ตอนที่10 ชีวิตที่ปั่นป่วน

1515 คำ
บริษัทKTB Group “ท่านประธานบริษัทคนใหม่ดูตื่นเต้นจังเลยนะคะ” เอวิกานั่งมองสามีที่กำลังเตรียมตัวเข้าประชุมใหญ่ในวันนี้ เธอภาคภูมิใจกับทุกความสำเร็จของเขาที่ได้รับและดีใจที่วันนี้เธอได้เป็นผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างกายเขาในฐานะภรรยาคู่ชีวิตที่คอยซัพพอร์ตกับทุกความสำเร็จของสามี “นิดหน่อยครับ ยังไม่ค่อยชิน อีกอย่างงานใหญ่ด้วยกลัวทำพลาด ขายหน้าพ่อกับแม่ตายเลย” “พี่กฤษณ์เป็นคนเก่งนะคะ เรื่องแค่นี้พี่ทำได้อยู่แล้วค่ะ” “นี่ไง แบบนี้ไงพี่ถึงต้องพกเมียกับลูกมาทำงานด้วย กำลังใจดวงโต ๆ ของพ่อเชียวล่ะ” กฤษณ์ดนัยเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ กับภรรยาที่แสนน่ารัก โอบกอดร่างอวบอิ่มของคุณแม่ตั้งครรภ์ ออดอ้อนเอาใจอย่างเช่นทุกวันที่เคยทำ “แล้วนี่ต้องประชุมนานไหมคะกว่าจะเสร็จ” “ก็คงเป็นชั่วโมงเลยมั้ง มีเซ็นสัญญาร่วมลงทุนกับพาร์ทเนอร์ใหม่ คงมีเรื่องให้ต้องพูดคุยเยอะแยะเลย ถ้าเอวี่ง่วงก็นอนรอก่อนเลยนะ แต่ห้ามกลับก่อนล่ะรอกลับพร้อมกันเข้าใจไหม” ก๊อก ๆ ๆ ประตูที่ถูกเปิดเข้ามา ปรากฏร่างเลขาคนเก่าแก่ของบิดา ก่อนจะมีแขกอีกคนที่กฤษณ์ดนัยแสนคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่าง เดินมาหยุดยืนเคียงข้างกับเลขาคนนั้น ทำเอาเขาตกใจอยู่ไม่น้อย รอยยิ้มที่มีเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่กังวลใจแทน “สวัสดีค่ะกฤษณ์ คุณเอวี่” เอวิกายิ้มเจื่อนส่งให้ เพราะเธอจำชื่อคนตรงหน้าไม่ได้ แต่อีกคนกลับจำเธอซะแม่นเชียว “มีอะไรหรือเปล่า?” เสียงทุ้มถามขึ้น พร้อมกับจ้องมองหน้าเลขาสลับกับพลอยพัชชาอย่างไม่สบอารมณ์ “พลอยมาร่วมประชุมกับคุณแทนคุณพ่อค่ะ กฤษณ์ยังคงไม่รู้สินะว่าพลอยนั่งเก้าอี้ผู้บริหารรับไม้ต่อจากคุณพ่อท่านแล้ว” “ไปรอที่ห้องประชุมสิครับ ถึงเวลาเดี๋ยวผมตามไป” ดวงตาคมจ้องมองหน้าของพลอยพัชชาอย่างคาดโทษ เขารู้สึกเสียวสันหลังแปลก ๆ ส่วนแขกผู้มาเยือนกับยิ้มร่าส่งให้เหมือนอยากกวนอารมณ์เสียเหลือเกิน “คุณเอวี่จำพลอยได้ไหมคะ เราเคยเจอที่ลอนดอนครั้งหนึ่งที่สนามบิน กลับมาเจออีกทีจะเป็นคุณแม่ซะแล้ว ดีใจด้วยนะคะ คุณเอวี่เป็นคนท้องที่สวยมาก ๆ เลยค่ะ” “ขอบคุณค่ะคุณพลอย เอวี่จำคุณพลอยได้ค่ะ ดีใจที่ได้เจอกันอีกนะคะ นั่งด้วยกันก่อนสิคะ ยังไม่ถึงเวลาประชุมเลยนี่นา” เหมือนจะถูกใจพลอยพัชชาเป็นอย่างมาก หญิงสาวรีบนั่งลงโซฟาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันคนทั้งคู่อย่างไม่รอช้า แต่กฤษณ์ดนัยกลับไม่ชอบใจเอาเสียเลย ไม่อยากให้พลอยพัชชามาป้วนเปี้ยนใกล้ตัวเลยด้วยซ้ำ แต่ดูท่าว่าเขาคงจะหนีไม่พ้นเธอง่าย ๆ ยิ่งต้องมาทำงานร่วมกันแบบนี้ หวังเพียงแค่ว่าพลอยพัชชาจะไม่พูดหรือทำอะไรให้เมียเขาต้องสงสัยเท่านั้นก็พอ “น้องผู้หญิงหรือผู้ชายคะคุณเอวี่?” “ลูกสาวค่ะ เราได้ลูกสาว” เอวิกาหันไปยิ้มให้สามีที่เขากำลังยิ้มรับและจับมือเธอเอาไว้ตลอดเวลาชวนให้พลอยพัชชารู้สึกหมั่นไส้อย่างอดไม่ได้ “อิจฉาจังเลยนะคะ คุณสองคนเป็นคู่รักที่ดูน่ารักมาก ๆ เลย” “ขอบคุณนะคะคุณพลอย คุณพลอยก็สวยน่ารักมากเลยค่ะ ใครได้เป็นแฟนก็คงโชคดีมากเหมือนกัน” “ค่ะ พลอยก็อยากให้เขาคิดแบบที่คุณเอวี่คิด” สายตาของพลอยพัชชาจ้องมองกฤษณ์ดนัยที่เขาไม่ได้สนใจเธอเลยสักนิด เขาเอาแต่สนใจภรรยาที่นั่งอยู่ข้างกายมากกว่าเธอที่เคยทำให้เขามีความสุขทางกายมากกว่า ยิ่งทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าตัว “อ้อ จริงสิลืมไปเลย” พลอยพัชชารีบเปิดหาของในกระเป๋าสะพายของตัวเอง ก่อนจะหยิบแหวนที่แสนคุ้นตาออกมายื่นส่งให้กับคนตรงหน้า กฤษณ์ดนัยนิ่งอึ้งแทบลืมหายใจ เขาหาแทบตายแต่กลับไม่เจอ “กฤษณ์ทำหล่นไว้ที่ห้องพลอยค่ะ พลอยเก็บได้ ติดต่อหากฤษณ์ว่าจะเอาไปคืนตั้งนานแล้ว แต่ก็ติดต่อกฤษณ์ไม่ได้เลย” เอวิกาจ้องมองหน้าสามีและแหวนแต่งงานสลับกันไปมา เขาบอกเธอว่ามันหายตอนไปว่ายน้ำครั้งล่าสุด เพราะมันหลวมมากหลุดออกจากนิ้วตอนไหนไม่รู้ตัวเลย ตามหาแล้วแต่มันก็หาไม่เจอ แต่แล้วทำไมถึงได้..... กฤษณ์ดนัยรีบหยิบแหวนวงนั้นมาสวมใส่นิ้วนางข้างซ้ายที่ว่างของตัวเองในทันที “ขอบใจนะ ผมก็ว่ามันหล่นหายที่ไหน” “ยินดีค่ะ เพราะคงเป็นของสำคัญมาก พอพลอยบังเอิญเจอก็เลยต้องเอามาคืนด้วยตัวเอง” เธอไม่รู้หรอกว่าเขาโกหกเมียที่บ้านว่าอย่างไร เพราะก่อนวันกลับเขาไปค้างกับเธอที่ห้อง และทุกครั้งก่อนมีความสัมพันธ์ทางกายกันเกิดขึ้นเขาก็จะถอดแหวนแต่งงานออกก่อนตลอด คงรีบมาขึ้นเครื่องจนลืมแหวนที่สำคัญกับชีวิต พลอยพัชชายิ้มหยันนึกสมเพชผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้าตอนนี้เสียเหลือเกิน สวยก็ไม่สวย จืดชืดก็จืดมาก ไม่รู้ว่ากฤษณ์ดนัยหลงรักผู้หญิงแบบนี้ได้อย่างไร “ถึงเวลาต้องเข้าประชุมแล้ว ผมว่าคุณไปที่ห้องประชุมเถอะพลอยพัชชา” “พี่กฤษณ์ก็ไปพร้อมคุณพลอยเลยสิคะ เดี๋ยวเอวี่นั่งเล่นนอนเล่นรอในห้องทำงาน” เอวิกายิ้มให้สามี แม้ในใจจะรู้สึกว้าวุ่นและสับสนมากในเวลานี้ แต่ให้กลับถึงบ้านก่อนเธอจะถามสามีให้หายค้างคาใจกับสิ่งที่ทำให้ใจรู้สึกปั่นป่วนชวนให้ใจสั่นหวั่นไหว “เดี๋ยวพี่บอกให้คุณผกาเอาผลไม้กับของว่างมาให้เอวี่นะครับ ประชุมเสร็จจะรีบกลับมาหาทันทีเลย” กฤษณ์ดนัยหอมแก้มภรรยาฟอดใหญ่ก่อนลาจาก เขายืนขึ้นเต็มความสูงจ้องมองไปที่พลอยพัชชาที่เธอไม่ขยับตัวเลยสักนิด “ได้เวลาประชุมแล้วครับ ไปสิ...คุณจะนั่งอยู่ตรงนี้ทำไมอีก” เสียงทุ้มที่ดังขึ้น ทำให้หญิงสาวต้องรีบลุกขึ้นยืนขึ้นเผชิญหน้ากับเขา “ขอตัวนะคะคุณเอวี่ ไว้มีโอกาสพลอยจะแวะมาคุยด้วยอีกค่ะ” “ค่ะคุณพลอย ตั้งใจทำงานนะคะคุณพ่อ” เอวิกาหันไปยิ้มหวานให้สามีอีกครั้งก่อนลาจาก “ครับ” กฤษณ์ดนัยเดินนำหน้าออกไปก่อน ตามหลังด้วยพลอยพัชชา ทันทีที่พ้นประตูห้องทำงานออกไปไม่ไกลมากนัก ร่างสูงหยุดชะงักพร้อมกับหันกลับมามองจ้องหน้าพลอยพัชชาอย่างเอาเรื่อง “ตั้งใจจะทำอะไรน่ะพลอย คุณไปเอาแหวนมาจากไหนไม่ทราบ ผมหาแทบตาย แต่สิ่งที่คุณทำวันนี้ก็กำลังจะทำให้ผมตายได้เหมือนกัน!” “ก็กฤษณ์ลืมไว้เองนี่คะ มันเป็นแหวนแต่งงานของคุณ พลอยก็แค่หวังดี” “หวังดีบ้าอะไรของคุณ แล้วไปบอกว่าเก็บได้ที่ห้องคุณอีก เมียผมเขาจะคิดยังไงฮะ?” “คุณเอวี่ไม่สงสัยหรอก กฤษณ์จะร้อนตัวไปทำไมคะ” “ผมบอกแล้วใช่ไหมพลอย ว่าเรื่องของเราให้มันจบลงที่นั่น อย่าสร้างปัญหาให้ผมนะขอร้อง ข้องแวะเกี่ยวพันกันแค่เรื่องงานก็พอ ใจจริงผมแทบไม่อยากร่วมงานกับคุณด้วยซ้ำ” “ทำไมคะ กลัวอดใจไม่ได้ทำเหมือนที่เคยทำหรือเปล่านะ” เธอถึงกับเดินเข้าไปใกล้ เชิดหน้าขึ้นจ้องมองท้าทายเขา ใบหน้าคนทั้งคู่ห่างกันไม่ถึงคืบด้วยซ้ำ ก่อนที่กฤษณ์ดนัยจะผลักให้เธอออกห่างแทบจะเซล้มไปอีกทาง “อย่ามาทำตัวแบบนี้กับผม ถ้าคุณพูดไม่รู้เรื่องสัญญาวันนี้ก็ไม่ต้องเซ็น ยกเลิกไปเลย!” “ก็ได้ ๆ พลอยจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว กฤษณ์ต้องแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวสิคะ ถึงจะเรียกโพรเฟชชั่นแนลของแท้ พลอยสัญญาว่าจะคุยกับกฤษณ์แค่เรื่องงานเท่านั้น พอใจหรือยังคะ?” กฤษณ์ดนัยไม่ตอบ เขากลับรีบเดินหนีไม่อยากพูดคุยกับพลอยพัชชาให้เสียอารมณ์ไปมากกว่านี้อีกแล้ว “หึ... คิดเหรอว่าพลอยจะหยุดแค่นี้ รอก่อนเถอะกฤษณ์ อันนี้แค่เรียกน้ำจิ้มเท่านั้นหรอกนะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม