ตอนที่ 5 คนขี้หงุดหงิด
หลังจากปรนนิบัติทำให้คุณคาลวินอารมณ์กลับมาเป็นปกติได้ ผมลากร่างกายอันกะปลกกะเปลี้ยเพลียแรงกลับมาห้อง แล้วหลับจนเหมือนคนตายเพราะไม่รับรู้อะไรอีกเลย จนมารู้สึกตัวตื่นสะลึมสะลือตอนที่ได้กลิ่นอาหารลอยมาเตะจมูก ลูก้าน้องชายลากเอาถาดอาหารขนาดใหญ่มานั่งกินอยู่บนเตียงใกล้ๆ ผมนั่นเอง
“รุซ พี่ตื่นหรือยัง” เจ้าตัวเล็กนั่งเอียงคอมอง เหมือนสงสัยว่าทำไมวันนี้ผมถึงตื่นสายนัก
“ลูก้า พี่ขอโทษที่ตื่นสาย นี่กินอะไรหรือยัง” ผมผงกหัวพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง กล้ามเนื้อแขนขา เหมือนมีเส้นเชือก เส้นเอ็นฉุดรั้งดึงรัด ให้ผมขยับขยายเคลื่อนย้ายร่างกายลำบากเหลือเกิน
“วิคเตอร์มาชงนม กับเอาขนมปัง มีไส้กรอกเยอะแยะมาฝากลูก้าด้วย”
“วิคเตอร์อย่างนั้นเหรอ” ผมเหลือบตามองถาดอาหารเต็มไปด้วยของกินหลายอย่าง ก่อนจะเหลียวกลับไปมองประตูห้องที่ปิดสนิท อย่างน้อยคนพวกนี้ก็ไม่ได้เลวร้าย ถึงขนาดปล่อยให้น้องชายของผมหิวโซ และถ้าหากคนพวกนั้นทำอย่างนี้นั่นแหละว่าเรื่องที่ผมกับคุณคาลวินมีอะไรกันมันก็คงไม่ใช้ความลับอะไรสินะ
ช่วงบ่ายผมได้รับอนุญาต ให้พาน้องออกมาเดินเล่นตรงบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้านได้ เราสองคนวิ่งไล่จับกันจนเหนื่อย แก้มยุ้ยของเจ้าตัวเล็ก เปลี่ยนจากขาวกลายเป็นสีชมพูเข้มจัด ตอนที่ขบวนรถแวนสีดำ เคลื่อนต่อแถวกลับเข้ามาในรั้วบ้าน ตรงบันไดด้านหน้าแม่บ้านกับเจ้าเอรา เดินออกมารอต้อนรับเจ้านาย ดูเป็นพิธีรีตองที่ผมไม่เห็นความสำคัญของมันเลยสักนิด
“รุซลัน คุณคาลวินให้ขึ้นไปหาบนห้อง” วิคเตอร์ บอดี้การ์ดคนสนิทของคุณคาลวิน เดินลัดสนามหญ้าตรงมาหาขณะที่ผมกำลังสอนให้ลูก้ารู้จักดอกไม้สองสามชนิดในสวน
“ให้ผมขึ้นไปหาบนห้อง อย่างนั้นเหรอครับ” ผมเงยหน้าขึ้นไปยังชั้นสามของคฤหาสน์ ซึ่งรู้ว่าด้านบนนั้นเป็นห้องนอนหลักส่วนตัวของพ่อมาเฟียใหญ่ นัยน์ตากลมสีน้ำตาลของน้องชายกำลังแหงนเงยขึ้นมามอง ผมรู้ว่าลูก้ากำลังสนุกกับการได้ออกมาวิ่งเล่นและคงยังไม่อยากกลับเข้าไปอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ
“ครับ” ผมเดินพยักหน้า แล้วยื่นมือลงไปคว้ามือเล็กนุ่มนิ่มของลูก้าให้เดินไปด้วยกัน
“เดี๋ยว...แค่นาย”
“คุณจะให้ผมทิ้งน้องไปอย่างนั้นเหรอ”
“ฉันจะดูแลเขาให้เอง นายรีบไปดีกว่าก่อนที่คุณคาลวินจะอารมณ์เสีย”
“เจ้านายคุณนี่ ขี้หงุดหงิดจังเลยนะครับ”
“รู้อย่างนี้ก็ดี รีบไปได้แล้ว”
“รุซ พี่จะไปไหน” มือเล็กๆ กระตุกชายเสื้อของผมเบาๆ
“พี่จะขึ้นไปหาคุณคาลวิน”
“ขอลูก้าไปด้วยได้มั้ย ลูก้าอยากไปหาเอรา” เด็กน้อยผู้ยังไม่ประสีประสาอ้อนผมเสียงอ่อนเสียงหวาน
“มาสิ” ผมหันไปยักคิ้วให้วิคเตอร์แล้วจูงมือน้องชายให้เดินขึ้นบันไดไปด้วยกัน
บนชั้นสามของคฤหาสน์หลังงาม หรูหราโอ่อ่าสมกับเป็นบ้านมหาเศรษฐี ประตูไม้บานใหญ่สลักลวดลายเทพเจ้ากรีกและสัตว์โบราณโดดเด่นสะดุดตา ด้านหน้ามีบอดี้การ์ดร่างใหญ่สี่คนยืนเฝ้าเป็นนายธรณีประตูอยู่ไม่ห่าง
โฮกกกก! เจ้าเอราคำรามก้องทักทายทันที เมื่อผมกับลูก้าก้าวขาเข้าไปภายในห้อง เด็กน้อยที่ร้องหาบอกว่าอยากมาดูสิงโต กระโดดโหย่งเกาะขาผมเอาไว้แน่น
“รุซ กลัว กลัว” มือเล็กโหนชายเสื้อของผมดึงมันลงไป จนคอเสื้อยืดย้วยเกือบขาด ขาสั้นตะเกียกตะกายพยายามปีนป่ายขึ้นมาตามขา จนผมต้องคว้าน้องขึ้นมาอุ้มให้อยู่สูงกว่าเจ้าสิงโตขาว
“วิคเตอร์ไม่ได้บอกเหรอว่า ฉันให้นายมาคนเดียว”
“บอกครับ แต่ผมไม่อยากทิ้งน้องเอาไว้คนเดียว”
“นายก็รู้ว่าฉันขี้หงุดหงิด ขี้รำคาญ”
“เรื่องนั้นผมรู้ ผมก็กำลังขึ้นมาทำให้คุณอารมณ์ดีนี่ยังไงล่ะครับ”
“ผิดแล้ว! นายกำลังทำให้ฉันหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม” ตาขวางอย่างคนมีเรื่องให้ไม่พอใจมองลงมายังน้องชายตัวเล็ก
“ผมกับน้องเรายังไม่ได้ทำอะไรเลย คุณคาลวินอย่าเพิ่งรีบด่วนตัดสินใจ หงุดหงิดล่วงหน้าสิครับ”
“นายจะทำอะไรกันแน่”
“ก็....ทำให้คุณหายหงุดหงิดไงครับ แต่ว่าตอนนี้คุณช่วยบอกให้เจ้าเอรา หยุดทำท่าเหมือนเห็นผมกับลูก้า เป็นอาหารมื้อค่ำของมันได้หรือยัง”
“เฮอะ ถ้านายทำไม่ได้อย่างที่พูด....”
“เมื่อคืนผมก็ทำไปแล้วนี่ คุณเองน่าจะรู้ดี ไม่อย่างนั้นวันนี้คุณคงไม่เรียกให้ผม ขึ้นมาหาถึงบนนี้ใช่หรือเปล่าล่ะ” ผมยักคิ้วปรายหางตาลงไปหาเจ้าเอราสิงโตที่เมื่อคืนนี้มันนอนเฝ้าผมกับเจ้านายตั้งแต่บทรักเริ่มต้นจนทุกอย่างจบลงมันก็ไม่ยอมไปไหน
“ได้...เอรารอก่อน ยังไม่ถึงเวลาอาหาร” คุณคาลวินขยับมาวางมือลูบลงไปบนส่วนหัวซึ่งมีขนนุ่มฟูสีขาวราวกับหิมะนั้น
“คุณคาลวินฮะ เอราจะกินลูก้าหรือเปล่า” น้องชายของผมพาดขาข้างหนึ่งขึ้นมาบนคอ เหมือนยังระแวงเจ้าสิงโตขนปุยที่จ้องเราไม่ยอมวางตา
“เนื้อของลูก้า...อร่อยหรือเปล่าล่ะ”
“รุซบอกว่าลูก้าเนื้อนุ่ม แล้วก็หอมมากที่สุดในโลก”
“งั้นเหรอ เมื่อคืนพี่ชายของนายก็บอกว่าเนื้อของฉัน...แน่น แล้วก็หอมอร่อยที่สุดในโลกเหมือนกัน”
“อืม ขอลูก้าลองบ้างได้มั้ยฮะ....ฟอดดด” เจ้าจิ๋วโน้มตัวลงไปยื่นจมูกไปสูดกลิ่นแก้มของคุณคาลวิน เพื่อเป็นการพิสูจน์ คนที่ถูกเด็กสองขวบขโมยหอมแก้มแค่นยิ้มออกมาเหมือนไม่ค่อยชิน
“แก้มรุซ นิ่มกว่า”
“รุซลันนะเหรอแก้มนิ่มกว่าฉัน”
“อืม ตรงนี้ไงฮะ ลูก้าชอบจุ๊บรุซตรงนี้” นิ้วเล็กชี้กลับลงมาบนแก้มของผม
“ฉันไม่เชื่อ ไหนมาพิสูจน์หน่อยสิว่านายขี้โม้หรือเปล่า”
“นี่ไง คุณคาลวินจุ๊บสิ” สองมือน้อยของน้องชายจับใบหน้าของผมแล้วดึงเข้าไปหา
“นี่คุณ...” แขนเกี่ยวรวบเอวดึงผมเข้าไปพร้อมโน้มตัวลงมาขยี้จมูกกดจูบจนแก้มระบมไปหมด
“นิ่มมั้ย”
“อืมมมม นิ่ม”
“เอาล่ะ เลิกล้อเล่นได้แล้วนะครับ คุณหงุดหงิด อารมณ์ไม่ดีอยู่นี่ เอาอย่างนี้ผมจะไปเตรียมน้ำอุ่นให้คุณแช่ตัว เผื่อว่ามันจะช่วยผ่อนคลายอารมณ์ของคุณได้บ้าง”
“แต่ฉันไม่ได้อยากแช่ตัว” มือข้างหนึ่งอ้อมไปตะปบตบสะโพกด้านหลังก่อนที่อุ้งมือนั้นจะบีบเฟ้นบั้นท้ายของผมหนักมือ เป้ากางเกงซึ่งขยับมาชิดติดกันอยู่สัมผัสได้ถึงท่อนเนื้อแข็งขืนตื่นตัวตามอารมณ์คนเป็นเจ้าของ
“หน้าที่ทำให้คุณหายหงุดหงิดเป็นของผม วางใจเถอะครับ ผมจะทำให้คุณสบายเนื้อ สบายตัวแน่นอน...”
ผมอุ้มลูก้าเข้ามาภายในห้องน้ำ ที่มีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนของผมเสียอีก อ่างอาบน้ำสำหรับแช่ตัวขนาดใหญ่ที่คนสามารถลงไปนอนแช่ตัวได้พร้อมกันสี่ถึงห้าคน ทำเอาเจ้าตัวจิ๋วร้องอู้หูไม่หยุด
“รุซในนี้มีสระว่ายน้ำด้วยดูสิ” มือน้อยๆ ยื่นลงไปตีผิวน้ำเล่นอย่างตื่นเต้น
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะครับ” ผมขยับไปยืนอยู่ตรงหน้าคนนี้หงุดหงิดแล้วแกล้งถาม เจ้าของห้องที่เดินตามเข้ามายืนถลึงตา ทำหน้าบึ้งมองผมตาขวาง สันกรามถูกขบกดเข้าหากันได้ยินเสียงกระดูกฟันเสียดสีกันกรอดๆ
“นายรู้ว่าฉันเรียกนายขึ้นมาทำไม”
“ครับผมรู้ ผมรู้ว่าคุณเหนื่อยจากงานข้างนอก แล้วคงกำลังหงุดหงิดจากอะไรสักอย่าง”
“แล้วนายพาลูก้าขึ้นมาทำไม”
“เพื่อให้คุณผ่อนคลายมากขึ้นไงครับ”
“..............” คิ้วสีน้ำตาลทองกระตุกเหมือนยังไม่เข้าใจ
“ผมมีวิธี....คุณแค่นั่งเฉยๆ นอนเฉยๆ เหมือนเมื่อคืนก็พอ” ผมเอื้อมมือปลดกระดุมเสื้อของคุณคาลวินออกอย่างช้าๆ ปลายนิ้วแกล้งสะกิดตรงนั้นนิด เขี่ยตรงนี้หน่อย กระตุ้นอารมณ์เสียว เร่งจังหวะลมหายใจนั้นให้ยิ่งกระสับกระส่าย อาศัยช่วงที่น้องชายก้มหน้า สนใจอ่างอาบน้ำแตะริมฝีปากจูบคนหน้างออย่างเอาใจ
“เชื่อมือผมเถอะครับว่า ผมสามารถทำให้คุณอารมณ์ดีขึ้นได้แน่นอน”
“รุซ ดูสิมีฟองเป่าโป่งด้วย” ลูก้ากางมือเต็มไปด้วยฟองครีมสีขาวขึ้นมาอวดผม
“ลูก้าเป่าลูกโป่งให้คุณคาลวินดูสิครับ”
“ลูก้าชอบเป่าโป่ง” มือน้อยง้องุ้มทำให้เป็นโพรงจากนั้นเป่าลมเข้าไปทางหนึ่ง
ผมยืนหันซ้ายหันขวาแล้วเดินไปหยิบห่วงกลมสำหรับใช้แขวนผ้าเช็ดมือมาจากอ่างล้างมือ ปลดเอาผ้าขนหนูเนื้อนุ่มราวกับสำลีออกแล้วนำห่วงนั้นมาให้ลูก้า ลูกโป่งอันเกิดจากฟองสบู่โป่งพองผุดออกมาสร้างเสียงหัวเราะชอบใจให้เด็กวัยสองขวบ นี่เป็นสิ่งที่ผมเคยชวนลูก้าเล่นเป็นประจำ ตอนที่ผมรู้สึกเครียด รู้สึกเหนื่อย รู้สึกอยากร้องไห้เพราะไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปทางไหน แต่เมื่อไหร่ที่ได้เห็นรอยยิ้มหรือได้ยินเสียงหัวเราะสดใสของลูก้า ความมืดมนอนธการทั้งหลาย เหมือนมันจะสลายหายไปในที่สุด ผมจึงมักใช้วิธีนี้ ยิ่งเวลาได้มองฟองสบู่ใสๆ ลอยไปลอยมาในอากาศอย่างอิสระ มันทำให้ผมผ่อนคลายได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“ฟู่วววววว” แก้มป่องเป่าฟองอากาศอย่างตั้งใจพร้อมส่งเสียงหัวเราะสดใสดังไปทั่วห้อง
“มาสิครับคุณคาลวิน ลงไปแช่ตัว เดี๋ยวผมนวดให้” ผมอาศัยช่วงที่น้องชายมัวแต่เล่นฟองสบู่ลูบมือคลึงคลำขยำเป้ากางเกงของคนขี้โมโห มือหยาบคว้าคอของผมไปตะปบจูบดูดจนปากผมร้อนวูบๆ มือลูบขยำหน้าอก บิดบีบจนระบมไปหมด
“ฝากไว้ก่อนเถอะ”
“คุณคาลวินเป่าเป็นมั้ย”
ลูก้าที่เวลานี้เนื้อตัวเปียก ตั้งแต่เส้นผมลงไปจนถึงขาอ้วนๆ ยกมือขึ้นมาอวดห่วงเป่าฟองสบู่ให้คุณคาลวินเห็น ผมเดินอ้อมไปนั่งลงตรงขอบอ่าง วางมือลงไปบนหัวไหล่แข็ง จากนั้นค่อยๆ ลงแรงนวดกดจุดผ่อนคลายอารมณ์ให้คนเครียด
“ฉันเป่าได้ลูกใหญ่กว่านายอีก” คนขี้อวดเหมือนอยากเอาชนะเด็กสองขวบ
“จริงอะเปล่าฮะ” ผมนั่งอมยิ้มให้เจ้าตัวเล็กที่เอียงคอมองมาเหมือนไม่เชื่อ
“จริง”
“ไหน เป่าให้ลูก้าดูสิ”
หลังจากนั้นไม่ถึงนาที ผมจึงได้มีโอกาสเห็นมาเฟียที่อายุไม่น่าจะน้อยกว่าสามสิบปี กำลังพยายามเอาชนะเด็กสองขวบด้วยการเป่าฟองแชมพูให้ได้ใหญ่กว่า เยอะกว่า จนเวลานี้ทั่วทั้งห้องอาบน้ำเต็มไปด้วยฟองสบู่สีขาวลอยเต็มเพดานห้อง
“นายแพ้แล้ว” พ่อมาเฟียชี้นิ้วเต็มไปได้ฟองขาวไปทางเด็กน้อย
“แพ้ก็ได้” เจ้าจิ๋ววิ่งอ้อมอ่างอาบน้ำพุ่งเข้ามากระโดดหอมแก้มคุณคาลวินสองสามทีตามธรรมเนียม
“นายมา...หอมแก้มฉันทำไม”
“คนแพ้ต้องหอมแก้มไง”
“งั้นเหรอ....” สายตาสงสัยช้อนขึ้นมามองผมเป็นเชิงถาม ผมเพียงแค่พยักหน้ารับ
“แล้วคนชนะล่ะจะได้อะไร”
“ก็จะได้กอด แล้วก็หอมแก้มคนแพ้เหมือนกัน”
“หมายความว่าฉันจะได้กอดนายงั้นเหรอ”
“ฮะ กอดลูก้าจะมีพลังเพิ่มขึ้นอีกสิบเท่าเลย” ขาสั้นปีนขึ้นมายืนอยู่บนขอบอ่างอาบน้ำสีขาว แขนสั้นกางออกแล้วใช้มันรัดรอบคอของคุณคาลวิน หน้ากลมของเจ้าอ้วนลูก้าเอียงลงมาสบตากับผมผ่านหัวไหล่สูง
“โอเค...ลองดู” ท่อนแขนใหญ่ขยับยกขึ้นมาโอบกอดรัดรอบร่างกลมป้อม
ผมหย่อนก้นนั่งลงบนขอบอ่างสีขาวมุกแล้ววาดแขนกอดซ้ำซ้อนผู้ชายต่างวัยทั้งสองคน ลอบมอบจุมพิตหวานดูดดื่มให้คนที่เผยอยกกลีบปากห่างไปเพียงปลายลิ้นแลบเลียถึงกัน
“เอาล่ะลูก้า ฉันมีเรื่องให้รุซลันช่วยนิดหน่อย นายลงไปรอข้างล่างได้หรือเปล่า” นิ้วกระดิกลั่นกระดิ่งสีทองส่งสัญญาณเรียกบอดี้การ์ดให้เข้ามา
“ลูก้าลงไปรอพี่ที่ห้องก่อนนะ เดี๋ยวพี่ตามไป”
ผมอุ้มน้องชายตัวเปียกส่งให้กับวิคเตอร์ กระทั่งเมื่อน้องชายถูกอุ้มเดินหายออกไปจากประตู โดยมีเจ้าเอราเดินตามออกไปติดๆ ผมจึงได้หันกลับมาให้ความสนใจพ่อคนขี้หงุดหงิดที่นั่งอยู่ภายในอ่าง
“อารมณ์ดีขึ้นบ้างหรือยังครับ”
“ก็ดีขึ้น...นิดหน่อย”
“เมื่อกี้คุณแข่งเป่าฟองสบู่กับลูก้าไปแล้ว คุณสนใจอยากมาลองแข่งกับผมดูบ้างหรือเปล่า”
“ฉันไม่ใช่เด็กที่จะรู้สึกสนุกกับเรื่องบ้าบอปัญญาอ่อน”
“ใจเย็นสิครับ ผมไม่ได้จะท้าทายให้คุณมาแข่งเกมเด็กๆ แบบลูก้าหรอกนะ เกมที่ผมจะเล่นน่ะมันเสียว...แล้วก็สนุกกว่า” มือถอดเสื้อผ้าออกแล้ววางมันกองลงบนเคาน์เตอร์หินอ่อนสีขาว
ขายาวก้าวลงไปภายในอ่างใหญ่ ขยับไปยืนอยู่ต่อหน้าเจ้าพ่อมาเฟียเจ้าของสายตาเย็นชา ฝ่ามือล้วงเลื่อนต่ำลงไปจับท่อนเนื้อส่วนตัวแล้วรูดชักพร้อมขยับปากออกเสียงครางกระเส่าเย้ายวน
“นายทำอะไร”
“ทำให้คุณผ่อนคลายไงครับ.....อ่าส์ เสียวจัง” ฝ่ามือหนึ่งช้อนประคองเชยคางแหลมให้มองสูง ท่อนเอ็นแข็งแม้ขนาดไม่ได้ใหญ่มากแต่มันก็ยังได้มาตรฐานของชายทั่วไปถูกผมกระทำย่ำยีด้วยน้ำมือตัวเอง ส่วนปลายสีชมพูเข้มจนเกือบแดง ทรงหยักเล็กๆ ผลุบเข้าโผล่ออกมาจากซอกนิ้วมือ สองนิ้วเรียวกรีดรีดรูดไปตามกลีบปากหยักก่อนจะล้วงเข้าไปควานสัมผัสลิ้นหยุ่นสากอุ่นภายใน
“คุณคาลวิน ผมเสียวจังเลย” แท่งเนื้อเรียวขยับเข้าไปชิดติดขอบปาก ก่อนจะแทงซ้ำๆ สองสามที จนอีกฝ่ายยอมขยับอ้าปากกว้างขึ้น
“ปากคุณอุ่นจัง”
กล้ามเนื้อส่วนเอวเด้งขยับ ตอกท่อนเนื้อนั้นเข้าไปเป็นจังหวะ ขณะที่มือหนายกขาของผมสูงขึ้น เหลือเท้าเหยียบยืนเพียงข้างเดียว ก๊อกน้ำอุ่นสูงขึ้นไปถูกผมใช้เป็นที่พักเท้า แก้มก้นสีขาวตรงกลางคือร่องนุ่มสีชมพูสด ลอยเด่นขึ้นมาอยู่ในระดับดวงตาคม
“คุณเห็นมัน....ชัดหรือยังครับ” นิ้วเรียวเลื่อนลงไปแล้วลูบไล้ถ่างร่องนั้นให้กว้างออก
“มันน่า.....อึก” ลูกกระเดือกแหลมขยับขึ้นลงพร้อมเสียงกลืนน้ำลาย
“คุณจะกระแทกเอง...หรืออยากให้ผม เป็นคนขย่มให้”