“กลับมากันแล้วเหรอจ๊ะ” เสียงแม่อุ๊ยดำกล่าวทักทายหลานสาวและว่าที่หลานเขยนิรนาม
“จ๊ะแม่อุ๊ย” ช่อเอื้องกล่าวพร้อมกับเดินไปนั่งลงข้างๆแม่อุ๊ยดำ และชายหนุ่มนิรนามก็รีบทำตามเธอทันที
“นี่จะมานั่งเบียดฉันทำไม ผิดผีจนได้เรื่องยังไม่เข็ดอีก” ช่อเอื้องหันไปดุชายหนุ่มด้วยความหมั่นไส้กับท่าทีที่ทำราวกับเด็กหลงทางของเขา
“แล้วเจ้าช่อจะไปดุเขาทำไมล่ะลูก ก็เขาความจำเสื่อมนี่นา เขาก็ต้องเกาะเจ้าช่อไว้ก่อนแหล่ะลูก” แม่อุ๊ยดำหันมาเอ็ดหลานสาวเล็กน้อย เพราะเธอสงสารชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างหลานสาว ที่ตอนนี้เกาะช่อเอื้องแจเลย
“ก็มันน่ามั้ยล่ะจ๊ะแม่อุ๊ย ถ้าพ่ออุ๊ยมาเห็นมีหวังหนูได้แต่งงานพรุ่งนี้แน่นอน” หญิงสาวบ่นอุบแต่ก็ไม่ยอมลุกหนีชายหนุ่มไป
“ช่างมันเถอะยังไงก็ต้องแต่งงานกัน จะแต่งช้าแต่งเร็วมันก็แต่งวันยังค่ำ หนูต้องทำใจนะเจ้าช่อ แล้วนี่ตั้งชื่อให้เขาหรือยัง” แม่อุ๊ยเอ่ยถามขึ้นมา เพราะเธอก็ไม่รู้จะเรียกว่าที่หลายเขยว่าอะไร
“ยังเลยจ๊ะ” ช่อเอื้องก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าชายหนุ่มก็ต้องมีชื่อเรียก ถึงแม้ว่าเขาจะยังจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร “แล้วคุณอยากชื่ออะไร” ช่อเอื้องหันไปถามความคิดเห็นของชายหนุ่ม
“แล้วแต่คุณจะตั้งให้เถอะ ผมไม่รู้จะอยากชื่ออะไรเหมือนกัน” ชายหนุ่มนิรนามกล่าวพร้อมกับหันไปยิ้มให้กับหญิงสาว
“เฮ้อ...ท่าทางแบบนี้คงเกาะเป็นปลิงแน่เลยจ๊ะแม่อุ๊ย เดี๋ยวหนูขอนึกแป๊บนึงนะว่าจะให้เขาชื่ออะไร” ช่อเอื้องนั่งนึกอยู่สักพักก่อนจะเอ่ยขึ้นมาแววตาใสแป๋ว “ชื่อสายน้ำแล้วกันนะ เพราะว่าวันแรกหนูก็เจอเขาที่นั่น”
“ก็ดีนะเจ้าช่อ” แม่อุ๊ยดำกล่าวอย่างเห็นด้วย “ว่าไงชอบชื่อนี้มั้ยพ่อหนุ่ม” แม่อุ๊ยดำหันไปถามชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มเอ็นดู
“ถ้าคุณช่อตั้งให้ผมก็ชอบครับ” ชายหนุ่มตอบอย่างเอาใจหญิงสาว ทำให้ช่อเอื้องเผลอหยิกเข้าให้ด้วยความหมั่นเขี้ยว
“เนี่ยแม่อุ๊ยดูสิคะ แววตาของเขาไม่ได้ใสซื่อแบบที่เราคิดนะ” ช่อเอื้องหันไปนินทาชายหนุ่มกับแม่อุ๊ยดำ
“เราเนี่ยก็จับผิดเขาไปเรื่อย จะแต่งงานกันแล้ว สามัคคีเข้าไว้สิ พ่อแม่ของเราที่อยู่บนสวรรค์มองลงมาจะได้มีความสุข” แม่อุ๊ยดำกล่าวพร้อมกับเอ่ยถึงบิดามารดาของช่อเอื้องที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทั้งคู่ จึงทำให้พ่ออุ๊ยคำปันและแม่อุ๊ยดำเป็นคนเลี้ยงดูช่อเอื้องมาตั้งแต่เด็ก