หลายวันหลังจากนั้น
ร้านบาร์เบียร์
อึก!อึก!
"เบาหน่อยอีเยลลี่แดกเหมือนสามล้อถูกหวย" นินิวถูกเรียกให้มาหา ซึ่งมีนไม่ว่างจึงไม่ได้มาด้วย
"กูอกหัก ฮึก"
"เดี๋ยวนะคะมึง..เท่าที่กูทราบพี่ไทเกอร์กับมึงยังไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วมึงจะอกหักได้ยังไง"
"กูอกหักทิพย์"
"เอ้า!!"
เพื่อนขมวดคิ้วเป็นปมพยายามดึงรั้งมือน้อยที่คว้าแก้วเหล้ากระดกดื่มแบบไม่พัก ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มตรง ผู้คนยังไม่มากนักแต่เยลลี่ดื่มเหล้าไปเกือบครึ่งกลม
"โอ๊ยยยย!!" ฉันร้องโวยวาย
"เป็นอะไรอีก มึงเมาแล้วช่วยเก็บอาการหน่อยได้ไหม คนอื่นเขามองกันหมดแล้ว"
"มึงเหยียบตีน อัก กู"
"อุ๊ย โทษๆ ใต้โต๊ะกูมองไม่เห็น ฮ่าๆ"
ดวงตาพร่ามัว เยลลี่เริ่มง่วงเนื่องจากแอลกอฮอล์แทรกซึม ศีรษะฟัดเหวี่ยงจนผมยาวสลวยที่หนีบไดร์จากร้านเสริมสวยยุ่งเหยิง
"เจ็บซ้ำเจ็บซ้อนโดนหักอก ฮึก ยังโดนเพื่อนเหยียบตีน โธ่..ชีวิต ฮือออ" เก็บอาการไม่ไหวมันเจ็บแปลบจริงๆ
"กูว่ามึงเมาแล้วนะ กลับโรงแรมดีกว่าไหมเดี๋ยวกูไปส่งนั่งแท็กซี่ไปด้วยกัน"
"กูไม่กลับ! อยากดื่มเพื่อลืมเธอ"
นินิวฐานะทางบ้านปานกลาง เธอต้องช่วยแม่ทำงานบัญชีที่บริษัท วันนี้จึงไม่สามารถอยู่กับเยลลี่ได้ดึก สามทุ่ม สองสาวจึงออกมายืนริมฟุตบาทเพื่อรอรถแท็กซี่
"แน่ใจนะว่าไหวถึงโรงแรมเมื่อไหร่ส่งข้อความมาบอกด้วยจะได้ไม่เป็นห่วง" สภาพที่ยืนไม่นิ่งทำให้นินิวต้องจับแขนของเยลลี่เขย่า "เฮ้ยยย"
"เออ ไม่ต้องห่วงหรอกน่า คนอย่างเยลลี่ไม่ตายง่ายหรอก"
"ไม่ได้ห่วงว่ามึงจะตาย..ห่วงว่าใครจะลากมึงไปทำไม่ดีไม่ร้ายน่ะสิ"
บรื้นนน
เมื่อแท็กซี่จอดรับนินิวจำต้องขึ้นรถกลับโดยมีเยลลี่โบกไม้โบกมือส่ง จากนั้นเธอเริ่มรู้สึกมวนท้องเนื่องจากแอลกอฮอล์ปั่นป่วน
ฝีเท้าเล็กเดินเลาะไปตามไหล่ทาง พอเห็นตึกก็เลี้ยวเข้าไปเพื่ออาเจียน อ้วกกก
เพียะ!!
"มึงมากับมันได้ไงอีส้ม ไหนบอกไม่คิดอะไร"
"พะ พี่ฟังฉันก่อนสิ"
"กูเห็นนะ ยืนกอดกันเต้นกลางผับ เหอะ มึงคิดว่ากูโง่เหรออีส้ม!!"
"พี่"
เพียะ!
ถัดไปไม่ไกลมีคู่รักกำลังทะเลาะกันอย่างรุนแรง หญิงสาวบอบบางถูกชายร่างแกร่งตบจนเลือดซิบมุมปาก คล้ายอารมณ์ของเขาจะเดือดดาลทำร้ายทุบตีอย่างทารุณ
"เฮ้ยยย!! ทำเหี้ยอะไรผู้หญิงวะไอ้หน้าตัวเมีย" ด้วยความเป็นสตรีแกร่งเต็มเปี่ยม ฉันจึงตะโกนดังลั่นจนไอ้ผู้ชายคนนั้นหันขวับกลับมามอง
"อย่าเสือกเรื่องของผัวเมีย"
"ผัวไม่ใช่พ่อ!! มีสิทธิ์อะไรมาทำร้ายร่างกายของคนอื่น พ่อแม่เขายังไม่เคยตบตีด้วยซ้ำมั้ง ไอ้สัส"
"อ้าวว อีห่าด่ากู"
ดวงตากลมโตดุดัน ชายตัวใหญ่ผิวเข้มเดินตรงดิ่งเข้ามาหาทันทีและการอาเจียนทำให้เยลลี่มีสติขึ้นมาเล็กน้อย เธอยังคงยืนหยัดสู้ไม่ถอย
คลับ Very Hot
ตึก ตึก ตึก
เคว้ง!
