ตอนที่.1 พี่อุ้มนะ..

902 คำ
"นักเรียนทุกคนอย่าแตกแถวนะคะ" คุณครูกำลังจัดระเบียบเมื่อรถบัสแล่นมาจอดยังมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง อาการสดใสยามเก้าโมงเช้า วันนี้เป็นงานเปิดนิทรรศการของมหาวิทยาลัยจึงมีบัตรเชิญให้โรงเรียนละแวกใกล้เคียงเข้ามาศึกษาเพื่อที่ในอนาคตอาจจะสนใจเรียนต่อ "นิวเยียร์เราปวดฉี่" สาวผมเปียประบ่าสะกิดเพื่อนที่ยืนอยู่ด้านหน้า "รอครูเช็กชื่อก่อนสิ" "ไม่ไหวแล้วเยี่ยวจะเล็ด" "ดะ เดี๋ยวเนย!" ยังไม่ทันปรามเพื่อนจอมซนที่มีนิสัยดื้อรั้นวิ่งออกจากแถวไปโดยที่คุณครูไม่ทันสังเกตเพราะนักเรียนต่อคิวเช็กชื่อยาวเหยียด นิวเยียร์ทำได้เพียงแจ้งคุณครูให้ หลังจากนั้นจำเป็นต้องแยกย้ายเดินออกไปเพื่อเยี่ยมชมนิทรรศการและต้องมีใบประทับตราเพื่อไปเที่ยวยังบูทที่คุณครูกำหนดสามอย่าง "บูทการโรงแรม บูทภาษา บูทวิศวกรรม" นิวเยียร์อ่านใบงานที่ครูสั่ง "แล้วไปทางไหนเนี่ย" เด็กหญิงเดินไปตามทางชะเง้อมองหาเพื่อนแต่กลับหาไม่พบ ถ้าหากรออาจจะเสียเวลาและได้ลายเซ็นไม่ครบ รองเท้านักเรียนสีดำเงาย่ำเดินอ้อมมาด้านหลังปรากฏว่าเจอตึกสูงใหญ่ที่แทบไม่มีผู้คนอยู่ "อย่าบอกนะว่า..หลงทาง!!" โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง กรี๊ดดดด เสียงหมาเห่าดังกึกก้อง ตัวมันสูงใหญ่สภาพซีดผอมแต่เขี้ยวยาวแหลมน่าสยดสยอง ตัวเล็กยืนขาแข็งทำได้เพียงกรีดร้อง เนื้อตัวสั่นเทาถือใบงานแทบจะไม่ไหว มันส่งเสียงขู่คำรามขณะเดียวกันเด็กหญิงก็เริ่มเขยิบถอยหลัง ฮึก~ ฮึกกก โฮ่ง!!! 'กรี๊ดดดด' งั๊บ หมาตัวใหญ่ท่าทางดุร้ายพุ่งกระโจนเข้าใส่ทันที สัญชาตญาณทำให้รีบหลับตาปี๋แต่เซล้มลงกองกับพื้นสนามหญ้าเปียกชื้น "ไอ้หมาบ้า!" จู่ๆ เสียงทุ้มใหญ่ก็ดังแทรกขึ้น ตัวเล็กค่อยๆ ลืมตาเห็นหมากำลังกัดผ้าที่พันหนารอบแขนล่ำ ผู้ชายตัวสูงผิวขาวใบหน้าหล่อเหลาจ้องสัตว์ร้ายเขม็ง เขาสู้กับมันอย่างไม่กลัวเกรงจนสุนัขยอมแพ้วิ่งแจ้นกระเจิงไป "เป็นอะไรมากไหม..ทำไมมาอยู่หลังตึกแบบนี้คนเดียว" คิ้วหนาย่นรีบตรงไปหาก่อนจะพยุงเด็กหญิงขึ้นแล้วพาเดินเข้ามานั่งในตึกใหญ่ "ขอบคุณนะคะพี่หนูชื่อนิวเยียร์เป็นนักเรียนมัธยมของโรงเรียนเอกชนสตาร์แวนต์" "อ๋อ..วันนี้มหาวิทยาลัยเปิดนิทรรศการ" "ใช่ค่ะ คือหนูเดินหลงทางเพราะมันกว้างมาก ว่าแต่พี่เจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ หนูเห็นมันกัดแขนพี่" "ไม่เป็นไร ใช้เสื้อกันหนาวหนังแท้ห่อแขนมันกัดไม่ถึงเนื้อหรอก แต่อย่าไปไหนคนเดียวอีกนะยิ่งไม่คุ้นทาง" ขณะที่ ชายหนุ่มในชุดมหาวิทยาลัย กำลังพูดคุยกับเด็กมัธยมวัยใส ภารโรงถือซากหมาตัวใหญ่เข้ามา "มันตายแล้วครับต่อไปก็คงกัดใครไม่ได้แล้วนะ พอดีลุงได้ยินเสียงจึงรีบวิ่งมาเห็นไอ้หมาตัวนี้มันวิ่งสวนทางไป" ลุงเหงื่อโชกลากหมาใหญ่ที่มีเลือดไหลออกจากปาก "มันวิ่งไปโดนกับดักที่สวนข้างรั้วครับ เวรกรรมจริงๆ ที่จริงมันไม่ได้ดุร้ายหรอกแต่มันเป็นหมาจรจัดคลอดลูกออกมาก็ตายหมดน่าเวทนา" พูดจบลุงก็เดินผ่านเพื่อนำซากของสัตว์ไปกำจัด สาวน้อยนิ่งเงียบสักพักน้ำตาก็ไหลพราก ฮือออ ฮึก ฮื้อ "เฮ้ยยย! น้องเป็นอะไร" ผู้ชายตรงหน้าตกใจ หันขวับ รีบเดินไปใกล้ "ร้องไห้ทำไมเนี่ย" "ฮึก เพราะหนูมันถึงต้องตาย ฮือ ถ้าหนูไม่เดินหลงทางมาเจอมันก็คงไม่ตกใจจนวิ่งหนีไป" "นี่..มันไม่ใช่ความผิดของเธอนะและไม่ใช่ความผิดของใครด้วย" น้ำตาอาบรดเต็มสองแก้มใส แต่เด็กไร้เดียงสายังคงร่ำไห้จับกระโปรงนักเรียนที่สวมใส่ขย้ำแน่นราวกับเจ็บปวดมาก ชายหนุ่มจ้องมองไม่วางตา เขาตัดสินใจนั่งย่อตัวลงเอื้อมมือขึ้นวางทับทาบบนผมยาวสลวยที่ถักเปียอย่างเรียบร้อย "หยุดร้องไห้ได้แล้วมันไม่ใช่ความผิดของน้องหมาจรจัดก็แบบนี้ชีวิตจะเป็นจะตายก็เกินคาดเดา" แม้จะพยายามปลอบแค่ไหนแต่เด็กหญิงก็ยังปล่อยโฮ "ฮือออ แต่มันไม่ควรต้องตายวันนี้ไง ฮึก" "จะบ้าเหรอใครจะกำหนดวันตายได้ ฮ่าๆ" "หนูสงสารมัน ฮึก ชีวิตต้องอยู่ตัวคนเดียวมาตลอดแถมต้องมาตายแบบนี้เพราะหนูแท้ๆ" สุดท้ายชายหนุ่มวัยมหาวิทยาลัยตัดสินใจยืนขึ้น เขาพูดเตือนสติ "น้องหายมานานแบบนี้เดี๋ยวทุกคนก็ตามหาหรอก เรารีบกลับเข้างานกันดีกว่าไม่กลัวครูลงโทษเหรอ หืม" ฮือออ~ฮือออ "ถ้ายังไม่หยุดร้องไห้พี่จะอุ้มนะ" "ฮึบบบบ!!" คำพูดนี้ของเขาได้ผลชะงักเสียงร้องสะอื้นหยุดพลันเม้มริมฝีปากเข้าหากันกะทันหันปรายตากลมใสจ้องมองผู้ชายตัวสูงที่ยืนเต็มส่วน ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาใกล้เงื้อมือปาดเช็ดน้ำตาให้พร้อมเอ่ยเสียงเรียบ . . "เป็นเด็กดีแบบนี้สิน่ารักมากเลย"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม