@วันต่อมา ผับ Y 🍻🍻
ตอนนี้พวกเราอยู่กันที่ห้องวีไอพีของผับ แสงไฟสีม่วงอมชมพูสลับกับไฟแฟลชสีขาวสว่างวาบตามจังหวะดนตรีที่กระแทกใจ เสียงเบสแน่นสะเทือนไปถึงอก ห้องวีไอพีถูกกั้นด้วยม่านหนาทึบ เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับกลุ่มของเราอย่างดี ตอนแรกธันวากับสิงหาบอกจะไปฉลองที่ห้องของฉัน ติดอยู่ที่ปืน มันไม่ยอม มันบอกขี้เกียจเก็บห้อง มันทำอย่างกับตัวเองเป็นเจ้าของห้อง...ห้องก็ห้องของฉัน แต่มันดันมีอำนาจมาสั่งห้ามคนนั้นคนนี้ไม่ให้เข้าออกซะงั้น... ท่าทางหงุดหงิดของมันตอนพูดเล่นเอาฉันต้องเบือนหน้าหนี เพราะรู้ว่าถ้าต่อปากต่อคำขึ้นมา มันจะยิ่งงอแงไปกันใหญ่
"📱 ค่า..พี่อยู่ห้องวีไอพี
"📱 จะมาจริงเหรอ..
"📱 ได้สิคะ มาถึงแล้วโทรมานะ
ฉันวางสายช้า ๆ พร้อมรอยยิ้มติดริมฝีปาก แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงแรงกดดันที่แรงขึ้นกว่าตอนก่อนโทรศัพท์จะดัง
ฉันกำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับน้องตุลย์ โดยมีสายตาจากไอ้ธันที่กำลังจ้องมองฉันอยู่ คิ้วมันขมวด ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยกับสีหน้าแบบคนที่พร้อมจะเปิดศึกทันทีถ้ามีคำตอบที่ไม่ถูกใจหลุดออกมาจากปากฉัน แต่ที่มันน่ากลัวกว่านั้นคงจะหนีไม่พ้นสายตาจากเพื่อนสนิทที่นับวันยิ่งทำตัวอย่างกับเป็นผัวของฉัน...ปืนเอาแต่จ้องมองฉันไม่วางตา แววตาคมเข้มนั้นไม่ใช่แค่เฉย ๆ แต่มันปะปนไปด้วยอารมณ์ที่อธิบายยาก มือหนาของมันถือแก้วเหล้าไม่วาง ซัดเข้าปากครั้งแล้วครั้งเล่า ริมฝีปากเม้มแน่น ดวงตาแดงเรื่อจากฤทธิ์แอลกอฮอล์หรืออารมณ์กันแน่ฉันก็แยกไม่ออก... แต่อย่างน้อย...ฉันเริ่มแน่ใจว่ามันไม่ใช่แค่ “เมา” แล้วทำหน้าดุใส่ฉันแน่ ๆ นี่มันคงไม่ได้โกรธฉันหรอกใช่ไหม...
"มึงยังไม่เลิกคุยกับไอ้เด็กนั่นอีกเหรอ : ธันวา
"ใคร ?.. น้องตุลย์นะเหรอ..
"อืม.. ทำไมคนนี้มึงคุยนาน มึงชอบมันเหรอ" : ธันวาถามฉัน มันบอกฉันคุยนาน นี่พึ่งจะคุยได้ไม่ถึงสองอาทิตย์เลยด้วยซ้ำ
"แล้วมึงจะไปยุ่งอะไรกับมันว่ะ มันจะคุยกับใครก็เรื่องของมันดิ นี่กูคิดเอาไว้นะว่าถ้าปีนี้มันยังไม่มีผัว กูนี่แหละจะหาผัวให้มันเอง
: ไอ้สิงหา เพื่อนรักของฉัน ไอ้นี่มันจ้องแต่จะหาผัวให้ฉัน มันคงกลัวว่าฉันจะหาเองไม่ได้ล่ะมั้ง...ก็ฉันคุยกับใครก็ไม่เคยที่จะพัฒนาไปได้ไกล อย่างมากก็แค่เพื่อนคุย....คุยได้ไม่ถึงเดือนก็เลิก...ทำไมน่ะเหรอ ก็ผู้ชายที่เข้าหาฉันส่วนมากก็เข้ามาเพราะหวังในตัวฉัน พอฉันไม่ให้ในสิ่งที่พวกนั้นต้องการ บางคนก็ถอยห่างออกไปเอง บางคนก็รับไม่ได้ที่ฉันสนิทกับเพื่อนผู้ชายมากเกินไป โดยเฉพาะปืน เวลาผู้ชายพวกนั้นเห็นฉันอยู่กับปืน ก็มักจะถอยหนีกันหมด ก็อย่างที่เคยบอก ถ้าฉันจะมีผัวก็คงต้องรอให้ไอ้ปืนมันมีเมียซะก่อน..
"มึงไม่คิดจะห้ามมันบ้างเลยรึไง ปกติกูเห็นมึงห้ามมันตลอด : ธันวาหันไปถามปืน ที่ตอนนี้นั่งหน้านิ่ง ไม่พูดไม่จา...
"มึงหยุดเลยไอ้ธัน...แค่มึงคนเดียวกูก็ขี้เกียจตอบจะแย่ ให้ปืนมันนั่งนิ่งๆน่ะดีแล้ว..
"แล้วทำไมมึงถึงยังไม่เลิกคุยกับไอ้เด็กตุลย์นั้น... : ธันวา
"ก็ไม่ทำไมนะ..กูแค่ยังไม่เบื่อแค่นั้นเอง น้องเขาก็น่ารักดี ไม่งี้เง้า ไม่จ้องจะแตกกูเหมือนไอ้พวกที่ผ่านมา
"มึงมั่นใจขนาดนั้นเชียว พึ่งจะรู้จัก ลายมันยังไม่ออกหรือเปล่า : ธันวา
"กูไม่เคยมั่นใจในตัวผู้คนไหน ผู้ชายแม่ง ! ก็เหี้ยเหมือนกันทุกคนแหละ..แรกๆมันก็ดี นานไปมันก็เชี้ยใส่...น้อยมาก..ที่กูจะเจอคนดีดีที่รักกูคนเดียวอ่ะ..
"มึงก็เลยคบเผื่อเลือก แล้วชิงบอกเลิกก่อนว่างั้น : สิงหา
"อืม..ก็กูไม่ไว้ใจใคร ขนาดพวกมึงยังไม่อยู่กับร่องกับรอยเลย..
"ยังไง : ธันวา
"อย่างไอ้สิง แม่ง ! ขนาดมันมีน้องพลอยเป็นเมีย ลับหลังมันยังเที่ยวไปอ่อยหญิงอื่นไปทั่ว เฟรนลี่ไปกับเขาซะหมด ... กูภาวนาให้น้องมันจับได้คาหนังคาเขา แล้วตัดหางมันปล่อยวัดไปเลย
"มึงก็พูดเกินไป ถึงกูจะเฟรนลี่ แต่กูก็รักแค่พลอยคนเดียวนะเว้ย : สิงหารีบแก้ตัวทันที
"หึ..เชื่อตายล่ะ..
"ก็ไอ้สิงมันเจ้าชู้ไง แต่กูไม่ใช่ : ธันวา
"มึงยิ่งตัวดีเลยไอ้ธัน มึงแม่งโคตรเจ้าชู้ระดับสิบ ควงหญิงไปทั่ว ไม่คบใครจริงจังสักคน จะเป็นเอดส์ตายวันไหนยังไม่รู้เลย
"ก็คนที่กูชอบจริงจัง ไม่ยอมให้กูออกจากเฟรนโซนสักที กูก็ต้องหาเศษหาเลยกินไปทั่ว ประทังชีวิตไง ถ้ามึงตกลงคบกับกู กูสัญญาเลยว่ากูจะเลิกเจ้าชู้ จะตัดขาดจากทุกคนที่กูเคยควง... : ธันวา
"ไม่ต้องมาหลอกล้อกูเลย กูบอกแล้วไงว่ากูไม่คิดจะชอบมึง..มึงเป็นเพื่อนรักกูแบบนี้แหละดีแล้ว ไม่ต้องคิดจะก้าวข้ามมาเป็นแฟนหรอก...กูไม่นิยมกินเพื่อน..
"มึงก็แบบเนี้ย...ไม่เปิดโอกาสให้กูสักนิด.. : ธันวามันทำหน้างอ ก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม
"แล้วกับไอ้ปืนล่ะ..มันพอจะไว้ใจได้หรือเปล่า..กูไม่เคยเห็นมันควงใคร...วันๆตัวติดอยู่แต่กับมึง : สิงหา
"ผู้ชายที่พอจะคบได้หน่อยก็คงจะเป็นปืนเพื่อนรักของกูนี่แหละ 😆 มันไม่ได้ชอบกูนิ วันๆเอาแต่แกล้งกู นิ่งกับทุกคน แต่กับกูมันโคตรดื้อ มันก็ทั้งหล่อ ทั้งรวย เรียนหนังสือเก่ง นี่ถ้ามันกับกูไม่ใช่เพื่อนกันนะ กูนี่แหละจะวิ่งเข้าหามันเอง 5555
"หึ...ปกติมึงก็ฉลาดนะมีน..แต่พอเรื่องไอ้ปืนทำไมมึงกลายเป็นคนโง่ไปได้
: ไอ้สิงมันเอามือขึ้นมาตีหัวฉัน อะไรของมันเนี้ย ฉันพูดอะไรผิดไปตรงไหน..ทั้งไอ้สิงไอ้ธันต่างพากันส่ายหน้าไปมา...
"📱📱📱📱 เสียงเรียกเข้า ~ น้องตุลย์
หน้าจอโทรศัพท์สว่างวาบในมือฉัน ท่ามกลางแสงไฟหลากสีในห้องวีไอพีที่กระพริบตามจังหวะเพลงเบา ๆ จากด้านนอก ฉันรีบกดรับสาย พร้อมกับขยับผมนิดหน่อยและขยับตัวเตรียมจะลุก สายตาเหลือบไปเห็นปืนที่ยังนั่งนิ่งอยู่มุมเดิม แต่ไม่ได้ใส่ใจนัก เพราะใจตอนนี้อยู่ที่ปลายสาย
"📱 ค่า...มาถึงแล้วเหรอ
"📱โอเค..เดี๋ยวพี่เดินไปรับนะคะ..
ฉันวางสายจากน้องตุลย์ พร้อมเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าเล็ก ๆ ที่วางอยู่ข้างตัว กำลังจะลุกขึ้นเพื่อที่จะไปรับน้องมานั่งด้วยกัน...
แต่...
"หมับ !!"
จู่ ๆ มือหนาใหญ่ของใครบางคนก็คว้าเข้าที่ข้อมือฉันอย่างแรงพอจะหยุดแรงเคลื่อนไหว สัมผัสนั้นแน่นพอจะสะดุดใจ...และเมื่อฉันเงยหน้าขึ้นมองก็พบกับสายตาที่คุ้นเคย สายตาของปืน มันจับมือฉันเอาไว้แน่น...ดวงตาคมเข้มนั้นกำลังจ้องมองมาแบบที่ฉันไม่เข้าใจเลยในวินาทีนั้น...ไม่ใช่แค่หวง ไม่ใช่แค่ห่วง แต่มัน...ปนเปด้วยอารมณ์บางอย่างที่ล้นทะลักออกมาทางแววตา แววตาของมันดูร้อนรุ่ม เจือด้วยความไม่พอใจบางอย่างที่ไม่ได้พูดออกมา มันเหมือนคนที่อยากพูดแต่ข่มใจไว้ เหมือนกำลังต่อสู้กับอะไรในใจตัวเอง ฉันเบิกตานิดหน่อยด้วยความงุนงง ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วหันกลับไปเพื่อที่จะถามว่าจับฉันไว้ทำไม... แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยคำถามใดออกไป มันก็ยอมปล่อยมือ...อย่างรวดเร็วเหมือนสำนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาในเสี้ยววินาที มันไม่พูดอะไรสักคำ ร่างสูงหันหน้าหนีหลบสายตาฉัน แล้วหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มอีกครั้ง หนักหนากว่าเดิม ราวกับใช้มันกลบกลืนบางอย่างที่กำลังคั่งค้างในอก ริมฝีปากมันเม้มแน่น กลืนน้ำเหล้าลงคอแบบไม่รู้รส มืออีกข้างกำแก้วแน่นจนเส้นเลือดปูด ความตึงเครียดแผ่คลุมอยู่รอบตัวมันเหมือนหมอกหนา ฉันขมวดคิ้ว มองมันอยู่นิ่ง ๆ อย่างไม่เข้าใจ...
"อะไรของมึง.."
เสียงของฉันเบาลงกว่าปกติแต่ยังแฝงความหงุดหงิดไว้... ไม่ใช่แค่เพราะโดนขัดจังหวะ แต่เพราะฉันเองก็รู้สึกได้ว่าความรู้สึกของมันเริ่มเกินขอบเขตคำว่า “เพื่อน” ไปมากแล้ว และฉัน...ก็ไม่รู้จะทำยังไงกับมันเหมือนกัน
@ปืน
บรรยากาศในห้องวีไอพียังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ผสมแสงไฟสลัวจากหลอดนีออนที่กระพริบอย่างไร้จังหวะ โต๊ะตรงหน้ามีแก้วเหล้าหลายใบวางกระจัดกระจาย น้ำแข็งในถังเริ่มละลายช้า ๆ ทิ้งเสียงหยดน้ำเบา ๆ ที่ยิ่งเพิ่มความเงียบอึมครึมในหัวของปืน
เขานั่งพิงเบาะนุ่มตัวเดิม แขนข้างหนึ่งวางพาดบนพนักโซฟา ส่วนอีกข้างควงแก้วเหล้าในมือลวก ๆ อย่างไร้อารมณ์ สายตาคมมองนิ่งไปยังแก้วในมือ แววตานั้นเต็มไปด้วยความคิดฟุ้งซ่าน สับสน และหงุดหงิดที่กดทับอยู่ในอก
"กูล่ะเชื่อมันจริงๆเลย นี่มันดูไม่ออกเลยเหรอว่ามึงคิดยังไงกับมัน.. : สิงหา
ปืนถอนหายใจเบา ๆ พยายามฝืนยิ้มเจื่อนออกมาอย่างเหนื่อยล้า มือเขากระชับแก้วแน่นขึ้นเล็กน้อย สายตายังคงไม่ละจากของเหลวในแก้ว ราวกับพยายามมองหาคำตอบบางอย่างในนั้น
"มันคงไม่ได้คิดอะไรกับกู มันถึงได้นิ่งเฉยขนาดนั้น"
น้ำเสียงของเขาเบา แฝงความเจ็บปวดและผิดหวังที่ไม่อาจปิดบังได้ สีหน้าของปืนดูเหนื่อยล้าเกินกว่าจะเสแสร้ง เขาโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย กอดอกพิงเข่าข้างหนึ่ง สายตาหม่นหมองจ้องไปที่พื้นอย่างคนที่หมดหนทาง
"มึงเป็นอะไรวะ วันนี้ดูซึมๆ ผิดปกติ หรือเรื่องไอ้เด็กตุลย์นั่น ลากมันไปเก็บเลยดีไหม : สิงหา
สิงหาพูดติดตลก แต่สีหน้าจริงจัง ดวงตาคมปรายมองเพื่อนที่ดูไม่เหมือนปืนคนเดิม คนที่ปกติแข็งแกร่งเกินใคร
"ไม่ต้อง..กูแค่เหนื่อย มีนมันพูดกรอกหูกูทุกวัน อะไรอะไรก็เพื่อน กูเบื่อ หรือกูจะเลิกเป็นเพื่อนกับมันดีว่ะ..จะได้เลิกเอาคำว่าเพื่อนมาอ้างสักที.."
ปืนเอนตัวพิงพนักโซฟาอีกครั้ง หัวเอนพิงไปกับเบาะนุ่มหลังกระดกเหล้าอีกอึกใหญ่ เสียงกลืนน้ำหนัก ๆ ดังขึ้น ก่อนเขาจะเม้มปากแน่น ความอัดอั้นที่เขาเก็บไว้ระบายผ่านแววตาและน้ำเสียงที่ฟังดูทั้งร้าวลึกและสิ้นหวัง
"แล้วมึงเคยบอกมันรึยัง ว่ามึงชอบมัน : ธันวา
คำถามของธันวาทำเอาปืนชะงักนิดหนึ่ง มือที่ถือแก้วค้างอยู่กลางอากาศ ก่อนจะวางลงบนโต๊ะอย่างเชื่องช้า
"ยัง..กูกลัวมันจะไม่เหมือนเดิม.."
เขาตอบออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา เหมือนจะพูดกับตัวเองมากกว่าคนอื่น ดวงตานิ่งของเขามีแววลังเลฉายอยู่ชัดเจน ริมฝีปากสั่นไหวเล็กน้อยเหมือนกำลังกลืนคำบางคำลงคอ
"ไม่เหมือนเดิมอะไร กับกูมันไม่คิดอะไร ขนาดกูบอกชอบมันตั้งหลายครั้ง มันยังไม่ตัดเพื่อนกับกูเลย มึงกลัวอะไร กลัวมันตัดเพื่อนกับมึง หรือมึงกลัวใจตัวเองกันแน่... : ธันวา
คำพูดของธันวาแทงใจ ปืนหันหน้าหนีเล็กน้อย แต่ไม่ตอบโต้ ริมฝีปากเม้มแน่นขณะกำมือที่วางอยู่บนตัก จนข้อขึ้นสีขาว ความลังเลสลับกับความหึงหวงกำลังต่อสู้กันในใจเขาอย่างบ้าคลั่ง
"มึงต้องรีบทำอะไรสักอย่างนะ ก่อนที่ไอ้เด็กตุลย์นั่นจะคาบไปแดกซะก่อน กูบอกไว้เลยว่าถ้าไม่ใช่กู ก็ต้องเป็นมึงคนเดียวเท่านั้น คนอื่นกูไม่ยอม : ธันวา
ปืนหันมามองธันวาช้า ๆ สายตาที่ตอนแรกเต็มไปด้วยความลังเลเริ่มมีประกายแข็งกร้าวขึ้น
"หึ...มึงคิดว่ากูจะยอมปล่อยมีนไปให้ใครงั้นเหรอ...ไม่มีทาง..ลองมันแตะมีนสักนิดดูดิ...กูจะถอนรากถอนโคนมันเลยคอยดู.."
คำพูดสุดท้ายของเขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงต่ำ เย็นเยียบ แต่ชัดเจนทุกคำจนแม้แต่สิงหากับธันวาก็ยังนิ่งเงียบไปชั่วขณะ สายตาของปืนในตอนนี้ไม่ใช่สายตาของเพื่อนอีกต่อไป แต่เป็นสายตาของผู้ชายที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องคนที่เขารัก…ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม