บทที่8

1445 คำ
เพนต์เฮาส์หรูริมทะเลเต็มไปด้วยความเปลี่ยวเหงา ชายหนุ่มเจ้าของมัดกล้ามได้รูปทิ้งตัวลงบนโซฟา มือแกร่งหยิบหนังสือ เล่มโปรดจากนั้นจึงพลิกหน้ากระดาษเปิดอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า คุณาวินกบดานที่นี่ราวเกือบสามอาทิตย์ วันนั้นหลังชายหนุ่ม ปล่อยใจระบายความหนักอึ้งที่ร้านเหล้าเจ้าประจำ ตกดึกของค่ำคืนนั้นเขาได้รับโทรศัพท์จากผู้จัดการส่วนตัวเพราะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นกะทันหัน ‘ตอนนี้วินอยู่ไหน’ ‘ผมมาดื่มกำลังจะกลับห้อง มีอะไรรึเปล่าพี่ทำไมเสียงพี่เครียดแบบนั้น’ โทนเสียงกังวลผ่านปลายสายทำคนตัวสูงขมวดคิ้ว มวนบุหรี่ในมือชะงักกลางอากาศพลางสอดส่องสายตามองซ้ายขวาเพราะกลัวใครจะเห็นตนในแหล่งอโคจร ‘ไม่ต้องกลับห้องแล้วนะ คืนนี้หาโรงแรมใกล้ ๆ พักไปก่อน พรุ่งนี้พี่จะให้รถไปรับเราแต่เช้าเตรียมตัวออกต่างจังหวัดได้เลย’ ‘ออกต่างจังหวัดพี่จะให้ผมไปไหน พรุ่งนี้เรามีถ่ายงานไม่ใช่เหรอ’ ‘พี่แคนเซิลทุกอย่างแล้ว วินรู้หรือเปล่าตอนนี้ตัวเองกำลังโดนอะไรอยู่’ ‘โดนอะไร เดี๋ยวนะพี่ เกิดอะไรขึ้นผมงงไปหมดแล้ว’ ‘เรากำลังโดนแบล็กเมล นักข่าวที่ไหนไม่รู้ส่งภาพวินกับยัยเด็กนั่นมาให้พี่ ไม่ใช่แค่รูปเดียวนะมีเป็นสิบ ๆ รูป มันคงแอบถ่ายมาตั้งแต่เข้าวงการ ช่วงนี้วินหลบไปก่อนดีกว่า อย่าเพิ่งติดต่อใครเดี๋ยวพี่จัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยเราค่อยกลับมารับงาน’ ‘แล้วนีนล่ะ นีนรู้เรื่องนี้หรือยังพี่’ ‘พี่ไม่รู้ แต่วินไม่ต้องติดต่อใครทั้งนั้นพรุ่งนี้พี่ให้คนไปรับแล้วจะยึดโทรศัพท์เรามาเก็บไว้ด้วย’ ‘แต่พี่ผมเป็นห่วงนีน…’ ‘ก่อนห่วงคนอื่น ห่วงตัวเองก่อนเถอะอนาคตจะเป็นไงต่อยัง ไม่รู้เลย ถ้าวินอยากให้เรื่องนี้จบสวย ๆ ก็แค่เชื่อฟังพี่!’ พรชิตาตัดสายทันทีหลังออกคำสั่งจบตามประสาผู้จัดการ เจ้าบงการ หลังคืนนั้นคุณาวินติดต่อใครไม่ได้อีกเลย เขาติดแหง็ก อยู่ในเพนต์เฮาส์กลางหาด ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ พรางตัวไป เดินเล่นใช้ชีวิตโดยการหายใจทิ้งไปวัน ๆ สองสามวันครั้งพรชิตาถึง จะแวะมาอัปเดตข่าว และก็ได้คำตอบเหมือนเดิมคือหาตัวการและหลักฐานเรื่องบัดซบไม่สำเร็จ เหตุการณ์ดังกล่าวเล่นเอาคุณาวินหงุดหงิดจนแทบคลั่ง ถ้าเจอไอ้เวรนั่นเมื่อไรนะชายหนุ่มสาบานว่าจะประทานหมัดให้มันสำนึกเสียบ้าง การสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องคนอื่นควรถูกเอาคืนถึงพริกถึงขิงเช่นกัน “แม่งเอ๊ย!” คนอารมณ์ร้อนกระแทกหนังสือบนโต๊ะไม่พอยังเตะถังขยะ ข้างโซฟาไปหนึ่งที เสียงแหบห้าวสบถคำหยาบสารพัดก่อนเดิมดุ่ม ๆ เตรียมเปิดประตูออกไปข้างนอกแต่ดันเจอมารดาสวนเข้ามาพอดี “แกจะไปไหน” “ผมเบื่อแม่ อยากคุยให้มันจบ สรุปเรื่องบ้า ๆ นั่นมันยังไงกันแน่” “ยังไงอะไรของแก กลับเข้าไปข้างในเลยวันนี้ฉันมีคำตอบให้แกแล้ว” นวลทองเอ่ยหน้าเครียด มือหมุนร่างกำยำให้หันหลังกลับตามเดิม “แม่รู้แล้วเหรอว่าใครเป็นตัวการ” “ถ้าไม่รู้วันนี้ฉันจะถ่อมาหาแกถึงที่นี่เหรอ” หล่อนจิ๊ปากคล้ายรำคาญคำถามคุณาวินเสียเต็มประดา ทั้งคู่พากันตรงไปทางห้องนั่งเล่นเพราะข้อมูลที่ได้รับมาน่าจะต้องคุยกันยาว ถึงจะทรุดกายนั่งไขว่ห้างสบาย ๆ แต่ใบหน้าหล่อเคร่งขรึมไม่สู้ดี มือสองข้างสั่นระริกสะท้อนให้เห็นว่าดาราหนุ่มร้อนรนขนาดไหน ตอนนี้เขาอยากรู้ใจแทบขาดใครกันแน่เล่นตลกร้ายกับชีวิต “ดูให้เต็มตาหลักฐาน เมียแกนั้นแหละที่ให้ไอ้สวะนั่นถ่ายภาพบ้า ๆ เก็บไว้!” นวลทองเทรูปถ่ายทั้งหมดลงก่อนยื่นข้อมูลการติดต่อซึ่งปรากฏเบอร์โทรอย่างชัดเจน “เป็นไปไม่ได้ นีนจะทำแบบนั้นไปทำไม” คุณาวินหยิบเอกสารพิจารณาไม่ถึงวินาที มือแกร่งจึงปากระดาษเฮงซวยลงพื้นไม่ต่างกับขยะชิ้นหนึ่ง “หึ ฉันจะไปรู้ใจเมียแกเหรอ มันคงไม่อยากหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยากมีตัวตนมั้ง แกทะเลาะกันเรื่องพวกนี้ตลอดไม่ใช่เหรอ ขนาดมันรู้ว่าแกจำเป็นต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวมันยังไม่เข้าใจเลย ตอนแกมีกระแสจิ้นกับหนูเมนี่มันก็งี่เง่ามีปัญหากี่ครั้งแล้ว จำไม่ได้เหรอ” “ไม่จริง… แม่เอาอะไรมาพูด” นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนไหวระริกตามความสับสนข้างใน แม้ทำทีคล้ายไม่เชื่อทว่าลึก ๆ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความกลัวกำลังคืบคลานสู่ ใจแกร่ง คุณาวินกำลังหวั่นเกรงว่าจะถูกหักหลัง ทั้งที่ตนควรรู้จัก นีนรตาดียิ่งกว่าใครทั้งนั้นบนโลก “ถ้าฉันหอบหลักฐานมาให้แล้วแกไม่เชื่อ งั้นคุณพิชชี่พาไอ้ช่างภาพคนนั้นมาเมื่อไรแกก็คุยกับมันเองแล้วกัน แต่ขอร้องอย่า หลับหูหลับตาบูชาความรักจนโง่ ความรู้สึกคนเรามันเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ยิ่งตอนนี้แกกำลังมีชื่อเสียงกำลังดังไม่แปลกอะไรถ้า วันหนึ่งเมียแกจะกลัวแกทิ้งเลยต้องหาวิธีแบล็กเมล” “พอเถอะผมไม่อยากฟัง” ร่างสูงลุกยืนหลังพูดจบ “นั่นแกจะไปไหนวิน!” แต่มีหรือนวลทองจะปล่อยให้ลูกชายได้ทำตามใจปรารถนา หล่อนคว้าแขนยาวจากนั้นออกแรงฉุดรั้งคุณวินจนอีกฝ่ายไปไหนไม่รอด “ผมจะไปจากที่นี่ไปคุยกับนีนให้รู้เรื่อง เราคบกันมาตั้ง หลายปี นีนไม่มีทางทำร้ายผมหรอกแม่!” “ไม่! ฉันไม่ให้แกไปไหนทั้งนั้น! แกต้องอยู่ที่นี่รอคุณพิชชี่เคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อย ขอร้องล่ะวินเลิกสร้างปัญหาสักที แกอยากถูกปลดจากพรีเซนเตอร์หรือไง แกมีเงินจ่ายค่าปรับสัญญาเหรอ!” “ถ้าผมไม่ไปผมจะรู้เหรอว่าความจริงคืออะไร บางทีไอ้เวรนั่นอาจจะใส่ร้ายนีนก็ได้ แม่ปล่อยเหอะ ผมต้องคุยกับนีนจริง ๆ” “ใส่ร้าย ? ใส่ร้ายบ้าอะไร แล้วเบอร์ที่โทร. เข้ามาหลายวันก่อนมันคืออะไร แกจะอ้างอะไรแทนเมียแกอีก” “แม่… พอเถอะเลิกมองนีนในแง่ร้ายสักที” “ฉันพูดเพื่อให้แกได้เห็นความจริง เด็กนั่นมันก็รักตัวเองเหมือนกัน แกคิดเหรอว่ามันจะยอมเสียผลประโยชน์ถ้าวันหนึ่ง พวกแกเกิดเลิกกันขึ้นมา หลักฐานชิ้นนี้ไม่ใช่เหรอที่จะทำให้ชีวิตแกพัง” “แม่…” “ฟังแม่นะวิน รออยู่ที่นี่ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้จัดการแก ถ้าเมียแกบริสุทธิ์จริงแกมีอะไรให้ต้องกลัว คุณพิชชี่เขาเป็นผู้ใหญ่แล้วนะเรื่องแบบนี้เขาไม่ใส่ร้ายใครสุ่มสี่สุ่มห้าหรอก” หล่อนจับใบหน้าลูกชาย น้ำเสียงแข็งกร้าวอ่อนลงจนน่าตกใจ “แม่เข้าใจว่าแกกับผู้หญิงคนนั้นผ่านอะไรด้วยกันมา หลายอย่าง แต่เชื่อแม่เถอะวิน รอเฉย ๆ ทุกอย่างจะจบลงด้วยดี แม่สัญญา” แววตาจริงจังสบตาลูกชายคล้ายเน้นย้ำให้เชื่อมั่นในคำสัญญา แต่คุณาวินจะรู้หรือไม่ว่าทั้งหมดคือกับดักซึ่งถูกวางแผนไว้แล้วดิบดี นวลทองไม่มีทางปล่อยให้โอกาสครั้งนี้หลุดมือ เพราะหล่อนเองก็อยากกำจัดหนามยอกใจอย่างนีนรตามาโดยตลอด ยิ่งพรชิตาร่วมด้วยยิ่งมั่นใจได้เลยแผนการครั้งนี้ต้องสำเร็จ การทำให้คุณาวินเชื่อใจไม่ยากอะไรนักแค่ต้องเกลี้ยกล่อมให้ถูกวิธี ดังนั้นหน้าที่มาคุยกับเขาวันนี้ก่อนปิดฉากความรักอันเนิ่นนานวันพรุ่งจึงตกเป็นของหล่อน โดยปริยาย “แม่แน่ใจใช่ไหมว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย” “แน่นอนสิ คุณพิชชี่ติดต่อตากล้องคนนั้นแล้วพรุ่งนี้แกอยากคาดคั้นอยากถามอะไรก็ตามใจแกเลย จะเอาหลักฐานพวกนั้นส่งให้เมียแกก็ได้ แต่วันนี้อยู่ที่นี่ก่อนอย่าใจร้อน” “ก็ได้ ผมจะลองเชื่อแม่ดูสักครั้ง” “เชื่อแม่ครั้งนี้รับรองแกไม่ผิดหวังแน่ลูกชาย”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม