คดีความของปรมินทร์ถูกตัดสินตามกฎหมายโดยที่ไม่มีใครสามารถยื่นมือเข้าไปแทรกแซงได้ศาลจึงสั่งจำคุกเป็นระยะเวลา 3 ปีโดยไม่รอลงอาญาซึ่งคำตัดสินนี้ทำให้ภารดีกรีดร้องดังลั่นห้องตัดสินราวกับคนเสียสติก่อนที่จะถูกพาตัวออกไปส่วนคนที่ไร้ซึ่งความละอายใจอย่างปรมินทร์เองก็ร้องตะโกนโวยวายไม่ยอมรับผลการตัดสินนี้เช่นกันแต่สุดท้ายทุกคนก็จำต้องยอมรับความจริงและดำเนินชีวิตต่อไป สำหรับมินตราชื่อเสียงของเธอได้รับผลกระทบแค่เพียงช่วงแรกที่ปรมินทร์ถูกดำเนินคดีเท่านั้นแต่ในเวลาต่อมาด้วยกระแสจากแฟนคลับทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ยังคงให้การสนับสนุนเธออย่างล้นหลามทำให้เธอกลับมาโด่งดังบนหน้าจออีกครั้งและดูเหมือนจะดังยิ่งกว่าเดิมเพราะทุกคนติดตามทั้งความสามารถและความรักของเธอที่หวานฉ่ำจนทำให้ทั้งแฟนคลับและคนในวงการบันเทิงต่างพากันอิจฉาส่วนงานที่พากันติดต่อเข้ามากรรฐ์พิจารณาตอบตกลงด้วยการถามความสมัครใจของเธอก่อนเสมอซึ่งคน