"เชี้ย!" ขณะที่ผมกำลังชงค็อกเทลให้ลูกค้าทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก มีร่างเล็กแทรกเข้ามาในบาร์ก่อนจะนั่งลงใต้เคาน์เตอร์ "ทำอะไรของเธอเนี่ย"
"อย่าเรียกหนู"
"อะไร!"
"เงียบ!"
เยลลี่หายไปหลายวันแต่ไทเกอร์ก็ไม่ได้สนใจอะไรจนกระทั่งโผล่มาวันนี้
"เฮ้ย ไอ้หน้าหล่อเห็นอีตัวเล็กๆ ใส่เสื้อเอวลอยสีฟ้ากับกระโปรงสีดำไหม?"
"____"
"มันวิ่งมาในนี้แวบๆ"
ทันทีไทเกอร์ก็รู้สึกได้ว่าคนที่ชายฉกรรจ์ตัวใหญ่ตามหาก็คือเยลลี่ที่ตอนนี้มุดอยู่ใต้หว่างขาของเขาในบาร์
"มีอะไรให้ช่วยไหมครับ" ผมถามกลับแต่มือหนาของผู้ชายตรงหน้ากุมที่ข้างขมับตัวเอง
"กูถามว่าเห็นอีตัวเล็กที่กูบอกไหม!! แล้วมึงจะมาถามกูกลับทำไมวะกวนตีนเหรอ"
"ที่ผมถามเพราะว่าตอนนี้เลือดของคุณมันหยดย้อยลงมาอาบหน้าทำให้ผู้คนแตกตื่นน่ะครับ อีกอย่างถ้าติดเชื้อขึ้นมาอาจจะได้ตัดหัวทิ้งรีบไปโรงพยาบาลเถอะ"
"!!!!"
ย้อนกลับไป หลังจากที่เยลลี่ขัดขวาง ผู้ชายตัวใหญ่ตรงดิ่งเข้ามาแต่ไม่ทันได้เห็นว่าในมือของเธอถือขวดเหล้าเปล่าที่เจอข้างถังขยะ ก่อนที่จะเหวี่ยงฟาดเข้าเต็มกบาล
"เกือบไม่รอด" หลังจากได้ยินเสียงผู้ชายสันดานเลววิ่งออกไป ฉันก็ลุกขึ้นยืน
"ฝีมือเธอใช่ไหม? หัวมันถึงแตกขนาดนั้น"
"ใช่ค่ะ..เจ๋งไหม"
"เจ๋งบ้าอะไรถ้าหากมันมีพรรคพวกแล้วเธอวิ่งหนีไม่ทันอาจจะเกิดอันตรายก็ได้...ทำอะไรหัดใช้สมองคิดหน่อยได้ไหม"
มีแต่เรื่องละเหี่ยใจ ผมสาดเสียงดุดันแต่ก็ต้องรีบทำหน้าที่ต่อ
"ก็มันตบตีผู้หญิง ถ้าพี่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าจะไม่ช่วยหรือไง" ฉันเถียงกลับ "พี่จะปล่อยให้ผู้หญิงถูกทำร้ายไม่ได้นะคะ ใจดำไปไหม"
ต๊บ!
ขวดเหล้าราคาแพงวางกระทบบาร์เคาน์เตอร์เต็มแรง ขณะนี้สองคนยืนอยู่ข้างกัน ไทเกอร์ที่ตัวสูงกว่าหันมาพร้อมกับพูดจาเสียงดัง
"การที่เธอจะช่วยใครสักคนก็ต้องดูก่อนว่าไหวหรือเปล่า..ถ้าหากมันมีปืนหรือมีมีด คนที่จะตายหรือบาดเจ็บก็คือเธอแล้วพ่อแม่ของเธอจะอยู่ยังไง คิดหน่อยสิ! ถ้าเห็นว่าเหตุการณ์ไม่ดีถ่ายคลิปถ่ายรูปเก็บหลักฐานโทรแจ้งตำรวจ" ผมเริ่มโมโหกับการขาดสติของเด็กนี่ "บนโลกนี้ไม่ได้เป็นสีชมพูและไม่ใช่ว่าเธอจะรอดแบบนี้ทุกครั้งหรอกนะ"
คำพูดของเขาทำให้เธอสำนึกผิดรีบก้มหน้าลง ก่อนที่จะเดินคอตกไปนั่งหน้าบาร์ แววตาเศร้าเริ่มบรรเทาอารมณ์ร้อนของอีกฝ่าย
"จะดื่มไหมเดี๋ยวชงให้"
"ดะ ดื่มค่ะเมื่อกี้ตกใจจนสร่าง"
เป็นคำถามที่ทำให้ฉันตื่นเต้น รีบเงยหน้าขึ้นตอบรับพร้อมจ้องมองวิธีการชงเหล้าด้วยศิลปะของชายหนุ่มรูปงามอย่างพี่ไทเกอร์ช่างน่าหลงใหล ไม่ว่าเขาจะใจร้ายแค่ไหนแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความชอบพอที่มีลดน้อยลงไปเลยแม้แต่นิดเดียวจริงๆ เฮ้อ~