02
วันต่อมา
9.56 am.
ติ๊ดๆ..พรึบ
"อื้อ.."
ปวดหัว พอขยับตัวก็ปวดตัว..ฉันถอนหายใจออกมาเสียงดังก่อนจะลืมตาอันหนักอึ้งของตัวเองขึ้นและเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่กำลังดังอยู่บนเตียงมากดรับอย่างนึกรำคาญ เพราะไม่รู้จริงๆว่าใครมันจะโทรมาเวลานี้
"ฮัลโหลเก้าพูดค่ะ"
(ฮัลโหลครับ? เอ่อคือผมขอคุยกับคุณทอยหน่อยได้ไหม?)
"คุณทอย...ใครอ่ะ?"
ฉันขมวดคิ้วก่อนจะเอาโทรศัพท์ที่แนบหูมาดูสายที่โทรเข้า ซึ่งมันมีชื่อว่า ผู้จัดการ แอ๊ะฉันมีคนชื่อนี้ในเบอร์อยู่เหรอ?
"ฉันว่าคุณโทรผิดนะคะ"
(เอ่อ แต่นี่โทรศัพท์คุณทอยนะครับ)
"คะ?"
พรึบ..
"เอ๋?"
อะไรอ่ะ ฉันหันมองตามแขนของใครก็ไม่รู้ที่เอื้อมมาแย่งโทรศัพท์จากมือฉันไปก่อนดวงตาฉันเบิกตากว้างมองไปที่ด้านหลังตัวเองที่ตอนนี้มีใครอีกคนกำลังนอนตะแคงมาทางฉันอยู่
"พี่ทอย!?"
"ชู่ว์"
ฉันยกมือปิดปากตัวเองทันทีหลังพี่ทอยยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปากตัวเองก่อนดวงตาจะเบิกกว้างมองร่างกายตัวเองที่โผล่พ้นผ้าห่มออกมา ซึ่งตอนนี้มันโป๊ไปหมดจนต้องกำผ้าห่มไว้แน่นเงยหน้ามองร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามที่กำลังขยับลุกยืนทั้งที่ไม่ได้ใส่อะไรแม้แต่ชิ้นเดียวด้วยความตกใจ
"ฮัลโหลทอยพูดครับ...ครับจำได้...ไม่ต้องเดี๋ยวไปเจอกันที่กองเลย..ครับแล้วเจอกัน"
ฉันละสายตาจากภาพร่างกายที่ดูดีราวกับรูปปั้นพระเจ้าที่เคยปั้นเพื่อคิดว่าฉันมาอยู่ในสภาพแบบนี้กับเขาได้ยังไง เดี๋ยวนะเมื่อคืนฉันกินเหล้ากับคนในกลุ่มแล้วน่าจะดื่มไปมากอยู่...แต่แล้วทำไมฉันกับพี่ทอยถึงมานอนด้วยกันด้วยสภาพแบบนี้ได้ล่ะ!?
"เธอดิ้นแรงนะเวลานอน"
ฉันหันไปมองพี่ทอยอีกครั้งหลังเขาคุยโทรศัพท์เสร็จ แต่ก็ต้องหันหน้าหนีอีกครั้งเพราะเขายังไม่สวมเสื้อผ้าเลย!
"พี่ทอยมาอยู่นี่ได้ไงคะ?"
"เธอลากมาน่ะสิ"
"ได้ไง!?"
"พี่ลงจากแท็กซี่ไปอ้วกแล้วแท็กซี่ก็เหมือนจะหนีพี่ที่ขับรถผ่านเลยไปช่วย แล้วพอเธอรู้ว่าเป็นพี่เธอก็ลากพี่มานี่แหละ"
"แล้วพี่ก็มาเนี่ยนะ!?"
ฉันขมวดคิ้วอย่างไม่อยากจะเชื่อ ก่อนจะเหลือบมองพี่ทอยอีกครั้ง...เฮ้อ ดีหน่อยเขาสวมกางเกงแล้ว
"เธอเมาขนาดนั้นแล้วจะให้ทิ้งไว้กับแท็กซี่แบบนั้นคนเดียวได้ยังไง"
"เมื่อคืนเรามีเซ็กส์กันเหรอคะ?"
พี่ทอยเลิกคิ้วมองฉันด้วยความประหลาดใจก่อนเขาจะหันมองรอบๆตัวเราทำให้ฉันต้องหันมองด้วย พร้อมกับความจริงที่ค่อยๆหลั่งไหลเข้ามาในหัว ทั้งหมอนหนุนหมอนข้างต่างตกลงไปข้างเตียงรวมถึงเสื้อผ้าไม่เว้นแม้แต่ถุงยางที่ใช้แล้วที่ถูกทิ้งระเกะระกะอยู่ใต้เตียง
"สภาพขนาดนี้แล้วจะเหลืออะไรล่ะ"
พี่ทอยเสยผมตัวเองขึ้นก่อนจะก้มลงไปหยิบเสื้อยืดตัวเมื่อคืนมาสวมใส่และเงยหน้ามามองฉันอีกครั้ง
"อยากให้รับผิดชอบไหม?"
"คะ?"
"ก็เรื่องเมื่อคืนไง"
ฉันเบิกตามองพี่ทอยที่หันกลับมามองก่อนเขาจะเลิกคิ้วเป็นเชิงถามขณะที่ฉันกำลังนั่งนิ่งอยู่ที่เตียง
"อย่าว่าพี่มากเรื่องนะแต่ไม่อยากมีปัญหากับบริษัทถ้ามีข่าวน่ะ"
ลืมไปซะสนิทว่านอกจากพี่ทอยจะเป็นเพื่อนร่วมกลุ่มแล้วเขายังเป็นนายแบบอีก..นายแบบดังด้วย ดังมากๆเลยล่ะ
"อยากให้รับผิดชอบยังไง.."
"ไม่เป็นไรค่ะ เก้าว่าเก้าน่าจะผิดด้วยซ้ำที่เมาแล้วก่อเรื่อง" ฉันเม้มปากแน่นและทำใจกล้ามองสบตาคมที่กำลังมองมา "พี่ไม่ต้องห่วงนะคะเก้าไม่พูดถึงเรื่องเมื่อคืนแน่นอน"
เพราะเอาจริงคือฉันจำอะไรแทบจะไม่ได้อยู่แล้ว พี่ทอยหรี่ตามองด้วยความสงสัยแต่ไม่นานเขาก็พยักหน้าและหยิบกระเป๋าตัวเองมาสะพาย
"แล้วร่างกายเธอโอเคไหม"
"คะ เอ่อ..โอเคค่ะไม่ได้เจ็บอะไรมาก"
"มันคงเจ็บนิดๆถ้าเธอไม่ได้ทำนานแต่ไม่นานคงดีขึ้น"
พี่ทอยตอบกลับเสียงเรียบ ก่อนจะเดินมาข้างเตียงพร้อมยื่นโทรศัพท์เขามาให้ฉัน
"ขอเบอร์หน่อย"
ฉันรับเอาโทรศัพท์พี่ทอยมากดเบอร์ตัวเองอย่างว่าง่ายก่อนจะยื่นกลับให้เขาด้วยความประหม่า
"พี่ยิงเบอร์ให้เธอแล้วถ้าไม่โอเคตรงไหนก็โทรหานะ"
"เบอร์พี่เหรอคะ?"
"ใช่ ขอโทษที่ไม่ได้ดูแลมากกว่านี้นะพอดีมีงาน"
ฉันพยักหน้าอย่างคนใจลอยก่อนเขาจะใช้นิ้วเคาะที่หน้าผากฉันเบาๆ จนฉันสะดุ้งเงยหน้ามองเขาที่กำลังโน้มลงมามองสบตากันจนฉันชะงักไปอีกครั้ง
"ต่อให้เสียใจมากแค่ไหนก็อย่าทำแบบนี้อีกนะ รู้แล้วใช่ไหมว่ามันไม่คุ้มเสีย"
พี่ทอยยิ้มให้ก่อนเขาจะลูบหัวฉันด้วยสัมผัสอ่อนโยนก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากห้องนอนปล่อยให้ฉันนั่งเอ๋ออยู่คนเดียวอีกครั้ง..
"อะไรอ่ะ"
ฉันทิ้งตัวนอนหงายไปกับเตียงเพราะยังสงสัยไม่หาย ก่อนจะหลับตาพยายามนึกถึงเรื่องเมื่อคืนให้ได้ อะไรที่พี่ทอยว่าไม่คุ้มเสีย...ริมฝีปากฉันเม้มเข้าหากันแน่นพร้อมกับมือที่ยกขึ้นมาลูบท้องน้อยตัวเองด้วยความสงสัย
แม้จะจำเรื่องราวเมื่อคืนไม่ได้ แต่ความรู้สึกวูบวาบภายในมันทำให้ฉันทำอะไรไม่ถูก...ฉันไม่รู้ว่าเมื่อคืนทำอะไรไปบ้างแต่ฉันกลับรู้สึกว่ามันรู้สึกดีมากๆเลยนะ
"ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเสียอะไรไปเลยนิ"
ฉันก้มมองหน้าท้องตัวเองก่อนจะเม้มปากอีกครั้ง เพราะเมื่อคืนมันรู้สึกดีมากๆจนคิดว่านั้นคือความฝันน่ะสิ...
1.22 pm.
ติ่งต่อง
เสียงออดที่ดังทำให้ฉันที่กำลังนั่งดูหนังอยู่หันมองด้วยความสงสัย แต่ก็ต้องเดินไปที่ประตูก่อนจะรีบเปิดเมื่อเห็นว่าใครมาหา
"มึงหายเงียบไปเหมือนตาย"
ปอทักด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งก่อนมันจะเดินเข้ามาให้ห้อง ก่อนฉันจะถูกเพื่อนอีกคนพุ่งเข้ามากอดซะจนฉันเกือบจะล้ม
"มึงอึ่ก กูฟังเรื่องมึงมาจากไอ้ปอแล้วฮื่อ"
"ใจเย็นฟาอย่าร้องนะอย่าร้อง"
ฉันหันไปมองค้อนใส่ปอทันทีแต่ปอก็คือปอ ยัยนั้นยักไหล่ใส่ก่อนจะหันไปวางถุงที่ถือมาเต็มไม้เต็มมือลงที่โต๊ะฉันจึงต้องหันมากอดปลอบฟาอีกครั้ง
"ฟาเราไม่เป็นไรแล้ว เราโอเคแล้ว"
"จริงเหรอนี่เก้าโอเคทั้งๆที่เพิ่งเลิกกับแฟนเนี่ยนะ!?"
"ก็นะ.."
ฟาผละตัวออกก่อนจะรีบเช็ดน้ำตาตัวเองและมองฉันด้วยแววตาแข็งขึ้น
"แต่ก็ดีแล้วที่เลิกกับไอ้เหี้ยอย่างไอ้ออแกนไป ขอให้มันไม่ตายดีเลยไอ้เหี้ย!"
ฉันยิ้มขำกับความเปลี่ยนแปลงในอารมณ์ของฟาที่เปลี่ยนได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที
"เก้ากินข้างรึยังฟากับปอซื้อข้าวกับขนมมาเยอะแยะเลย แล้วเมื่อวานเป็นไงบ้างกลับถึงห้องปลอดภัยไหมทำไมปอมันว่าไม่ได้กลับพร้อมกันแถมยังติดต่อไม่ได้อีก?"
"ไม่ได้กลับพร้อมกันเหรอ?"
ฉันหันมองปอด้วยความสงสัยขณะที่ปอก็พยักหน้า และขมวดคิ้วมองฉันอย่างหงุดหงิด
"กูไปส่งมึงขึ้นแท็กซี่ เพราะมึงบอกว่ามึงอยากกลับส่วนกูก็ต้องเอาพวกที่เหลือที่เมากลับกูน่ะคิดว่ามึงไม่เมามากไง เพราะก่อนแยกมึงก็ยังคุยกับกูดีๆอยู่"
"จริงไหมเก้า?"
"อ่อ..ใช่ๆมันเป็นแบบนั้นแหละฟา"
"เฮ้อเก้าพูดงี้เราก็หมดห่วงไปเถอะไปกินข้าว ดูซิโทรมยังกะอะไร"
ฟาดึงให้ฉันไปนั่งด้วยกันบนโซฟาพร้อมกับหาข้าวหาปลามาให้ฉันกินท่ามกลางสายตาของปอที่กำลังมองดูอยู่ ฉันได้แต่ยิ้มเพราะไม่รู้จะบอกเพื่อนยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้น และอีกอย่างฉันไม่อยากให้ปอรู้สึกผิดที่ไม่ได้มาส่งฉันถึงที่ แล้วก็นั่นแหละถ้าเธอรู้เรื่องของพี่ทอยอีกมันจะยิ่งแย่น่ะสิ
"อันนี้อร่อยนะกินๆ"
"อืม ขอบคุณนะฟา"
"ไม่เป็นไรเลย"
ฟายิ้มให้ด้วยความอ่อนโยน และฟาเป็นเพื่อนที่คนละลุคกับฉันและปอเลยนะ เธอน่ะมักจะแต่งตัวน่ารักทุกวันและเธอเองก็น่ารักมากๆอยู่แล้วด้วย แต่ฟาเรียนคนละคณะกับเราน่ะเลยไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย
"มึงโอเคแล้วจริงๆใช่ไหม?"
ฉันหันมองปอหลังจากที่กินข้าวเสร็จก่อนจะยิ้มให้มันอย่างเหนื่อยๆ
"ก็โอเคแหละแต่ก็ยังไม่พร้อมจะเจอหรืออะไรออแกนมันหรอกนะ"
"แล้วของมันที่ห้องมึงล่ะทำไง"
"จะเก็บใส่กล่องแล้วส่งไปให้เอาน่ะ จริงๆก็เก็บไปแต่เช้าแล้วของมันก็ไม่ได้มีเยอะอะไร"
"ดีแล้ว"
"แต่ไอ้เหี้ยนั้นมันก็เกินไปนะเอาจริงๆ คือฟาอยากให้เลิกตั้งแต่จับได้ครั้งก่อนว่ามันแอบคุยกับดาวคณะวิทลัยการเมืองแล้วอ่ะ แต่ปากมันนี่ดีเกิน"
"ดีดิไม่งั้นเพื่อนเราจะให้อภัยได้เป็นร้อยครั้งรึไง ดีนะที่ครั้งที่ร้อยเอ็ดยังยั้งได้"
ฉันได้แต่ยิ้มเพราะที่เพื่อนๆพูดมันจริงทั้งหมด และใช่ออแกนน่ะทำผิดมามากกว่าหนึ่งครั้งแล้วไม่งั้นฉันก็คงไม่เอ่ยปากขอเลิกไปหรอก
"ครั้งนี้ทนไม่ไหวจริงๆน่ะ มันทำแย่เกินไปทำเหมือนเราไม่มีความรู้สึกทำเหมือนว่าเราไม่ใช่แฟนมัน"
"มันเหี้ยจริงๆ"
ฟาขยับมากอดฉันไว้ขณะที่ฉันกำลังพยายามอย่างหนักที่จะไม่ร้อง แต่ถึงยังไงเรื่องนี้มันก็ยังคงร้ายแรงสำหรับฉันอยู่ดี
"อึ่ก เราไม่เคยทำอะไรผิดกับมันสักครั้งเลยนะแต่ทำไมมันถึงไม่หยุดสักทีอ่ะฮื่อ..มันมีแค่เราไม่ได้เหรอ?"
"คนมันมักมากสันดานมันแก้ไม่หายหรอก ในเมื่อมึงเลิกกับมันแล้วมึงก็ต้องเริ่มใหม่หันมาดูแลตัวเองให้มันเห็นว่าคนอย่างมันไม่ได้มีค่าอะไรขนาดนั้น"
ปอเอ่ยเสียงเรียบพลางลูบหลังฉันขณะที่ฟาก็พยักหน้าพร้อมเช็ดน้ำตาออกจากแก้มให้ฉันอย่างทะนุถนอม แต่ความอ่อนโยนของเพื่อนมันทำให้ฉันร้องไห้หนักกว่าเดิมอีกนะแต่มันก็เป็นการร้องไห้ที่ปลดปล่อยได้ดี...ดีมากจริงๆที่มีเพื่อนดีๆน่ะ