“เอวี่อย่าไปฟังแม่นะแซวอะไรไม่เข้าเรื่อง ผมรักเมียจะตายใครมันจะไปทำแบบนั้น”
“เอวี่ไม่ได้คิดอะไรหรอกค่ะ เอวี่เชื่อใจพี่กฤษณ์อยู่แล้วค่ะ”
“โชคดีของแกนะกฤษณ์ที่แกมีเมียดีแบบหนูเอวี่ ขนาดว่าผัวไม่อยู่เมียแกยังเทียวมาดูแลพ่อกับแม่สามีอยู่ไม่เคยขาด ฉันกับแม่แกต้องยอมรับนะว่าแกตาถึงที่เลือกเมียคนนี้”
คุณดิเรกชื่นชมลูกสะใภ้ เห็นความน่ารักตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ที่เสมอต้นเสมอปลาย อดดีใจกับลูกชายไม่ได้ที่มีเมียและแม่ของลูกที่แสนดีแบบนี้
“เห็นไหม ผมบอกแล้วว่าทุกคนต้องชอบเมียผม ผมคบกับเอวี่มา 5 ปีก่อนจะแต่งงานนะครับพ่อ ผมต้องมั่นใจอยู่แล้วว่าคนที่จะมาเป็นเมียและแม่ของลูกผมต้องเป็นคนนี้คนเดียวเท่านั้น”
“ย่ะ แกตาถึงมาก เดี๋ยวพอลูกแกคลอดสมบัติในส่วนของแกฉันจะยกให้เมียกับลูกแกหมดนะ ส่วนแกก็เอาแค่เงินปันผลแต่ละปีไปก็พอ”
“โหแม่!!!....หลานยังไม่ทันคลอดเลยนะนี่แม่จัดแจงมรดกไว้แล้วเหรอ พระเจ้า! ทำไมแม่เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ครับเนี่ย รู้แบบนี้ผมให้เอวี่ท้องตั้งนานแล้วนะครับ”
“ไม่รู้ล่ะ เผื่อวันหนึ่งแกไม่ดีเหมือนตอนนี้ ลูกสะใภ้กับหลานฉันเขาจะไม่ได้ลำบากไง”
เอวิกาถึงกับยิ้มกว้างที่ครอบครัวสามีต่างพากันเอ็นดูเธอมากแบบนี้ ผิดแปลกไปจากวันแรกที่ก้าวเข้ามาเป็นสะใภ้บ้านนี้เสียเหลือเกิน จนต้องรีบพนมมือยกขึ้นไหว้ขอบคุณพ่อและแม่สามีอย่างเร็ว
“ขอบคุณที่เอ็นดูเอวี่นะคะคุณพ่อคุณแม่”
กฤษณ์ดนัยได้แต่นั่งยิ้มมองดูภาพของครอบครัวที่เขาไม่คิดเลยว่ากลับมาบ้านครั้งนี้ทุกอย่างจะดีขึ้นมากกว่าแต่ก่อนจนไม่น่าเชื่อ เพราะเอวิกาเป็นผู้หญิงที่ดี เธอน่ารัก อ่อนโยนกับคนรอบข้าง มีจิตใจที่โอบเอื้ออารี ตอนที่เขาไม่อยู่เธอคงทำหน้าที่สะใภ้ของบ้านจนเอาชนะใจมารดาของเขาได้ไม่ยากเลยสินะ
ภายในห้องรับแขกของบ้าน หลังจากที่รับประทานอาหารค่ำกันเสร็จ คุณพิมลรัตน์อ้อนให้ลูกสะใภ้กับลูกชายนอนพักที่บ้านนี้ด้วยกันสักคืน ตอนนี้เอวิกาขึ้นไปอาบน้ำพักผ่อนอยู่บนห้องนอนก่อนแล้ว 3 คนพ่อแม่ลูกกำลังนั่งพูดคุยกันอยู่ด้านล่างห้องรับแขก
“เดี๋ยวพรุ่งนี้แกก็เข้าไปรับตำแหน่ง CEO ใหญ่ของบริษัทได้เลยนะกฤษณ์”
“โหพ่อ พ่อจะวางมือจริงเหรอครับเนี่ย พ่อมั่นใจขนาดนั้นว่าผมจะทำคนเดียวได้?”
“แกทำได้ทุกอย่างนั่นแหละฉันเชื่อแบบนั้น”
“ถ้าพ่อเชื่อผมผมจะไม่ทำให้พ่อผิดหวังอย่างแน่นอนครับ ผมจะนำพาบริษัทของเราให้เจริญยิ่งใหญ่ไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ให้สมกับความเชื่อมั่นและเชื่อใจที่พ่อกับแม่มีให้ผมก็แล้วกันนะครับ”
“แต่บริษัทเราก็จะมีพาร์ทเนอร์ใหม่นะ พอดีว่าคุณวิบูลย์เขาอยากมาร่วมลงทุนกับเราด้วย เรื่องนี้พ่อให้แกตัดสินใจก็แล้วกัน เขาก็ยังไม่ได้แจ้งรายละเอียดอะไรมา”
“ผมไม่ได้มีปัญหา ถ้าพ่อเห็นว่าดีผมก็โอเคครับ”
“เออจริงสิ ได้ยินว่าลูกสาวเขาก็ไปเรียนที่เดียวกันกับแกนะ เจอกันบ้างหรือเปล่า?”
“ชื่ออะไรล่ะครับ ผมไม่ค่อยสนใจใครน่ะ อาจจะเคยเห็นมั้ง”
“หนูพลอย พลอยพัชชา”
กฤษณ์ดนัยถึงกับจ้องมองหน้าบิดาด้วยความนิ่งอึ้ง พลอยพัชชาคนเดียวกันแน่ ๆ เลย ตายห่าโลกช่างกลมอะไรแบบนี้
“ไม่รู้จักครับพ่อ บริษัทพ่อเขาเหรอที่จะมาเป็นพาร์ทเนอร์กับเรา”
“อืม...เห็นว่าจะให้ลูกสาวขึ้นบริหารเหมือนกันนะแต่ไม่รู้ตอนไหน คนรุ่นใหม่ไฟแรงร่วมกันบริหารน่าจะนำพาบริษัทให้เจริญเติบโตก้าวหน้าไปได้เร็วกว่าเดิมหลายเท่า ถ้าแกไม่มีครอบครัวไปซะก่อนฉันคงเชียร์ลูกบ้านนั้นให้มาเป็นสะใภ้บ้านเรา”
กฤษณ์ดนัยถึงกับกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เขาไม่ได้อยากมาพบกับพลอยพัชชาอีก ไม่อยากยุ่งเกี่ยว ไม่อยากข้องแวะแต่นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันอีก โลกที่ว่ากว้างทำไมมันแคบลงทันตาเห็น
“พ่อครับ ผมว่าเราไม่ควรทำงานร่วมกับบริษัทเขานะ”
“ทำไมล่ะ? บริษัทเขาก็กำลังไปได้สวย ถ้าเราได้เขามาเป็นหุ้นส่วนด้วย มันก็จะเพิ่มความน่าเชื่อถือได้มากขึ้น มีคอนเนคชั่นมากกว่าที่มี มันก็ไม่มีอะไรเสียนะหรือแกว่ายังไง?”
จะให้บอกกับทุกคนอย่างไรว่าเขาไม่ได้อยากพบเจอ ไม่อยากข้องเกี่ยวกับลูกสาวบ้านนั้นอีก กลัวเหลือเกินกลัวว่าความลับที่อยากจะให้มันเป็นความลับตลอดไปมันจะไม่เป็นแบบนั้น เขาไม่อยากสูญเสียเอวิกากับลูกไป หรือเขาควรจะบอกกับทุกคนก่อนที่อะไรมันจะสายเกินแก้ดี
คุณพิมลรัตน์ได้แต่นั่งมองจับสังเกตปฏิกิริยาของลูกชาย แม้ว่ากฤษณ์ดนัยจะไม่เคยเกเรหรือทำตัวเหมือนเพลย์บอยให้ปวดหัวมาก่อนก็เถอะ แม้ในตอนแรกจะไม่ชอบพอลูกสะใภ้คนนี้ แต่เพราะวันนี้อีกคนกำลังจะมีหลานให้ได้อุ้ม นางก็ไม่อยากให้มีอะไรเกิดขึ้นในวันข้างหน้าหรอก
“มีอะไรที่แม่กับพ่อควรจะรู้หรือเปล่าตากฤษณ์?”
“เอ่อ...ไม่ครับแม่ ไม่มี” กฤษณ์ดนัยยิ้มให้มารดาเล็กน้อย ตอบบ่ายเบี่ยงเลี่ยงความลับที่ได้ทำมา
“ถ้าแกยืนยันว่าไม่มีอะไรฉันก็จะไม่เซ้าซี้ ขึ้นไปดูเมียแกเถอะไป”
“ผมขอบคุณแม่กับพ่ออีกครั้งนะครับที่เอ็นดูเมียผม แบบนี้หน่อยผมค่อยสบายใจ เฮ้อ....พอมีหลานให้แม่กับพ่อนี่มันดีจริง ๆ เลยนะครับ เพอร์เฟกต์ที่สุด!”
กฤษณ์ดนัยโผเข้ากอดมารดาอย่างรู้สึกขอบคุณ ดูเหมือนว่าทุกอย่างในชีวิตจะสมบูรณ์มากในตอนนี้ รอเวลาแค่ลูกสาวคลอดออกมาความสุขของบ้านคงมีเพิ่มมากขึ้นกว่าตอนนี้ที่เป็นอยู่หลายเท่าตัว....