ตอนที่ 10 เปลี่ยนสถานะ

2063 คำ
ตอนที่ 10 เปลี่ยนสถานะ การได้สลับบทบาทหน้าที่ มาเป็นฝ่ายถูกเอาอกเอาใจบ้างมันก็ดีเหมือนกัน ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้ ผมถึงเกิดอยากแกล้งเจ้านาย อยากเอาแต่ใจ แล้วอยากลองทำตัวเป็นคนขี้หงุดหงิด ขี้รำคาญดูสักครั้ง เพราะปกติแล้วเคยแต่คอยเอาใจคนนั้น ตามใจคนนี้เสียจนชิน คืนนี้ผมมีโอกาสออกคำสั่ง บอกให้คุณคาลวินโยกซ้าย บอกให้ขยับย้ายไปทางขวา หรือบอกให้เร่งเครื่องเต็มที่ไปข้างหน้า แม้กระทั่งบอกว่าให้จูบตรงไหน จับตรงไหน มาเฟียหน้านิ่งก็ยอมตามใจผมทุกอย่าง “เป็นยังไงบ้าง ฉันทำให้นายอารมณ์ดีขึ้นบ้างหรือเปล่า” เสียงพร่ากระซิบแผ่วลงมา พร้อมกับริมฝีปากงับเข้ามาคาบยอดอก ฉกลิ้นตวัดเลีย เขี่ยส่วนปลายเรียวเล็กก่อนจะดูดมันเบาๆ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า ทำไมคุณคาลวินถึงขยันทำท่าทางหงุดหงิด เพื่อเรียกร้องความสนใจจากผมนัก เพราะการที่มีคนคอยปรนนิบัติเอาใจ นวดแขน นวดขา นาบหน้าท้อง หรือกระทุ้งร่องก้นมันดีอย่างนี้นี่เอง เราสองคนนอนหอบหายใจถี่ๆ ความสุขล้นปรี่ออกมาเป็นน้ำหวานฉ่ำเยิ้มเปียกชื้นเต็มสองง่ามขา “มันยอดเยี่ยมจริงๆ ครับ” “พูดอย่างนี้ แสดงว่านายอารมณ์ดี หายโกรธ หายหงุดหงิด หายอารมณ์เสียแล้ว ใช่หรือเปล่า” “อืมมมม ก็ดีขึ้นครับ” ผมขยับยกหัวขึ้นไปนอนหนุนบนท่อนแขนใหญ่ “รุซลัน ฉันว่า...ลูก้าน่าจะหัดนอนคนเดียวได้แล้วนะ” ดวงตาคมมองขึ้นไปบนเตียงซึ่งอยู่ห่างเราไปหลายก้าว “หมายความว่ายังไงครับ” “ก็หมายความว่า ลูก้าควรจะมีห้องนอนส่วนตัว แล้วเขาควรจะหัดนอนคนเดียว" "ทำไมล่ะ" "เราจะนอนในคอกกั้น นอนในสนามเด็กเล่นอย่างนี้ทุกคืนไม่ได้หรอกนะ บ้านฉันหลังออกใหญ่โต ห้องนอน โต๊ะ เตียงฉันก็มี ทำไมฉันต้องมานอนขดอยู่ในนี้ด้วยล่ะ” คุณคาลวินยกขาขึ้นไปวางพาดไว้บนบันไดสามสี่ขั้น สำหรับให้เด็กน้อยปีนขึ้นไปเล่นสไลด์เดอร์ มือใหญ่หยิบลูกบอลยางขึ้นมาแล้วโยนมันเข้าไปในส่วนของบ่อบอลเล็กๆ “เรื่องนั้นผมรู้ครับ คุณจะกลับไปนอนที่ห้องมันก็เรื่องของคุณสิ ทำไมต้องมาแยกลูก้า ให้ไปนอนคนเดียวด้วยล่ะ” ผมอมยิ้มอยู่ในความมืด เข้าใจในเจตนาของคุณคาลวินดี “ตอนนี้ลูก้าสองขวบกว่าแล้วนี่ ยังไงก็ต้องฝึกให้เขานอนคนเดียว นายคงไม่นอนตบตูดเขาอย่างนี้ ไปจนโตหรอกนะ” “แต่ผมอยากนอนกับลูก้า” “แต่ฉันอยากนอนกับนาย” “คุณ....จะมาอยากนอนกับผมทำไมครับ” จากเดิมที่ผมกำลังจะเคลิ้มใกล้หลับ พลันมีอันให้กลับมาตาสว่างหูผึ่งขึ้นมาเสียอย่างนั้น “ช่วงนี้งานฉันเยอะ มีเรื่องให้คิด มีเรื่องให้ทำ มีเรื่องให้อารมณ์เสียได้ทุกวัน ถ้ามีนาย...