โคร้ม!
"มันหมายความว่ายังไงอ่ะ?" เสียงใสรีบเอ่ยถาม ตอนที่เธอมายังลานเกียร์หน้าตึกวิศวะ แล้วเจอไคล์กับกลุ่มเพื่อนลากถังอุปกรณ์ทำความสะอาดหลายอย่างมาโยนทิ้งตรงเบื้องหน้าเธอ
"ก็ทำเหมือนเพื่อนร่วมรุ่นของเธอทุกคนไง ไม่เห็นจะเข้าใจอะไรยากเลยนะ" ไคล์บอก เขาตรงไปนั่งบนเก้าอี้ยาวข้างต้นไม้สูงใหญ่ อย่างไม่ได้สนใจจะต่อลองดัวยแล้ว
"ไม่ทำอ่ะ ใครมันจะไปกวาดเกียร์คนเดียวได้ทั้งหมด"
"แค่นี้ก็ยังไม่สู้เลย แล้วจะนับประสาอะไรกับเวลาเรียนหนักๆ "
"มันเกี่ยวกันตรงไหนไม่ทราบ อย่างนี้เรียกว่าหลงอำนาจชัดๆ นึกจะสั่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ"! ชาหอมรีบพ่นคำต่อว่าไปในทันที ใครมันจะไปกวาดลานเกียร์ได้คนเดียวทั้งหมด เห็นชัดๆ ว่าไคล์กำลังรังแกเธอทางอ้อม
"ตอนที่ทุกคนทำแต่เธอไม่อยากมาเอง ตอนนี้ก็ช่วยไม่ได้นะเธอต้องรับผิดชอบคนเดียว" เสียงเข้มกัดฟันพูดชัดทุกถ้อยคำโดยเฉพาะท้ายประโยค ที่เขาจงใจให้เธอรับรู้ความผิดนั้น
"อย่างนี้ก็ไม่แฟร์สิ!" ร่างอรชรในชุดนักศึกษาตรงมายืนเบื้องหน้าร่างสูง ใบหน้าก่อกวนอารมณ์เธออย่างมากจริงๆ
"กับคนอื่นคิดว่าแฟร์ไหมล่ะ"
"อ้าว..."
"พี่ว่าน้องหยุดทะเลาะกับพวกพี่ดีกว่านะ รีบทำไปเถอะทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น ดีกว่าให้เพื่อนร่วมรุ่นคนอื่นมาเห็นว่าน้องได้อภิสิทธิ์ดีกว่าคนที่เคยมาทำ" สิงหาพูด แล้วรีบเดินนำไม้กวาดด้ามยาวมาให้รุ่นน้องตรงหน้า ขืนปล่อยให้ทะเลาะกับเพื่อนรักคงไม่ได้กลับบ้านง่ายๆ
"ก็พูดดีๆ อย่างนี้ก็จบ ไม่เห็นต้องปั้นหน้าแบบนั้นเลย คนอะไรไม่มีความน่าเคารพสักอย่าง" เธอเลยคว้าเอาไม้กวาดมาไล่ทำความสะอาดแถวบริเวณนั้น แค่เรื่องจับไม้กวาดเธอเคยช่วยแม่บ้านทำมาตั้งแต่เด็ก แค่นี้เล็กน้อยมากๆ
"ทำอย่างกับพูดง่าย!"
"นี่นายว่าใครอีก!"
"เธอไงยัยตัวจี๊ดดดด" ไคล์ลากเสียงยาว แต่แล้วเขาก็บังเอิญเห็นกิ่งไม้บนลำต้นใหญ่ มันกำลังจะหักลงมา หากใครโชคร้ายเข้าคงโดนลงกลางศีรษะเต็มๆ แรง
"นายก็ปากหมานะ ถือว่าหายกัน" มือบางยกขึ้นตบบ่ากว้าง แต่สายตาเธอดันมองขึ้นไปพร้อมกับอีกฝ่าย พบว่ากิ่งไม้ใกล้จะโคนลงมาแล้ว แล้วใบไม้เศษเล็กเศษน้อยก็ร่วงจน...
"ไอไคล์ระวัง!!!"
หมับ! ท่อนแขนแกร่งรีบโอบเอวราบเข้าแผงอกกว้าง รีบหลบไปอีกทางนึงข้างต้นไม้ใหญ่ จนลำตัวกำยำชนกระแทกเข้าใส่ลานป้ายของคณะ
ทว่า...หน้าอกอวบใหญ่มากกว่าที่เขาจินตนาการ มันแนบอกกว้างจนอุ่นซาบซ่านไปหมด ทำชายผู้คลั่งไคล้เซ็กนิ่งไปชั่วขณะ
"จะปล่อยได้ยัง?" หัวคิ้วมนสวยเลิกขึ้นถามข้างนึง เกิดมายังไม่เคยเจอเพศตรงข้ามสัมผัสตัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า
"ตัวเธอนี่ใหญ่เอาเรื่อง..แต่ก็หอมดีนะ" เสียงเข้มบอก ความเจ็บปวดแล่นลงกลางแผ่นหลัง ท่อนแขนแกร่งยังไม่ได้ปล่อยคนตัวเล็กในอ้อมแขน กลิ่นกายสาวของเธอทำไมมันหอมอย่างนี้ หอมแบบที่ติดปลายจมูกโด่งละมุนมาก
"มะหมายถึงตัวใหญ่?" เสียงใสเอ่ยเลิกลัก
"มั้ง"
"ต้องขอบใจไหมเนี้ยไอบ้ากาม!" ชาหอมรีบผลักออกจากคนตัวสูงกว่า จะนึกซึ้งในน้ำใจก็ทำไม่ลง ขืนเธอยืนพลาดท่าตรงนั้นอีกเสี้ยวนาทีเดียว คงได้สิ้นชื่อในรั้วมหาวิทยาลัย
"ก่อนจะซึ้งกันมึงช่วยดูซากมันหน่อย แมร่งผุข้างในหมดแล้วนี่หว่า" กวินบอก ชี้ไปที่กิ่งไม้ใหญ่หล่นลงมาพบโพรงขนาดกว้างคงไม่ต้องเดาถึงในลำต้น
"เออว่ะ แบบนี้แมร่งจะล้มลงมาทับคนอื่นอีกไหมว่ะ" สิงหารีบวิ่งมาดู มองข้ามที่เพื่อนรักโอบกอดรุ่นน้องสาว คงจะเป็นเพราะความหวังดีแบบไม่มีทางเลือก
"ต้องทำเรื่องรื้อถอนแล้ว" ร่างสูงตรงมายืนข้างเพื่อนรัก เขาก็ไม่ได้นักหรอกที่ช่วยยัยตัวแสบไป ดีกว่าโดนใครตราหน้าได้ว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษกับน้องรหัสตัวเอง
"งั้นพรุ่งนี้กูจะให้คนเอาป้ายมาติดเตือนไว้แล้วกัน คงต้องระวังมากขึ้นหน่อย"
"เออดี ถึงกำหนดรื้อถอนค่อนเกณฑ์รุ่นน้องมาช่วย" สายตาคู่คมเหลือบมองไปที่ร่างอรชร เธอรีบจับไม้กวาดทำความสะอาดลานเกียร์ต่อ
ครืน~ ครืน~
"ทำไมเราไม่มารอพี่ที่รถล่ะ?" ทันทีที่มือบางกดรับสายสนทนาโทรศัพท์ พี่ชายรีบเอ่ยรวดเร็วไม่รอให้เธอได้เอ่ยก่อน
"ชายังกวาดลานเกียร์ไม่เสร็จเลย โดนทำแทนรับน้องน่ะ" เสียงใสบอก พอเธอเห็นไคล์จะเดินมาตรงนี้ เธอรีบเบี่ยงตัวหนีเดี๋ยวพี่ชายรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นพี่รหัส มีหวังเป็นเรื่องเป็นราวถึงหูบิดาขึ้นมาอีก
"ทำไมเป็นงั้นล่ะ แล้วทำกับใครพี่จะได้ไปรอรับ"
"ทำกันตั้งสี่คนแนะ มีแต่ตัวใหญ่บึกบึน ใจดีคนนึง พูดจาดีคนนึง ส่วนอีกคนก็ปากสุนัขไปหน่อย" ระหว่างที่เสียงใสเอ่ยบอกทางสายสนทนา เธอก็คว้าเอาไม้กวาดยัดเยียดให้รุ่นพี่ทีละคน ซึ่งพวกเขาทำหน้างงๆ แต่ก็รับไว้
"เมื่อกี้น้องมันหมายความว่ากูใจดีป่ะวะ?" สิงหาถาม หน้าเขาคมคายมีหนวดเข้มขนาดนี้ ภาพลักษณ์ดูใจดีหรอกเหรอ
"งั้นกูก็คงบึกบึนอ่ะ" กวินยกสองแขนทำท่าเบ่งกล้าม เขาแทบจะกลายเป็นปูอยู่แล้ว รุ่นน้องสาวช่างมองออกซะจริงๆ
"ส่วนกูก็ไอปากสุนัขสินะ เดี๋ยวแมร่งก็โดนกัดจนได้หรอก" มุมปากหยักกระตุกยิ้มกริ่ม เผลอจินตนาการไปถึงอิ่มเอิบบนอกของร่างอรชร
"โอเคค่ะ เดี๋ยวชาทำเสร็จแล้วรีบไปหาพี่ชิณณ์นะ จะได้ทำวิจัยรอไปก่อน"
โคร้ม! ไม้กวาดทั้งสามด้ามยาวโยนทิ้งทันที
"เอ้า! ทำไมเป็นงี้ล่ะ เมื่อกี้อุตส่าห์ชมไปตั้งสามคนเลยนะ" ชาหอมยืนเท้าเอวราบ กับท่าทีของรุ่นพี่ที่เหมือนจะหลอกใช้งานง่ายแต่ก็เปล่า
"ตอนแรกว่าจะทำช่วยอยู่หรอก พอได้ยินชื่อไอชิณณ์นี่แมร่ง! อยากจะกระทืบให้ได้!" ไคล์พูด โบกมือเรียกสองเพื่อนรักไปนั่งตรงเก้าอี้หินอ่อน รอดูผลงานของน้องรหัสตัวแสบชวนปวดหัว
"แล้วทำไมถึงไม่ถูกกันล่ะ พี่ชิณณ์ออกจะดีป่านนั้น ถ้าเทียบกับพวกนายก็เหมือนเทพบุตรกับซาตานเลยนะนั่นอ่ะ" เสียงใสพูด เธอเลยรีบก้มๆ เงยๆ กวาดพื้นไปก่อน
"หมายถึงมันเป็นซาตาน?"
"หมายถึงคนพูดนั่นแหละ"
"เธอคิดว่าฉันจะจัดการเธอยังไงดีนะชาหอม" ร่างสูงทนความกวนอารมณ์ของรุ่นน้องสาวไม่ไหว ขืนเขาปล่อยไปเธอต้องปีนเกลียวไม่เลิกสักที เดี๋ยวพาลให้น้องคนอื่นๆ ไม่นับถือขึ้นมาได้มีปัญหาใหญ่ ถ้าปล่อยให้ยัยตัวจี๊ดมีอภิสิทธิ์เกินควร
"จัดการยังไง นี่มันอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยนะ" ใบหน้าหันขวับโดนแสงแดดยามเย็นส่องกระทบ เผยผิวใสผ่องมีออร่าโดนเด่น
"เหมือนในไนท์คลับไง อยากจะชิมอีกแล้วล่ะสิว่าหวานเหมือนเดิมหรือเปล่า?"
...........................