ฉันควรรู้สึกแบบไหน กับคำว่า 'รอ' ที่คนเป็นเพื่อนขอไว้ มันเคยทำเหมือนมีใจ แล้วมันก็จากลาไปง่ายๆ
แล้วตอนนี้มันก็กลับมา ในเวลาที่ใจของฉันยังไม่แข็งแรงพอ ฉันควรทำตามที่มันขอไหม
กว่าไอ้ตองจะกลับไปได้ มันพร่ำคำว่ารักออกมาตั้งมากมาย แล้วฉันก็ไม่แน่ใจ ว่าจะเชื่อคำพูดของมันได้อยู่ไหม
ในเมื่อข้างกายของมันยังมีใคร แล้วมันจะเอาฉันไปไว้ที่ไหน
เสียงไลน์ของฉันแจ้งเตือนเข้ามา แล้วในวันนี้มันก็ดังแทบนับครั้งไม่ได้ เพราะตั้งแต่ที่มันเอามือถือของฉันไปเพื่อปลดบล็อกให้ตัวเอง มันก็กระหน่ำแชทเข้ามา โดยไม่นึกว่าฉันจะหนักใจ!
หนักใจที่มันยังมีใคร
แล้วก็หนักใจ ที่มันจะบังคับให้ฉันเป็นมือที่สามแบบไม่ได้ตั้งใจ
ซึ่งความเป็นจริง สิ่งนี้ฉันไม่เคยคิดทำ!
'อยู่ไหน ขอไปรับได้ไหม.... '
ไอ้ตองแชทเข้ามาใหม่ และฉันจำเป็นต้องตอบกลับไป เพราะกลัวใจ ว่ามันจะนั่งคอย
'กูกลับดึก ไม่ต้องมารอหรอก... '
'แต่กูรอไดั กูขอไปรับนะ.... '
ฉันตั้งท่าจะปฏิเสธออกไป ถ้าไม่ติดที่ว่า มีข้อความเด้งเข้ามาใหม่
'แล้วเจอกัน กูขอขับรถก่อน.... '
ฉันเลยได้แต่ทอดถอนหายใจ
จะรอ แบบที่มันขอไว้ ก็สงสารคนมาใหม่ แต่ถ้าจะไม่ให้อภัย ก็คงจะขัดกับความรู้สึกตัวเองเกินไป
เพราะสุดท้าย ตอนนี้ฉันก็ปฏิเสธใจตัวเองไม่ได้ ฉันรู้สึกกับมันไปมากมายจริงๆ
ไอ้ตองมารอรับแบบที่มันว่าเอาไว้ มันดูเอาใจใส่ และขยันเอาอกเอาใจ จนฉันอดคิดไม่ได้ ว่าทำไมมันลืมง่ายจัง
ตอนนั้นมันทำเหมือนโกรธฉันจะเป็นจะตาย จากนั้นมันก็มีคนใหม่แบบง่ายๆ แล้วมันก็กลับมาหาฉันอย่างง่ายดาย จนฉันไม่สามารถแยกแยะได้ ว่าสรุปแล้ว มันต้องการอะไร
ฉัน : มึงทำแบบนี้ไม่ได้นะตอง
ฉันรีบเตือนสติมันใหม่ ในตอนที่เราเข้ามานั่งในรถด้วยกัน
ฉัน : มึงยังมีเขา แล้วเราก็ทำแบบนี้ไม่ได้!
ตอง : แต่มึงก็รู้ว่ากูไม่เคยรักใคร กูรักแค่มึง!
ฉัน : แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ถูกป่ะ มึงเป็นคนเอาเขาเข้ามา แล้วมึงจะทิ้งเขาง่ายๆงี้หรอวะ
ตอง : ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นได้ป่ะ กูจะเคลียเรื่องนั้นให้ แต่มึงต้องสัญญา ว่ามึงจะรอกูกลับมาหา กูขอแค่นั้นได้ไหมล่ะ!
ฉันไม่ได้ตอบอะไรออกมา และไม่ได้ปฏิเสธกลับไปเช่นกัน กลุ่มเพื่อนทุกคนรับรู้การเปลี่ยนแปลงของพวกฉัน แต่พวกมันไม่ได้ออกความเห็นใดๆ นอกไปจากคำว่า 'ใครสร้างปัญหา มันก็ต้องมีปัญญาแก้ไขเอง'
สองสัปดาห์ที่ไอ้ตองตามรับตามส่งฉัน สองสัปดาห์ที่มันเอาใจใส่กัน แล้วก็สองสัปดาห์ที่มันพร่ำบอกว่ารักฉันทุกวัน
มื้อเที่ยงของวัน ฉันเลือกที่จะทานอาหารจากร้านใกล้ๆ แล้วฉันก็นั่งกินไปได้ไม่เท่าไหร่ ปัญหาก็วิ่งเข้าใส่ทันที
'พี่ทำแบบนี้ได้ยังไง.... '
ฉันถูกปากกาขว้างใส่ ฉันจึงจำเป็นต้องหันไปหาตัวต้นเหตุโดยปริยาย จากนั้นจึงได้รู้ว่าใคร ที่เป็นคนปามันใส่ฉัน
น้องเตยของไอ้ตอง!
เตย : เตยไม่รู้ว่าเมื่อก่อนพวกพี่คบกันแบบไหน แต่ตอนนี้พี่ตองคบกับเตย พี่ปิดหูปิดตาไม่รับรู้แบบนี้ได้ยังไง!
เธอตะคอกเสียงใส่ แล้วคนรอบข้างก็หันมาสนใจที่เราทันที
เตย : เป็นเพื่อนกันแล้วมันหวั่นไหว ก็เลยจะกินกันเองงี้หรอ
ฉัน : มันจะมากเกินไปป่ะ มีอะไรควรไปเคลียกันเองดีกว่าไหม
เตย : เคลียอะไร เพราะพี่มันให้ท่า พี่ตองเลยมาขอเลิกกับเตยไง
ไอ้ตองมันทำแบบที่ว่าเอาไว้ แต่มันคงไม่ทันคิด ว่ามันก็หาปัญหามาให้ฉันเช่นเดียวกัน และที่มากไปกว่านั้น ดูท่าเด็กนั่นก็คงจะไม่ยอมเลิกให้ง่ายๆ
สมควรแล้วไหม มันมักง่ายเอง....
ฉัน : เรื่องของเธอกับมัน เธอก็ต้องไปคุยกันเอง!
เตย : คุยน่ะคุยแน่ แต่เตยต้องมาคุยกับพี่ให้เข้าใจ พี่ก็เคยเห็นกับตา ปากเขาบอกว่ารักพี่นักหนา แต่ทำไมเขาถึงมีเตยได้ล่ะ พี่คิดบ้างดิวะ ไม่ใช่ปิดหูปิดตาอย่างเดียว ถ้าเขารักพี่จริง เขาจะทิ้งพี่มาหาหนูไหม ขนาดทะเลาะกันวันเดียว เขายังมีคนอื่นได้ พี่คงไม่โง่คิดว่าเขาจริงใจหรอกใช่ไหม!
ฉัน : โง่แล้วไง ฉันไม่ได้ง่ายแบบข้ามคืนอย่างเธอละกัน!
ฉันบอกแค่นั้น และหันหลังเดินหนีทันที ฉันไม่เคยคิดจะหนีปัญหา แต่ทว่าเรื่องที่เด็กนั่นพูดมา มันเป็นความจริง ความจริงทุกสิ่ง ความจริงทุกอย่าง ฉันเถียงอะไรนางไม่ได้เลย
เตย : ถ้ามั่นใจว่าตัวเองดี อย่ามาแย่งผัวชาวบ้านดิวะ!
นั่นคือคำพูดที่เด็กนั่นพูดตามหลังมา ถ้าไอ้ตองมันรู้ว่าฉันได้ยินแบบนี้ มันคิดว่า ฉันจะรอมันอยู่ไหม....