มานอนห้องเดียวกัน มานอนกับฉัน ฉันจะได้ไม่ต้องเดินลงมาข้างล่างไง” “นอกจากผมแล้ว คุณไม่มีคนอื่นมาคอยแก้เบื่อให้หรือไงครับ ไหนคุณเคยบอกว่า ผมไม่ใช่สเปคไง” ผมเท้าความ ทบทวนความจำให้พ่อมาเฟียขี้ลืม “ก็...ก็มี มีสิ ต้องมีอยู่แล้ว” คนที่เคยบอกว่าผมไม่ใช่สเปคกระแอมเหมือนมีอะไรบางอย่างติดคอ “มีแล้วทำไม ผมไม่เคยเห็นคุณออกไปนอนค้างข้างนอกเลย แล้วก็ไม่เคยเห็นคุณพาใครกลับมานอนที่บ้าน” ผมยกข้อศอกขึ้นมาใช้มันยันตัวเองยกขึ้น จากนั้นหันหน้าไปสบตาเจ้าของร่างระอุ “ทำไมฉันต้องไปนอนกับคนอื่นด้วย ในเมื่อตอนนี้ฉันมีนาย...” “ผมจะไปรู้เหรอ ก็คุณเคยบอกเองนี่ว่า คุณเป็นคนขี้เบื่อ แล้วคุณกับผม เราสองคนนอนด้วยกันทุกวัน....ทุกคืน เกือบสองเดือนแล้วนะครับ แทบไม่ได้พัก ไม่ได้เว้นเลย ผมก็คิดว่าคุณจะเบื่อผมน่ะสิ” “ก็บังเอิญว่าช่วงนี้ฉันไม่เบื่อ หรือว่า....นายเบื่อฉันแล้ว อย่างนั้นเหรอ รุซลัน!” คุณคาลวินทำตาโต ผมถูกยกจนตัวลอย จากที่กำลังนอนสบายๆ ใกล้จะหลับตอนนี้ตาสว่างขึ้นมาทันที “อะไรครับ” “นายเบื่อฉันเหรอ?” “ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำ นี่คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ” "ก็เมื่อกี้นายบอกว่าเรานอนด้วยกันทุกวัน...." คุณคาลวินขยับตัวลุกขึ้นมากึ่งนั่งกึ่งนอน ตาคมจ้องผมเหมือนพยายามจะคาดคั้นหาคำตอบ "ก็จริงนี่ ตามปกติคุณเคยนอนกับใครทุกวันอย่างนี้มั้ยล่ะ" "ไม่เคย ส่วนมาก สอง สาม ครั้งฉันก็เบื่อแล้ว" ปากหยักเบะคว่ำทำท่าแสดงประกอบอาการน่าเบื่อ "แล้วครั้งนี้ล่ะครับ คุณเบื่อผมแล้วหรือยัง" "ไม่เลย ถ้าฉันเบื่อ ฉันจะลงมาหานายเหรอ" “เอาล่ะยังไม่เบื่อก็ดีไป ถ้าอย่างนั้นคุณกลับห้องไปได้แล้วครับ ผมจะนอนแล้ว” ผมลุกขึ้นมาควานหาเสื้อผ้าที่ถูกจับถอด โยนหายไปคนละทิศ คนละทาง จากนั้นเดินเข้าไปล้างเนื้อล้างตัวในห้องน้ำก่อนจะเดินกลับไปล้มตัวลงนอนเคียงข้างเจ้าก้อนกระปุ๊กลุก “ทำไมคุณยังไม่กลับห้องไปอีกล่ะ” ในความมืด เงาของพ่อมาเฟียงอแงลุกเดินมาจากชุดเครื่องเล่นเด็ก ตรงมาล้มตัวนอนกอดผมแน่น สองแขน สองขาเกี่ยวรัดพันจนผมแทบขยับตัวไม่ได้ “คืนนี้ฉันขอนอนด้วย” “หื้อ อะไรของคุณเนี่ย” “นะ ขอนอนด้วย ขอกอดหน่อย” “เฮ้อ...” ผมเหนื่อยและเพลียเกินกว่าจะใส่ใจ เลยปล่อยให้คนตัวใหญ่นอนกอดอยู่อย่างนั้น “อื้ออออออ” “อะไรของนาย” “รุซ ของลูก้า” “ของนายที่ไหน...