EP.1
3.23 pm.
"แล้วโปรดจะไปทำงานที่ไหนเหรอ?"
"งาน?"
"เอ้างานออกแบบตัวละครเกมส์ที่อาจารย์ให้หาแรงบันดาลใจจากสิ่งที่ชอบไง"
"อ่อ ทำในห้องไง"
ผมเงยหน้ามองกิ๊กเพื่อนร่วมคลาสที่เข้ามาถามด้วยท่าทีนิ่งเรียบจนเธอชะงักไป แต่ถึงอย่างนั้นกิ๊กก็ยังส่งยิ้มมาให้พร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆผมจนผมต้องมองตามด้วยความสงสัย เพราะปกติเราไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่นัก
"ว้า ว่าจะชวนไปหาอินสไปเรชั่นด้วยกันที่คาเฟ่สักหน่อย เสียดายจัง"
"ชวนคนอื่นเถอะปกติเราไม่ค่อยทำงานร่วมกับใครน่ะ"
"ฮ่าๆ โอ๊ยโปรดเนี่ยหยิ่งจริงๆรู้ตัวป่ะ?"
"เหรอ"
ผมขมวดคิ้วมองกิ๊กด้วยความสงสัยก่อนจะขยับแว่นตามองกิ๊กขณะที่มือก็กำลังเก็บของเข้ากระเป๋าอยู่ รู้สึกอยากรีบกลับไปนอนเร็วๆแล้วล่ะ
"ขอตัวนะ"
"จ้าๆ ไว้คลาสหน้าเดี๋ยวเรามาจีบไหมนะ"
"อ่า เคๆ"
กิ๊กโบกมือลาพร้อมกับหัวเราะไล่หลังจนผมได้แต่รีบเร่งฝีเท้าเพื่อไปขึ้นลิฟต์ วันนี้เรียนหนักยังไม่พอยังมาเจอเพื่อนแปลกๆอีก รับมือไม่ไหวต้องรีบไปนอนแล้วจริงๆ
"อ้าวไอ้โปรดกลับแล้วเหรอวะไปแดกเนื้อย่างกับพวกกูไหม?"
ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกกับทำให้ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้งเมื่อเจอกับเพื่อนตัวเอง เป็นกลุ่มที่ค่อนข้างสนิทกันเพราะรู้จักกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งน่ะนะ
"กูว่ามันไปไม่ไหวหรอกมึงดูใต้ตามันดิอย่างคล้ำ"
"มึงไม่ได้นอนเหรอวะไอ้โปรด"
ผมพยักหน้าตอบไอ้บิ๊กกับไอ้ดิวเพื่อนร่วมสาขาพร้อมกับเดินเข้าไปในลิฟต์
"อืม กูตัดต่องานทั้งคืนน่ะ"
"ไอ้ฟรีแลนซ์ตัวท็อป"
"ของจริงอ่ะลูกพี่ ว่าแล้วก็ไปกับพวกกูเถอะมันมีโปรไปสองกินฟรีหนึ่งนะ"
"ไม่ว่ะ กูขอผ่านจริงๆ"
"มึงอย่าไปบังคับมันเดี๋ยวมันก็ได้หลับโชว์เหมือนตอนมึงลากมันไปร้านเหล้ารอบนั้นหรอก"
"เออว่ะ โอเคๆงั้นไปนอนๆนะไอ้แมวน้อย"
ผมขมวดคิ้วมองไอ้บิ๊กอีกครั้ง ก่อนจะเดินแยกออกจากลิฟต์มารอขึ้นรถบัสกลับ จากมหาลัยถึงทาวน์เฮาส์ที่ผมอยู่ใช้เวลาไม่นานก็ถึง ผมลงจากรถบัสและเดินเข้าซอยผ่านร้านขายอาหารมากมายที่คุ้นตาอย่างเช่นทุกวัน แต่มาวันนี้กลับมีร้านใหม่ที่กำลังรีโนเวทภายในใหม่อยู่ ก่อนหน้านี้มันเป็นร้านอาหารเพราะอะไรก็ไม่รู้ทำให้พวกเขาปิดไปจนตอนนี้มีเจ้าของใหม่มาแทน ดูเหมือนว่าเขาจะรีโนเวทใหม่เป็นคาเฟ่แฮะ
ช่วงนี้คาเฟ่เปิดใหม่เยอะพอสมควร แต่ก็ยังไม่มีร้านไหนทำเค้กอร่อยสักร้าน..หวังว่าร้านนี้จะทำอร่อยนะ
เอี๊ยด..
