(หลิว)
สองเดือนก่อน
9.26 AM.
"ร้านนี้โอเคสุดแล้วใช่ป่ะเนี่ย?"
"อืม โอเคเลยนะไม่ค่อยแพงเท่าไหร่ซื้อขาดได้ด้วยชั้นสองทำเป็นห้องนอนได้"
"ไม่ใช่ว่าต้องรีโนเวทเยอะนะ"
"มันก็ต้องเยอะอยู่แล้วสิแป้งพูดอะไรแปลกๆ"
ฉันหัวเราะขำแป้งเพื่อนของตัวเองที่เข้ามาดูร้านช่วย จริงๆตึกนี้ฉันกะจะทำเป็นบ้านเลยแหละ ชั้นล่างทำเป็นร้านเบเกอรี่ส่วนชั้นสองทำเป็นห้องนอน
"หาใหม่ไหมจริงๆกูหาให้ได้ดีกว่าตรงนี้นะ เอาใกล้มหาลัยกว่านี้ยังได้"
"เอาตรงนี้แหละพอดีแล้ว มีทั้งที่บริษัทกับโรงบาลอยู่ใกล้ๆอีกอย่างกลุ่มลูกค้าที่หลิวคิดไว้ว่าน่าจะแวะมาบ่อยคงเป็นวัยทำงานซะส่วนใหญ่"
"ก็จริง ขนมราคานี้เด็กๆไม่น่ามากินซ้ำ"
"คุณภาพไหมเล่า"
"เรื่องคุณภาพมันก็มีมาตรฐานอยู่แล้วแหละ แต่กูล่ะกลัวคนอื่นๆไม่คิดแบบนี้ไง"
"ก็ต้องทำให้มันดี"
"โอเค ยังไงซะกูก็โน้มน้าวจิตใจมึงไม่ได้อยู่แล้ว"
ฉันหัวเราะออกมาอีกครั้งหลังแป้งตัดพ้อออกมาแบบนั้น และแน่นอนว่าการที่ฉันตัดสินใจเปิดร้านเบเกอรี่หลังกลับมาจากต่างประเทศมันเป็นอะไรที่สิ้นคิดมาก แต่มันเป็นสิ่งที่ฉันอยากทำมาตั้งนานแล้ว
"แล้วทุกอย่างโอเครึยัง พวกเอกสารการหย่าน่ะ"
แป้งเดินมานั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามกับฉันก่อนจะเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"เรียบร้อยทุกอย่างแล้วทั้งเรื่องทรัพย์สินแล้วก็หุ้นที่ถือร่วมกัน"
"แล้วมันยังโทรมาไหม?"
"ไม่รู้สิหลังจากเคลียร์ทุกอย่างจบหลิวก็บล็อกไปทุกช่องทางเลย มาไทยก็เพิ่งเปลี่ยนเบอร์ไป"
"ดีตัดมันขาดสักที เดี๋ยวแกเคลียร์เรื่องร้านอยู่ตัวแล้วกูจะพาไปรดน้ำมนต์"
"โอ๊ยก็ว่าเกินไป"
"ถึงมึงจะไม่เชื่อเรื่องคู่เวรคู่กรรมแต่กูเชื่อนะ แบบคบกับมันชีวิตมึงจมดิ่งสุดนี่ดีแค่ไหนแล้วที่มึงไม่ต้องเพิ่งยาเพื่อรักษา"
"ก็เพราะเรามีเพื่อนเป็นที่ปรึกษาดีแถมยังเป็นจิตแพทย์ด้วยนี่ไง"
ฉันยิ้มให้แป้งด้วยความซึ้งใจ และถึงแป้งจะดูเชื่อในสิ่งลี้ลับแต่จริงๆแล้วเธอเป็นจิตแพทย์ที่เป็นที่ปรึกษาที่ดีสุดๆของฉันเลยนะ ถ้าไม่ได้แป้งฉันคงไม่รอดจากโรคซึมเศร้าแน่
"เอาเถอะยังไงซะกูก็จะพามึงไปรดน้ำมนต์ล้างซวยแต่ตอนนี้ต้องไปเข้าเวรแล้ว"
"จ้า อย่าลืมเอาขนมไปด้วย"
"เค ไว้เจอกันนะสาวโสด"
"ฮ่าๆ โอเค"
ฉันเดินมาออกมาส่งแป้งที่หน้าที่อยู่ใหม่ของตัวเองก่อนจะหันมองร้านด้านหลังที่ตอนนี้ยังเป็นร้านอาหารเก่าอยู่ เดี๋ยวอีกสักหน่อยจะมีนักออกแบบภายในมาดูร้านให้อีกครั้งก่อนการรีโนเวทฉันจึงใช้เวลาว่างที่มีอยู่ขึ้นมาจัดของที่ชั้นสองแทน จริงๆตึกนี้มีสามชั้นนะแต่ชั้นสามเป็นดาดฟ้าที่ฉันยังไม่แน่ใจว่าจะทำอะไร กะว่าจะปลุกผักก็กลัวจะตายเพราะแดดประเทศไทยมันแรงเหลือเกิน
"โอเคอยู่นะเนี่ย"
จริงๆวันนี้เป็นวันที่สองหลังย้ายของเข้ามาอยู่ที่ตึกนี้ฉันเลยยังไม่ได้จัดอะไรมาก แต่ตอนนี้จัดไปได้ครึ่งแล้วแหละ มันก็นานแล้วที่ไม่ได้กลับมาที่ไทยหลังจากแต่งงานก็ย้ายตามสามีเก่าไปอยู่กับเขาที่อเมริกาเลยจนกระทั่งเมื่อสามเดือนก่อนที่ฟ้องหย่ากับเขานั่นแหละฉันถึงเลือกที่จะย้ายกลับมาบ้านเกิดตัวเอง เพราะอยากเริ่มต้นใหม่และตัดขาดจากเขา
เราจบกันไม่ดีเท่าไหร่ และฉันไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องของเขาอีก เพราะตอนนี้ฉันจะเริ่มต้นชีวิตตัวเองใหม่แล้ว
ปัจจุบัน
6.26 pm.
"ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เจอโปรดอีกครั้ง"
"ผมก็ไม่คิดว่าจะได้เจอหลิวเหมือนกันครับ นึกว่าจะไม่กลับไทยแล้ว"
ฉันยิ้มให้น้องโปรดเด็กที่เคยรู้จักเมื่อหลายปีก่อน ตอนเจอกันครั้งแรกโปรดอายุสิบหกปีเองแต่ดูตอนนี้สิ โตเป็นหนุ่มซะแล้ว
"แล้วหลิวกลับมาที่นี่นานยังครับ ถามได้ไหม?"
"ถามได้สิ พี่กลับมาเมื่อสองสามเดือนก่อนแล้วก็มาเปิดร้านเบเกอรี่ที่นี่นี่แหละ"
"ดีจัง บ้านผมเดินเข้าไปในซอยนี้เอง"
"เหรอ บังเอิญจังแล้วทำไมถึงมาอยู่แถวนี้แทนที่จะเป็นหอพักล่ะ?"
โปรดวางแก้วน้ำที่เพิ่งยกดื่มลงบนโต๊ะก่อนจะยิ้มให้ฉันบางๆ
"พอดีผมไม่ชอบความวุ่นวายน่ะครับ แถวนั้นมีแต่คนที่อายุเท่ากันพวกเขาเสียงดังไปหน่อย"
"อ่อ ชอบความสงบสินะงั้นก็ดีเลยสิจะได้แวะมากินขนมกับพี่บ่อยๆ"
"จริงๆผมกะว่าจะมาเป็นลูกค้าประจำอยู่แล้วล่ะ"
"ฮ่าๆ น่ารักจริงๆขอบคุณมากนะ"
โปรดยิ้มให้ฉันก่อนเขาจะมองไปรอบๆร้านอีกครั้ง หลังจากที่เขากลับจากมหาลัยเขาก็แวะมาหาฉันอย่างที่เขาบอกไว้จริงๆ
"ไม่มีพนักงานคนอื่นเลยเหรอครับ?"
"ไม่มีค่ะ พี่อยากลองทำคนเดียวดูก่อนยังไม่อยากเพิ่มรายจ่ายน่ะนะ" โปรดพยักหน้าตอบอีกครั้ง "แล้วนี่กินข้าวเย็นรึยัง?"
"ยังครับ กะว่าจะกลับไปต้มมาม่ากินน่ะ"
"หื้มต้มมาม่าเนี่ยนะ"
"อ่า อาหารเด็กมหาลัยน่ะครับ"
โปรดหัวเราะออกมาเบาๆจนฉันยิ้มตามก่อนฉันจะขยับลุก และมองออกไปนอกร้านที่ตอนนี้ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่แล้ว
"มาม่าก็อร่อยดีอยู่หรอก แต่กินข้าวจะดีกว่านะเดี๋ยวพี่จะทำข้าวเย็นพอดียังไงอยู่กินด้วยกันก่อนแล้วค่อยกลับดีไหม"
"ผมดูรบกวนหลิวเกินไปไหม?"
"ไม่ พี่เต็มใจดีซะอีกเราจะได้อยู่คุยเป็นเพื่อนต่อ"
"งั้นผมขอฝากท้องเลยแล้วกันครับ"
"โอเค ยังไงพี่ฝากหน้าร้านหน่อยนะ"
"ครับ"
ฉันยิ้มให้โปรดก่อนจะเดินเข้ามาหลังร้านทำอาหารง่ายๆที่มีของในตู้เย็นเผื่อน้องโปรดด้วย ของที่มีอยู่ก็ไม่น่าจะพ้นข้าวผัด...ก็พอได้อยู่ว่าแล้วก็รีบทำก่อนเดี๋ยวน้องโปรดจะรอนาน
เวลาต่อมา
"ข้าวเสร็จแล้ว"
ฉันเดินถือจานข้าวผัดออกมาจากหลังร้านก่อนจะมองน้องโปรดที่กำลังนั่งทำงานตัวเองอยู่ เขาบอกว่าเขาเรียนด้านการทำเกมน่ะนะ ฉันเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่แต่ดูแล้วน่าจะเข้าทางโปรดเลยเพราะเขาเองก็ชอบเล่นแถมยังเก่งเรื่องไอทีอีก
"ขอบคุณครับ น่ากินจัง"
"จริงๆพี่อายอยู่นะที่มีแต่ข้าวผัด แต่พอนึกถึงความผัดที่ร้านคุณย่าแล้วเลยอยากทำให้โปรดกินด้วยกันน่ะ"
"ครับ ผมกำลังจะพูดเลยว่าเหมือนคุณย่าทำให้ตอนเด็กๆเลย"
โปรดยิ้มให้ฉันก่อนจะเดินมาถือจานข้าวผัดช่วย และคุณย่าที่ฉันพูดถึงคือคุณย่าของน้องโปรดนี่แหละ ตอนที่ฉันเรียนมหาลัยฉันเคยไปทำงานที่ร้านของคุณย่าของน้องโปรดเลยทำให้ฉันกับน้องรู้จักกันนี่แหละ
"ว่าแล้วพี่ก็ไม่ได้ไปไหว้หลุมศพเธอเลยตั้งแต่มา สงสัยต้องแวะไปสักหน่อยแล้ว"
"ครับ เพิ่งครบรอบที่ยายเสียไปเมื่อเดือนก่อนผมเองก็ไม่ค่อยได้ไปเท่าไหร่" ฉันมองโปรดที่กำลังตักข้าวผัดเข้าปากก่อนเขาจะเลิกคิ้ว และเงยหน้ามามองฉันด้วยรอยยิ้ม "รสชาติอร่อยเหมือนย่าทำเลย"
"พี่มีสูตรข้าวผัดที่ย่าโปรดทำไง เพราะเธอทำบ่อยพี่เลยขโมยสูตรไว้น่ะนะ"
ฉันหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะตักข้าวผัดกินด้วยรอยยิ้ม แต่น้องโปรดดูจะชอบมากเลยนะกินไม่หยุดเลย ล่าสุดกินจนได้ถอนแว่นออกมาเช็ดไอร้อนจากข้าว
"แล้วเรียนเป็นยังไงบ้าง อยู่ปีไหนแล้ว"
"เรียนไม่หนักแล้วครับ จะหนักไปทางงานที่ต้องออกแบบส่งมากกว่าเพราะปีสุดท้ายแล้วเลยงานเกมเยอะ"
"ปีสี่แล้วสินะ แล้วนี่บริษัทเกมเขาไม่มาทาบทามตัวไว้เหรอ?"
"ก็มีบ้างครับ แต่ผมยังไม่ได้สนใจที่ไหนเป็นพิเศษแล้วก็ยังชอบทำฟรีแลนซ์มากกว่า"
"อืม เพราะกำหนดเวลาตัวเองได้สินะดีจัง"
"แล้วหลิวเป็นยังไงบ้างครับ"
ฉันเลิกคิ้วมองน้องโปรดหลังจากเขาถามมาแบบนั้นพร้อมกับมองฉันเหมือนกำลังชั่งใจว่าจะพูดต่อหรือไม่พูดต่อดี สงสัยคงอยากรู้เหตุผลที่ฉันกลับมาไทยสินะ
"พี่สบายดีค่ะ แต่เพราะหย่ากับสามีเก่าเลยย้ายมาที่ไทย"
"หย่า..กับแฟนคนนั้นสินะ"
"อืม กับแดนนั่นแหละจำเขาได้อยู่ใช่ไหม?"
"ครับจำได้ ผมไม่ถามหรอกนะว่าเหตุผลที่หย่าคืออะไรเพราะแค่นี้ผมก็เสียมารยาทมากแล้ว แต่เอาเป็นว่ายินดีต้อนรับกลับไทยนะครับ"
"ขอบคุณสำหรับการต้อนรับนะ ตอนแรกพี่ก็คิดว่าคงต้องเหงามากที่ย้ายกลับมาทั้งๆที่ไม่มีเพื่อนๆอยู่แถวนี้แต่พอได้เจอโปรดก็ใจชื้นขึ้นหน่อย"
โปรดยิ้มออกมาบางๆหลังฉันตอบไปแบบนั้นก่อนเขาจะมองสบตาฉันด้วยรอยยิ้มจนฉันรู้สึกแปลกๆ เพราะคำพูดและสายตาของเขา แต่มันก็เป็นเพียงแค่ความรู้สึกวูบเดียวเท่านั้นน่ะนะ
"หลิวจะไม่เหงาแน่นอน เพราะผมจะแวะมากวนใจหลิวทุกวันเลย"
คำพูดแปลกๆแฮะ กวนใจงั้นเหรอ...สงสัยเด็กสมัยนี้เขาชอบพูดอะไรแบบนี้กันล่ะมั้ง