ของฉันต่างหาก ฉันนอนกอดเขาอยู่เห็นหรือเปล่า” “แต่รุซของลูก้า อื้ออออออ” เสียงการทะเลาะ ถกเถียง ปลุกผมตื่นขึ้นมาจากความฝัน ความรู้สึกแรกนั้นคือเหมือนมีคนกำลังพยายามลากแขนผมไปทางหนึ่ง หากแต่ช่วงเอว มีท่อนแขนเกี่ยวรั้งแล้วพยายามดึงผมให้ไปอีกฝั่ง “รุซของลูก้า” “รุซลันเป็นของฉัน” “ฮื้ออออ ของลูก้า ของลูก้า ฮึก ฮึก” “อะไรกันครับ ทะเลาะอะไรกัน ลูก้าร้องไห้ทำไมครับ” ผมลุกขึ้นมาสงบศึกระหว่างมาเฟียอายุสามสิบสอง กับน้องชายวัยสองขวบกว่าๆ ที่กำลังเปิดศึกยื้อแย่งตัวผม “คุณคาลวินไม่ให้ลูก้ากอดรุซเลย” เจ้าของน้ำลายเป็นคราบๆ เบะปากเหมือนจะร้องไห้ “กอดได้สิ ทำไมจะกอดไม่ได้” ผมอุ้มน้องชายเข้ามากอด พร้อมกับจูบแก้มซ้ำๆ อีกทั้งใช้แขนเสื้อ ช่วยเช็ดคราบน้ำลายแห้งกรังนั้นออกไปจากมุมปาก “เห็นมั้ยฮะ รุซเป็นของลูก้า ลูก้าชนะแล้ว” นิ้วสั้นชี้กลับไปทางด้านหลัง พร้อมคำพูดถากถางพ่อมาเฟียที่นั่งหน้าหงิกงออยู่ข้างหลังผม “เขาก็เป็นของฉันเหมือนกัน” ท่อนขาสองข้างตวัดเข้ามาหนีบผมเอาไว้แน่น “โอ๊ย อะไรของคุณเนี่ย” ผมยกมือฟาดลงไปบนหน้าแข้งแข็งๆ ของมาเฟียที่ยื้อแย่งแข่งขัน อยากเอาชนะเด็กสองขวบ "ของลูก้า" มือน้อยๆ ช่วยผมตีซ้ำลงไปอีกสองที "ของฉัน" "พอ...พอ....พอ ทั้งคู่เลยคุณคาลวิน เช้าแล้วกลับห้องไปเลยครับ ลูก้าไปอาบน้ำแปรงฟันกัน" เช้านี้นอกจากผมต้องเลี้ยงน้องชายวัยสองขวบ ผมยังต้องปวดหัวกับพ่อมาเฟียเจ้าของบ้าน ที่ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ยอมกลับห้องสักที กว่าจะจับแยกผู้ใหญ่ไม่รู้จักโต กับเด็กที่ยังไม่รู้ประสีประสาให้เลิกเถียงกันได้ผมต้องตีหน้ายักษ์ไปเสียหลายหน “วันนี้คุณไม่ออกไปข้างนอกเหรอครับ” ผมหันไปมองนาฬิกาแขวนแบบโบราณสีทองตรงมุมห้อง เห็นว่าเลยเวลาที่คุณคาลวินจะออกจากบ้านไปนานนับชั่วโมงแล้ว แต่อีกฝ่ายยังคงนั่งจิบกาแฟอย่างสบายใจอยู่ตรงโต๊ะทำงาน อีกทั้งวันนี้ คนขี้หงุดหงิดยังใส่เพียงเสื้อผ้าชุดลำลองสบายๆ “วันนี้ไม่” เจ้าของสีหน้าเรียบเฉยเย็นชาตอบกลับมา “คุณคาลวินจะพาลูก้าไปเที่ยวเหรอฮะ” ลูก้าที่ยืนชะเง้อคอแอบฟังอยู่ รีบวิ่งเข้าไปเกาะขาคุณคาลวินทันที “พานายไปเที่ยวน่ะเหรอ” ปลายนิ้วดีดแตะลงบนจมูกเล็ก “ลูก้าอยากไปดูฉลามอีก” ขนาดเมื่อเช้าทะเลาะกันแทบตาย พอสายมาเจ้าตัวจิ๋วก็วิ่งไปอ้อนขอให้เขาพาไปเที่ยวอีกแล้ว ส่วนคุณคาลวินเห็นหน้านิ่งๆ ดุขรึมอย่างนี้ผมรู้ว่าในจจริงเขาคือผู้ชายที่แฝงไว้ด้วยความอบอุ่นคนหนึ่ง “เพิ่งจะไปมาเมื่อวาน