รถยนต์สีขาวที่ขับเข้ามาจอดหน้าร้านทำให้ผมที่กำลังยืนดูร้านที่กำลังรีโนเวทด้วยความสนใจต้องละสายตามามองรถที่ขับเข้ามาจอดเทียบก่อนจะรีบเดินไปทางทาวเฮาส์ของตัวเอง เพราะกลัวจะขวางทางเขา
ช่วงนี้ผมใช้ชีวิตหักโหมเกินไป เรียนหนักแล้วยังทำงานหนักอีกแบบนี้มีหวังจะแย่เข้าสักวัน
สองเดือนต่อมา
9.33 am.
ตืด...ตืด...
แรงสั่นจากโทรศัพท์เรียกให้ผมตื่นจากความฝันก่อนผมจะขมวดคิ้วมองหน้าจอคอมที่ถูกเปิดไว้ด้วยความสงสัย
"อ่า.."
นอนหน้าคอมอีกแล้ว ผมหยิบแว่นมาสวมก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดรับสาย
"ว่าไง"
(โหย เสียงเหมือนคนเพิ่งตื่นเลยไอ้โปรด)
"อืม เพิ่งตื่น"
(ห๊ะ ทั่นโปรดทั่นเป็นบ้าป่ะเนี่ยทั่นลืมไปแล้วเหรอครับว่าวันนี้มีนัดงานกลุ่ม!)
"อ่า.." ผมเหลือบมองปฏิทินในคอมก่อนจะพยักหน้าด้วยความลืมตัว "จำได้ แต่นัดกันบ่ายไม่ใช่เหรอ?"
(ถูก แต่กูโทรปลุกมึงก่อนเพราะกลัวมึงจะนอนเลยเวลาน่ะ ฮ่าๆ)
"ไอ้เวร"
นิสัยเสียจริงๆนะไอ้บิ๊กเนี่ย
(เออน่าไหนๆก็ตื่นแล้วก็รีบออกมาหาพวกกูที่คณะสิวะ มาทำตัวให้สดชืนก่อนเริ่มโปรเจคกะกูนี่มา!)
"ไม่ว่ะ กูจะไปตามเวลาแค่นี้แหละ"
(โอ๊ยไอ้โปรดมาก่อนไม่ได้เหรอวะ คือจริงๆแล้วกูจำเวลานัดผิดอ่ะ)
"เป็นมึงสินะที่จำไม่ได้ไอ้เวร"
(ฮ่าๆ เขินฉิบหายแต่มึงมาหากูหน่อยกูเหงามาเล่นเกมกันนะนะ)
ผมถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะมองนาฬิกาอีกครั้ง จริงๆก็อยากจะนอนต่อสักชั่วโมงนะ แต่พอตื่นแล้วกว่าจะหลับก็คงอีกนาน
"เออๆ"
(เยี่ยม ซื้อขนมมาให้กินด้วยนะไอ้หนุ่ม!)
ผมไม่ได้ตอบแต่กลับตัดสายไอ้บิ๊กแทน เอนเนอจี้มันแต่ละวันเยอะมากทั้งพูดเสียงดังแล้วก็รู้จักคนไปทั่ว...แบบนั้นผมไม่ไหวว่ะ แค่ว่าต้องทำงานเป็นกลุ่มก็เหนื่อยจะแย่
เวลาต่อมา
ผมเดินออกมาจากบ้านเพื่อไปขึ้นรถบัสหน้าปากซอยก่อนจะมองร้านเบเกอรี่ที่วันนี้คนไม่มีด้วยความสงสัย ร้านนี้เป็นร้านที่เพิ่งจะเปิดใหม่ที่ตอนแรกผมคิดว่าจะเป็นร้านคาเฟ่ แต่จริงๆเขาเปิดเป็นร้านเบเกอรี่โดยเฉพาะเลยแถมยังเปิดมาได้เดือนที่สองแล้ว แต่เพราะคนเยอะผมเลยยังไม่ได้เข้าไปสักที ผมไม่ค่อยชอบไปในที่ที่คนเยอะๆเพราะไม่ชอบความวุ่นวายแต่วันนี้ไม่มีคนเลยแฮะ
แกร๊ง
ไวกว่าความคิดคือตอนนี้ผมเดินเข้ามาภายในร้านแล้ว กลิ่นหอมของขนมปังที่กำลังอบมันลอยอบอวลไปทั่วทั้งร้านเลย...ชอบว่ะ กลิ่นขนมปังตอนอบนี่เป็นสิ่งที่ผมชอบมากที่สุด แถมบรรยากาศภายในร้านที่ถูกตกแต่งแบบเรียบง่ายที่เข้ากับการจัดวางขนมเป็นสัดส่วนมันทำให้ร้านนี้ออกมาดูดีเอามากๆ ผมชอบที่เขาดูเปิดร้านเพื่อขายเค้กและขนมปังจริงๆ
"ยินดีต้อนรับค่ะ ขอโทษนะคะเมื่อกี้ไปอบขนมมาไม่ได้ต้อนรับลูกค้าเลย"
เสียงคุ้นหูทำให้ผมที่กำลังเดินเลือกขนมในตู้อยู่ถึงกับชะงัก เสียงหวานที่ฟังเมื่อไหร่ก็รู้สึกสงบใจตลอดแบบนี้ผมไม่ได้ยินมานานมาก...นานจนคิดว่าจะไม่มีโอกาสได้ฟังอีก
พรึบ
ผมหันไปมองร่างเพรียวที่เดินเข้ามาจากประตูทางด้านหลังด้วยความตกใจ ผมกำถาดขนมในมือแน่นพร้อมกับมองหลิวอย่างไม่เชื่อสายตา เธออยู่ในชุดเดรสสีขาวและสวมทับด้วยผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาลส่วนผมยาวสลวยของเธอก็กล้าขึ้นมัดหางม้า ผมมองใบหน้าเรียวเล็กที่รับกับริมฝีปากบางจมูกรั้นหน่อยๆและดวงตากลมโตของเธอที่กำลังมองผมด้วยความสงสัยจนผมหลุดจากภวังค์ของตัวเองพร้อมกับหัวใจที่กำลังเต้นแรงจนทำอะไรไม่ถูก
หลิวดูเหมือนจะจำผมไม่ได้ แต่ผมจำเธอได้ตั้งแต่เสียงเลยล่ะ
"เอ่อ..เลือกขนมตามสบายเลยนะคะแล้วชำระเงินที่เคาน์เตอร์ได้เลย"
"ครับ.."
ผมพยักหน้าตอบหลิวก่อนจะขยับแว่นตาตัวเองขึ้นพร้อมกับเลือกขนมแม้ความสนใจจะไม่ได้อยู่ที่ขนมเลยก็ตาม
ทำไมเธอถึงมาอยู่นี่ล่ะ...เธอไปต่างประเทศไม่ใช่เหรอ?
"นี่ครับ"
"ทานนี้หรือกลับบ้านคะ?"
"กลับครับ เอ่อหมายถึงกลับบ้าน"
ผมพูดติดๆขัดๆมากซะจนหลิวเหลือบมองด้วยความสงสัย เธอยิ้มให้อีกครั้งก่อนจะหันไปถอดถุงมือกันร้อนออก เพื่อหยิบที่คีบขนมมาจัดขนมใส่กล่องให้อย่างคล่องมือ
"ทั้งหมดสามร้อยห้าสิบบาทค่ะ"
"โอนนะครับ"
"ค่ะ สแกนได้เลย"
ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาสแกนด้วยมือที่กำลังสั่นก่อนจะหันหน้าจอโทรศัพท์ไปให้หลิวดู เธอจึงพยักหน้ามองหน้าจอก่อนจะขมวดคิ้วมองผมอีกครั้ง
"เดี๋ยวนะ..ชื่อคุ้นมากเลย"
หลิวเลิกคิ้วมองผมสลับกับหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะเบิกตากว้างมองผมพร้อมยิ้มกว้าง
"น้องโปรดใช่ไหมเนี่ย!?"
"ครับ ผมโปรดเองครับ"
หลิวยิ้มกว้างพร้อมกับเอื้อมมือมาจับแขนผมจนผมเงยมองสบตาเธอด้วยความตกใจ
"ถึงว่าเมื่อกี้มองพี่แปลกๆ"
"เอ่อ ครับผมจำหลิวได้ตั้งแต่แรกเลยขอโทษที่ไม่ได้ทักก่อนนะครับ ผมกลัวว่าหลิวจะลืมผมไปแล้วน่ะ"
หลิวส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้มพร้อมกับปล่อยแขนผม
"ใครจะไปลืมลูกค้าประจำร้านคุณย่ากันล่ะ พี่ไม่ลืมหรอกเพียงแค่ว่าโปรดดูโตจนพี่ไม่คุ้นหน้าเท่านั้นเอง..." หลิวเงยหน้ามองผมที่สูงกว่าเธออีกครั้ง "สูงขึ้นมากเลยนะเนี่ย หล่อขึ้นมากๆด้วย"
"ขอบคุณครับ หลิวเองก็สวยมากๆเหมือนกัน"
ผมยิ้มออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่จนหลิวหัวเราะขำพร้อมกับเอื้อมมือมาลูบหัวผมอย่างที่ชอบทำจนผมชะงัก...หัวใจเต้นแรงราวกับจะกระเด็นออกมาเลยว่ะ
"เป็นเด็กขี้อายเหมือนเดิมเลยนะ เดี๋ยวพี่แถมขนมให้"
"ไม่เป็นไรครับ"
แกร๊ง
เสียงเปิดประตูทำให้ผมกับหลิวต้องหยุดคุยกันก่อนผมจึงหยิบถุงขนมมาถือ เพราะกลัวว่าหลิวจะแถมให้อย่างที่พูดจริงๆ
"ยินดีต้อนรับค่ะ เลือกขนมได้เลยนะคะ"
"ค่ะ ว้าวขนมเยอะสุด!"
ผมหันมองหลิวที่กำลังยิ้มทักทายลูกค้าก่อนเธอจะหันมามองผม
"ผมต้องไปแล้ว เดี๋ยวมาอุดหนุนใหม่นะครับ"
"อือ ต้องมาให้ได้นะพี่จะรอ"
"มาแน่นอนครับ"
ผมยิ้มให้หลิวก่อนจะเดินออกมาจากร้านมองรถยนต์สีขาวที่จอดอยู่ด้านหน้า ก่อนจะหันกลับมามองร้านอีกครั้ง...งั้นรถคันนี้ก็เป็นของหลิวสินะ แปลว่าเธอเป็นเจ้าของร้านนี้และมาดูร้านตั้งแต่ตอนนั้น
ให้ตาย ผมคลาดกับเธอรอบนั้นตั้งสองเดือนมาแล้ว...แต่ว่านะที่น่าสงสัยมากกว่าหลิวมาเปิดร้านเบเกอรี่แทนที่จะอยู่ต่างประเทศคือที่นิ้วนางข้างซ้ายของเธอมันไม่มีแฮะ...
นิ้วนางข้างซ้ายที่เคยมีแหวนแต่งงานที่หลิวสวมประจำตอนนี้มันไม่มีแล้ว...