเชื่องช้าคล้ายโลก ใกล้หยุดหมุน “นีน เป็นอะไรลูก” นรีเห็นลูกสาวก็ปรี่เข้ามาอย่างไม่คิดชีวิต ใบหน้าซีดเซียวและท่าทีเหมือนใกล้เป็นลมทำเอาหล่อนหัวใจตกไปยังตาตุ่ม “ไม่สบายหรือเปล่านั่งพักก่อน เดี๋ยวแม่ไปหยิบยาดมในกระเป๋าให้” “ไม่เป็นไรหรอกคงพักผ่อนน้อยจ้ะแม่ เมื่อวานนีนทำงานหนักกว่าจะถ่ายงานเสร็จก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว” หญิงสาวปลอบประโลมท่านด้วยคำลวง มือบางรับความหวังดีจากมารดามาสูดดมสักพักอาการวิงเวียนจึงค่อย ๆ ดีขึ้น นรีสังเกตลูกสาวก็ได้แต่ถอนหายใจกลัดกลุ้ม ใบหน้าพริ้มเพราที่เคยมีรอยยิ้มสดใสบัดนี้หม่นหมองอมทุกข์ “แม่พูดกับนีนตรง ๆ เลยนะ ที่แม่มาหาเราวันนี้เพราะแก้มโทร. ไปเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ฟัง แม่เองพอเห็นข่าววินในทีวีก็เป็นห่วงนีน นีนเป็นลูกแม่นะ แม่เลี้ยงลูกแม่มาอย่างดีทำไมนีนต้องมาทนกับอะไรที่ทำให้ตัวเองไม่มีความสุขด้วย ผู้ชายคนนั้นทำนีนเสียน้ำตามากี่ครั้งแล้ว” “แม่…” พอได้ฟังคำพูดมารดานีนรตายิ่งเจ็บปวด แววตาสั่นระริกไม่กล้ามองหน้าท่านเต็มตาด้วยซ้ำ ความโง่เขลาเคยเพิ่มพูนอย่างไม่จบไม่สิ้น หญิงสาวให้อภัยคนหลอกลวงครั้งแล้วครั้งเล่าจนบางทีเธอยังสังเวชตนเอง “ลูกสาวแม่สวยที่สุดตอนยิ้มรู้ไหม เพราะฉะนั้นอย่าให้ใครมาทำให้รอยยิ้มนี้ของหนูหายไป… ถ้าไม่มีความสุขก็หย่า ผู้ชายคนนั้น ไม่มีค่าพอกับความเสียใจของนีนหรอกเชื่อแม่”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม