มาริสากลอกตากับคำถามของฟลินน์ แล้วตอบคำถามของชายหนุ่มว่า “เพื่อนสนิทของคุณนั่นแหละจู่ๆ ก็เอาคุณมาโยนทิ้งไว้ที่นี่” น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองที่ฟลินน์ไม่เข้าใจ “รู้ไหมคุณทำตัวยังไงเมื่อคืนนี้” คำถามย้อนกลับของเธอทำให้เขาตีหน้าตาย “…ใครจะไปรู้” เขายักไหล่ แต่ถ้าเดาจากที่เธอไม่ได้โกหกว่าเขาร้องไห้ครวญคราง มันจะ ต้องเกิดเรื่องน่าขายหน้าอะไรขึ้นมาแน่ๆ คราวนี้เขาเห็นยายแคระขยับตัวตรง เธอจ้องมองเขาเต็มๆ ตาเป็นครั้งแรกหลังจากที่พยายามหลบสายตาเขาไปมาอยู่หลายครั้ง ท่าทางจริงจังของเธอพลอยทำให้ฟลินน์ขยับตัวตามแล้วตั้งใจฟังเธอไปด้วยโดยไม่รู้ตัว “เอาละ…ฉันว่าเราควรหันมาพูดกันอย่างจริงจังและเปิดอก เอาแบบแมนๆ คุยกันเลย กว่าสามสี่เดือนที่ต้องมาวิ่งไล่คุณเนี่ย เหนื่อยเต็มทนแล้ว” แมนๆ คุยกัน เขาทวนคำพูดเธอในใจ กะพริบตาปริบๆ มองคนตรงหน้าที่มองยังไม่ก็ไม่ได้มีอะไรตรงกับคำว่า แมนๆ เลยแม้แต่น้อ