วันนี้จะกลับไปดูอีกแล้ว นายไม่เบื่อหรือไง” คุณคาลวินอุ้มเอาน้องชายของผมไปนั่งลงบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่สายตาสองคู่จ้องกันเขม็ง “ลูก้าไม่เบื่อเลยฮะ” “แต่ฉันเบื่อ” “เบื่อทำไมล่ะ พี่หมี พี่เสือน่ารักออกนะฮะ เราไปหาพวกมันกันดีหรือเปล่าล่ะ” "แต่วันนี้ฉันมีธุระ" คุณคาลวินยีฝ่ามือลงไปบนแก้มนุ่มๆ สองข้าง "ธุระคืออะไรฮะ" คอสั้นเอียงไปด้านข้าง คิ้วบางขมวดเข้าหากันเพราะไม่เข้าใจคำศัพท์ของผู้ใหญ่ "ธุระก็คือธุระ" “ลูก้า เอาไว้เดี๋ยวรอให้คุณคาลวินว่างเราค่อยไปกัน ตอนนี้ได้เวลากินนมนอนกลางวันแล้ว ขึ้นห้องกันเถอะ” ผมจำเป็นต้องลุกจากเก้าอี้เพื่อไปหยุดสถานการณ์นี้ “...........” แก้มป่องพองลมเหมือนกำลังรู้สึกผิดหวังเสียใจ ที่ไม่ได้ไปเที่ยว “วันนี้ฉันมีธุระจริงๆ เอาไว้เดี๋ยวฉันพาไปวันหลังนะ” คุณคาลวินวางมือลงไปลูบหัวเด็กน้อยเบาๆ เก้าอี้ตัวใหญ่เลื่อนเข้าไปใกล้เด็กน้อยก่อนจะยื่นจมูกลงไปสูดกลิ่นแก้มหอมพองลมหนักๆ จากนั้นเปลี่ยนเป็นฟัดใส่กันตามมาด้วยเสียงหัวเราะคิกคัก ทั้งคู่ "โอเคมั้ย" "โอเคฮะ" “ดีมาก เอาล่ะ เอรา....พาลูก้าไปนอนได้แล้ว” โฮกกก! เจ้าสิงโตขาวเดินเข้ามาส่งเสียงคำราม เดี๋ยวนี้ลูก้าไม่กลัวเจ้าสัตว์ใหญ่สี่ขาแล้วเพราะว่านอนเล่น นั่งเล่นด้วยกันบ่อย ชุดเสื้อยืดสำหรับเด็กถูกขยุ้มจากด้านหลัง จากนั้นส่งมันใส่เข้าไปในปากเพื่อให้เอราคาบ "ไป พาน้องไปนอน" คุณคาลวินวางมือลูบขยี้ขนฟูของเอราแรงๆ “คิก คิก คิก” “ไปพากันไปนอน” คุณคาลวินชี้นิ้วขึ้นไปยังชั้นสอง จากนั้นเจ้าเอราจึงคาบน้องชายผมเดินนำหน้าขึ้นบันไดไป “นี่คุณแน่ใจนะว่า เจ้าเอราจะไม่แทะลูก้าจนเหลือแต่กระดูกเข้าสักวัน” ผมหันมามองขวางให้กับเจ้าของสิงโต “ไว้ใจเถอะ มันไม่ทำหรอก” “คุณให้ผมไว้ใจสัตว์มีเขี้ยว สี่ขาเนี่ยนะครับ” “ฉันเลี้ยงมันมาตั้งแต่เล็กๆ ป้อนน้ำ ป้อนนมมันมากับมือ รู้อะไรมั้ย สัตว์บางตัวมันจงรักภักดีต่อเรา มากกว่ามนุษย์บางคนซะอีก” “เรื่องนั้นผมทราบครับ แต่คุณแน่ใจนะครับว่า ตื่นมาลูก้าจะไม่ไปนอนในท้องเอรา” “ฉันเอาหัวเป็นประกัน” ริมฝีปากหยักประทับจูบลงมาเบาๆ “หัวของคุณ ไม่มีค่าสำหรับผม ไม่มีใคร มีค่าสำหรับผมมากเท่ากับลูก้า” ผมยกนิ้วขึ้นมาบีบปลายจมูกโด่งนั้นก่อนจะลุกขึ้นเพื่อเดินตามหลังสิงโตเพื่อไปกล่อมน้องนอน “นายรักเขาขนาดนั้นเชียว...ลูก้าน่ะ” “รักสิครับ เพราะเขาคือคนในครอบครัว คนเดียวที่ผมเหลืออยู่บนโลกใบนี้”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม