บทที่ 5 เห็นภาพบาดตา
หลายวันต่อมา..
คนตื่นเช้าอยู่เป็นนิจกำลังเดินวนไปวนมาอย่างใช้ความคิด ดวงตาจับจ้องประตูห้องที่ถูกจอมทัพสั่งห้ามไม่ให้เคาะ ห้ามเข้าโดยพลการ จะหยิบอะไรในห้องไปใช้ต้องบอกก่อน ล่าสุดเธอถูกดุเรื่องหมวก เมื่อก่อนเขาไม่เคยหวงของ แต่ตอนนี้หวงทุกอย่าง กระทั่งเนื้อตัวก็หวง แตะนิดแตะหน่อยก็ทำหน้าดุใส่
“จะสิบโมงแล้วยังไม่ตื่นอีกเหรอ”
ถึงเป็นวันหยุดแต่จอมทัพก็ควรตื่นมากินข้าวเช้า นาเดียร์จึงลังเลว่าจะเคาะเรียกดีไหม
ยืนขบริมฝีปากอยู่สักพักก็ตัดสินใจเดินไปแนบหูกับประตู ได้ยินแว่ว ๆ เป็นเสียงอืออา คิ้วสวยขมวดเป็นปมสงสัยว่าคนข้างในกำลังทำอะไร ไม่กี่อึดใจต่อมาก็ได้ยินเสียงเรียก
“เดียร์ ซี้ด”
“!!” หญิงสาวแนบหูเข้าไปชิดยิ่งขึ้น หากได้ยินไม่ผิดเขาเรียกชื่อเธอใช่หรือเปล่า และไม่ต้องสงสัยนาน เสียงนั้นก็ดังอีกครั้ง
“เดียร์..อ่าส์”
ไม่รอให้เรียกซ้ำเจ้าของชื่อตัดสินใจบิดลูกบิดประตูแล้วเปิดเข้าไป ยังไม่ทันมองว่าเจ้าของห้องทำอะไรเธอก็เปล่งเสียงใสแจ๋วออกมา
“เรียกเราเหรอ? ว๊าย!!!” สิ่งที่เห็นทำให้นาเดียร์ร้องเสียงหลง วินาทีต่อมาก็อ้าปากตาค้างยืนขาแข็งอยู่กับที่
“เฮ้ย!! เข้ามาได้ไง!!”
“!!!” ผู้บุกรุกตาโตเท่าไข่ห่าน ปากของเธอสั่นจนพูดไม่ออก
ภาพท่อนลำขนาดเกือบเท่าแขนตั้งโด่ ขณะชายหนุ่มกำลังนอนสาวมือรูดขึ้นรูดลงพร้อมเชิดหน้าซู้ดปาก ไม่กี่อึดใจของเหลวสีขาวขุ่นก็พุ่งกระฉูดออกจากปลายหัวบานสีชมพู นาเดียร์เห็นเต็ม ๆ ตา ได้ยินเต็มสองหูว่าเพื่อนสุดหล่อกำลังเรียกชื่อตัวเอง
“ทำไมไม่เคาะ!..ชิท์!” จอมทัพดึงผ้าห่มมาปิดร่างกายส่วนล่างเพื่อกันความอุจาด เขาจิ๊ปากแล้วหยัดตัวลุกนั่งชันเข่า ยกมือเสยผมอย่างหงุดหงิดที่นาเดียร์เห็นอะไรที่ไม่ควรเห็น สบถด่าตัวเองในใจที่ไม่ยอมล็อกประตู
“ทะ..ทำอะไร” เธอถามตะกุกตะกัก ถามทั้ง ๆ ที่รู้อยู่เต็มอก อยากเดินหนีแต่ขาแข็งก้าวไม่ออก ร่างกายร้อนรุ่มรู้สึกปวดหน่วงตรงกลางเนินสาว จนต้องยืนหนีบขาเอาไว้
“เห็นอยู่ยังจะถาม” คนถูกถามหมดคำจะพูด ปฏิเสธไปก็ไม่มีประโยชน์
“เรา..” ขยับปากได้แค่นั้นแล้วก็หุบฉับลง นาเดียร์กลืนน้ำลายเหนียวลงคอ คิดอกุศลนำไปไกลจนกู่ไม่กลับ
“ทำไมไม่เคาะก่อน บอกไม่รู้ตั้งกี่รอบเธอก็ไม่จำ”
คนไม่มีอะไรจะเสียเอ่ยเสียงฉุน คิ้วเข้มขมวดยุ่งพอ ๆ กับหน้าตาที่ยับย่น เป็นอาการของคนเพิ่งตื่นนอนแล้วเงี่ยx เลยทำกิจกรรมแบบผู้ชายก่อนอาบน้ำ ไม่คิดว่านาเดียร์จะพรวดพราดเข้ามา จึงไม่ทันเช็กว่าล็อกประตูหรือยัง
“ได้ยินทัพเรียก เลยเปิดมาดู ไม่คิดว่า.. เอ่อ มัน..” สีหน้าของหญิงสาวกระอักกระอ่วน ถึงกระนั้นก็ยังจับจ้องคนที่นั่งหัวยุ่งอยู่บนเตียงไม่ยอมมองไปจุดอื่น
จอมทัพไม่ได้แค่หล่อ แต่หล่อโคตร ๆ ต่างหาก
ยิ่งตอนเปลือยท่อนบนยิ่งส่งให้น่ามองมากขึ้น มัดกล้ามพองามและผิวขาวผ่องตัดกับหัวนมสีชมพู ริมฝีปากก็แดงแจ๋น่าจูบ ทุกส่วนบนร่างกายกำยำล้วนกระตุ้นความรู้สึกบางอย่าง ที่เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าคืออะไรกันแน่
"แผล็บ" นาเดียร์แลบลิ้นเลียปากโดยไม่รู้ตัว ดวงตาที่เคยใสซื่อบัดนี้ลุกโชนด้วยความคิดทางเพศ ถึงมีผ้าห่มปกคลุมส่วนนั้นไว้ แต่ความใหญ่โตยังคงตั้งโด่ดันออกมา ไม่อยากคิด แต่ก็ห้ามความคิดไม่ได้จริง ๆ
“จะมองอีกนานไหม?” จากความอายกลายเป็นภูมิใจนิด ๆ ทำไมจอมทัพจะไม่รู้ว่าสมองน้อย ๆ ของเพื่อนจอมยุ่งกำลังคิดอะไร
“เดียร์”
เงียบ..
“นาเดียร์!”
“อ๊ะ! ยังไงนะ พูดว่าไงเราไม่ทันฟัง”
“เราจะอาบน้ำ” จอมทัพกัดปากกลั้นยิ้มเมื่อเห็นอาการเลิ่กลั่ก ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ไม่ยอมถอย ยังมองมาด้วยสายตาวาววับ คงไม่ใช่แค่เธอที่จินตนาการเลยเถิด ตัวเขาเองก็ไม่ต่าง
คิดลึก คิดอยากมานาน เพียงแต่หักห้ามความต้องการเท่านั้นเอง
“ก็ไปอาบสิ”
“เธอจะยืนดูเราแก้ผ้า?"
“เปล่า..กำลังจะออกไปนี่ไง” คนถูกจับได้หันรีหันขวาง ทว่าก็ยังยืนอยู่ที่เดิม คล้ายกลไกของร่างกายทำงานรวนไปหมด
“ไม่อยากออกไปเอง งั้นก็แล้วแต่นะ” จอมทัพควานมือหากางเกงใต้ผ้าห่ม คิดว่าถอดเหวี่ยงไว้บนเตียงนี่แหละ แต่จนแล้วจนรอดก็หาไม่เจอ หรือว่า..
ตายห่า! เมื่อคืนเขานอนแก้ผ้า!
“หาอะไร ให้เราช่วยไหม?”
“ช่วยออกไปก่อนเถอะ"
แม่เจ้าประคุณก็ยังปักหลักอยู่ที่เดิม ไอ้ที่มันควรอ่อนตัวหลังจากน้ำแตกกลับแข็งโด่ไม่ยอมลง ชักเริ่มปวดขึ้นมาอีก จอมทัพจึงถามคนตัวเล็กอีกครั้ง
“ตกลงจะออกไปปะ?”
“เราอยากไป แต่..”
“เป็นอะไรของเธอ!!” อารมณ์ของชายหนุ่มงุ่นง่านขั้นสุด เขาจึงเผลอเสียงดังใส่ และเป็นอย่างที่คิดเมื่อเธอก็แว้ดกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือจะร้องไห้
“เสียงดังทำไม เราตกใจนะ!”
“ก็เธอดื้อไม่ยอมไปสักที”
“เราก้าวขาไม่ออก”
“ตั้งใจเข้ามาดูอะดิ”
“ทัพทำให้เห็นเอง รู้ไหมว่าภาพมันบาดตามาก!!”
“บาดตา!”
ไอ้ทัพอยากจะเอาหัวชนกำแพงตาย แท่งสวรรค์ที่สาวครึ่งมหา’ ลัยแย่งกันอยากลอง กลับถูกนาเดียร์เรียกว่าภาพบาดตา!
กูจะบ้า!
“ใช่ไง..อะ ไอ้นั่นของทัพมันบาดตาเรา”
“เธอกำลังด้อยค่าสิ่งที่เราภูมิใจกับความใหญ่ของมันอยู่นะเดียร์ “
“ภูมิใจอะไรของทัพ ทุเรศ!”
“นาเดียร์!!”
บาดตาไม่พอ เธอยังบอกทุเรศอีก!
ไอ้ทัพก็เป็นประเภทไม่ยอมคนเสียด้วยสิ เขาจะเปิดผ้าห่มให้เห็นเต็มตาอีกรอบ อยากรู้ว่าเธอยังจะพูดเหมือนเดิมหรือเปล่า
“ได้เดียร์ได้ ทุเรศนักใช่ไหม!!”
พรึ่บ!
“กรี๊ด!!!!!” นาเดียร์แหกปากสุดเสียงกับเจ้าแท่งแข็งโด่ แถมมันยังสั่นงึก ๆ โชว์ศักยภาพให้เห็นแบบฟูเอชดี เธอช็อกแล้วช็อกอีก จากมีอาการขาตายก็เริ่มขยับได้จึงรีบหันหลังเตรียมออกจากห้อง แต่ก็ยังเอี้ยวหน้ามาตวาดใส่คนที่นั่งหัวเราะอยู่บนเตียงด้วยความโมโห
“ฮ่า ๆ”
“ผีทะเล!! เราจะโทรบอกลุงทองให้หาห้องพักใหม่วันนี้เลย!!”
“เฮ้ย! อย่าดิ!!”
“ทัพผีบ้า!!” ด่าเสร็จหญิงสาวก็วิ่งปิดหน้าหนีเข้าห้องตัวเอง โดยไม่ฟังเสียงทัดทานจากชายหนุ่มผู้ซึ่งเริ่มกระวนกระวายกับประโยคเมื่อครู่ของเธอ
“งานเข้า!” จอมทัพยกมือลูบหน้าพร้อมกับระบายลมหายใจหนัก
เป็นเรื่องแล้วไหมล่ะไอ้ทัพ!
ขืนปล่อยให้นาเดียร์โทรหาพ่อได้บรรลัยพอดี ร้อยเอาบาทเดียวเธอฟ้องทุกอย่างแน่นอน คิดได้ดังนั้นร่างสูงก็พุ่งตัวเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันด้วยความเร็วแสง เสร็จแล้วก็หยิบกางเกงมาใส่ลวก ๆ ก่อนวิ่งเปลือยอกไปยังห้องคนเจ้าปัญหา
ก๊อก ๆ
“เปิดประตูมาคุยกันหน่อย”
เงียบ..
“เดียร์!”
เงียบ..
ก๊อก ๆ
“จะเปิดดี ๆ หรือจะให้ใช้กำลัง”
เงียบ..
“นับหนึ่ง”
เงียบ..
“นับสอง”
เงียบ..
“นับสะ..”
แกร๊ก..
บานประตูเปิดออกพร้อมหน้างอ ๆ โผล่มา ริมฝีปากเล็กยังคว่ำอย่างแสนงอน เพียงเท่านั้นจอมทัพก็เงยหน้าพ่นลมอย่างโล่งอก นาเดียร์น่าจะยังไม่ต่อสายไปขอนแก่นอย่างที่เป็นกังวล
“เรามาขอโทษ”
“เชอะ” คนตัวเล็กกอดอกทำหน้างอหนักกว่าเดิม
“ไหนบอกจะไม่ทะเลาะกันอีก “
“ทัพลามกก่อน มีที่ไหนเปิดโชว์ไอ้.. ไอ้..”
ประโยคเต็มถูกกลืนหายลงคอเมื่อร่างกำยำเปลือยอกเท้าแขนกับกรอบประตู ก่อนที่เขาจะโน้มตัวลงมาจ้องตากับเธอในระยะลมหายใจสัมผัส ใกล้จนได้กลิ่นน้ำยาบ้วนปากกลิ่นมิ้นท์ ใกล้จนนาเดียร์ตาพร่ากับความหล่อหน้าใสของเพื่อน
จอมทัพฮอตตั้งแต่เรียนอนุบาล มีงานเต้นทีไรเขามักถูกเลือกให้เป็นตัวแทนห้องตลอด สาวรุมตอมตั้งแต่ฟันน้ำนมยังเต็มปาก ตอนเด็กนาเดียร์ไม่เข้าใจทำไมเด็กชายทัพถึงเนื้อหอมขนาดนั้น จนค่อย ๆ เติบโตและได้เห็นความสมบูรณ์แบบทุกช่วงอายุของเขา
และณ. ปัจจุบัน เธอเข้าใจแล้วอย่างถ่องแท้
“หืม..ไอ้อะไร? เธอพูดมา” รอยยิ้มล้อเลียนปรากฏตรงมุมปากของคนชอบโชว์ ยิ่งแก้มนวลแดงปลั่งเขาก็ยิ่งอยากหยอกให้เขินมากกว่าเดิม
นาเดียร์ยังคงคอนเซ็ปต์น่ารักและน่าแกล้งได้อย่างเหนี่ยวแน่น
“ไอ้หนูจิ๋วของทัพไง”
เพียงเท่านั้นรอยยิ้มของคนอยากแกล้งก็หุบลง ไม่ถึงสามสิบนาทีนาเดียร์บลูลีลูกชายของเขาถึงสามครั้งซ้อน
“หนูจิ๋ว! “
ยอมได้เหรอทัพ?
ชายหนุ่มตั้งคำถามกับตัวเอง พร้อมกับพยายามกดอารมณ์บางอย่างที่เริ่มจะปะทุ ทว่าสุดท้ายก็เอาไม่อยู่..
หมับ!
จอมทัพทำการคว้าเอวบางมากอด ดึงให้ร่างกายแนบชิด นาเดียร์ดิ้นขลุกขลัก ทุบท่อนแขนแกร่งมาหลายที แต่เขาไม่ระคายผิวสักนิด
“อยู่เฉย ๆ”
“ก็ปล่อยสิ” คนตัวเล็กหน้างอหนักกว่าเดิมเป็นสิบเท่า โกรธ กลัว และเขิน เธอรู้สึกทั้งหมดเลย
“ทีตัวเองยังกอดเราตั้งหลายรอบ พอกอดคืนบ้างจะงอแงใส่ทำไม”
“ทัพไม่ได้กอดแบบที่เรากอด”
“เรากอดแบบไหน? ช่วยอธิบายให้ฟังที”
“.........”
“ว่าไง?”
“ไม่บอกหรอก”
“ไม่แน่จริงนี่หว่า “
จอมทัพเบี่ยงร่างผอมบางไปพิงผนัง จากนั้นก็จับคางมนให้เชิดขึ้นพร้อมทำหน้ายียวน เมื่อเห็นคนในอ้อมกอดเสียอาการเขาก็หัวเราะ ตอนนี้ไม่ใช่แค่หน้างอ นาเดียร์ยังหน้าแดงลามไปถึงหู
“เชอะ” จังหวะที่เขาก้มต่ำจนปลายจมูกชนกันเธอก็ยังเชิดหน้าขึ้นไม่ได้เมินหลบไปไหน กลัวแต่ดื้อมีอยู่จริง
“ห้ามบอกพ่อเรื่องวันนี้เด็ดขาด” คนถือไพ่เหนือกว่าเริ่มบอกสิ่งที่ต้องการ
“มีสิทธิ์อะไรมาห้าม” แม้ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มเพราะความใกล้ชิดชนิดที่เรียกว่านมเบียด นาเดียร์ก็ยังถือดีไม่ยอมอ่อนข้อให้ง่าย ๆ
เรื่องอะไรจะยอม ฝันไปเถอะ
“สิทธิ์ความเป็นเพื่อนสนิท"
“ใครบอก?” กลายเป็นหญิงสาวทำลอยหน้าลอยตาคืนบ้าง
แต่มีหรือจอมทัพจะสยบ กวนมากวนกลับไม่โกง นาเดียร์ดื้อ เขาก็ดื้อได้เช่นกัน และจะดื้อให้ถึงที่สุดด้วย
“เธอไม่คิดว่าเราเป็นเพื่อนสนิทงั้นสิ?”
“..........”
นาเดียร์เม้มปากไม่ตอบ ดวงตาไหวระริกเมื่ออีกฝ่ายใช้ฝ่ามือดันแผ่นหลังบอบบางให้ร่างกายเข้ามาชิดมากยิ่งขึ้น ชิดจนนมของเธอบี้เบนไปกับลำตัวหนาใหญ่
ใช่ว่าไม่เคยกอด แต่คราวนี้เธอรู้สึกว่าจอมทัพกรุ้มกริ่มเกินควร
“ได้เลย..ต่อไปเราจะไม่นับเธอเป็นเพื่อนสนิทเหมือนกัน อยากฟ้องก็ฟ้อง แต่ขอทำมากกว่าโชว์หนูจิ๋วก็แล้วกัน”
“ทัพ!!”
“ดื้อเองอย่ามาร้อง”
“อื้อ!”
จอมทัพกดริมฝีปากลงมาใช้ลิ้นเลียกลีบปากจิ้มลิ้มที่เม้มสนิทอย่างอุกอาจ เขาเล็งไว้นานแล้ว นานตั้งแต่เริ่มโตเป็นหนุ่ม
“อื้อ!!” ดวงตากลมโตเบิกโพลงในตอนที่ชายหนุ่มเริ่มบดขยี้ ปลายลิ้นเปียกแฉะตวัดเลียแทะเล็มอยู่ภายนอก กระทั่งกรามเล็กถูกบีบเธอจึงเผลออ้าปาก
และแล้วช่วงเวลาวาบหวามที่ไม่เคยพบเจอก็ได้เริ่มขึ้น..