ตอนที่ 10 หรือว่าเขาจะพลาดท่า ?

2384 คำ
เช้าวันต่อมา... คฤหาสน์ RIZZO “มันเป็นอย่างนี้ไปได้ยังไงกัน...” ริชาเอ่ยออกไปด้วยความตกใจ คนเป็นแม่เอามือทาบอกก่อนที่เธอจะทรุดตัวลงนั่งที่โซฟาภายในห้องรับแขกหลังจากที่เธอรับสายจากฮันน่าเพื่อนรัก... “เป็นอะไรคะแม่ เกิดอะไรขึ้น” เมเบลถึงเพิ่งเดินเข้ามาภายในห้องรับแขก เธอเอ่ยถามคนเป็นแม่ด้วยความเป็นห่วงเพราะดูจากสีหน้าที่ค่อนข้างดูตกใจแล้วในจะอาการที่เอามือทาบอกนั่นอีก “เมื่อกี๊อาฮันน่าโทรมาบอกแม่ว่าหนูบีน่าคบกับไซรัส...” “หืม ? บีน่า พี่บีน่าของพี่เฟลิกซ์น่ะนะแม่” “ใช่ลูก ถึงว่าสิหลังจากงานวันนั้นเฟลิกซ์ก็แยกตัวออกไปเลย แม่ยังคิดอยู่ว่าจะเข้าไปคุยว่าเป็นยังไงบ้าง” “แล้วนี่พี่เฟลิกซ์เขารู้หรือยังคะว่าพี่บีน่ากับพี่ไซรัสคบกัน” “เห็นฮันน่าบอกว่ารู้แล้ว เมื่อคืนไซรัสเจอกับเฟลิกซ์พอดี เช้ามาไซรัสเลยเข้าไปคุยกับฮันน่าเรื่องที่เขาคบกับบีน่าแบบจริงจังจนอยากแต่งงาน” “แต่งงาน ?! O_O” “นะ นี่พี่เฟลิกซ์โดนหักอกรุนแรงเลยนะแม่ ช็อคไปแล้วแน่ ๆ ที่พี่บีน่าไปคบกับพี่ไซรัส” “ไม่ได้ละ เราต้องโทรหาพี่เฟลิกซ์เดี๋ยวนี้เลย ไม่รู้ป่านนี้พี่เขาเป็นไงบ้างยิ่งไม่ค่อยจะพูดจะจาอยู่ด้วย” เมเบลที่เป็นห่วงพี่ชายจนอยู่เฉยไม่ได้ เธอรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาพี่ชายคนโตแต่โทรเท่าไหร่พี่ชายก็ไม่รับสายจนเธอกับแม่เริ่มใจคอไม่ดี เช็คไปที่บริษัทฯ เลขาหน้าห้องก็แจ้งกลับมาว่าเฟลิกซ์ยังไม่เข้าไปที่บริษัทฯ เลย “โทรหาวายุเลยเมเบล โทรถามว่าเฟลิกซ์อยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ไหม” ริชาเอ่ยออกไปอย่างอดเป็นห่วงลูกชายคนโตไม่ได้ เมเบลก็ทำตามที่ผู้เป็นแม่บอกอย่างรวดเร็วเธอโทรเช็คกับวายุในทันที “ฮัลโฟลพี่วายุ พี่เฟลิกซ์อยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ไหมคะ” ‘อยู่ครับคุณเบล’ “แล้วตอนนี้พี่เขาทำอะไรอยู่อ่า เบลโทรไปตั้งหลายสายไม่รับเลย” ‘เอ่อ...คุณเฟลิกซ์น่าจะยังไม่ตื่นเลยครับ’ “ยังไม่ตื่น ? อย่าบอกนะคะว่าเมื่อคืนพี่เฟลิกซ์เมาอ่ะ” ‘ครับ...เมื่อคืนคุณคอปเปอร์เป็นคนพาคุณเฟลิกซ์มาส่ง’ “แล้วตอนนี้พี่วายุอยู่ที่ไหนคะ อยู่เพนท์เฮ้าส์ไหม” เมเบลเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงพี่ชาย เพราะรู้ดีว่าเฟลิกซ์นั้นรักบีน่ามานานตั้งหลายปี แล้วพอได้บอกรักออกไปทั้งทีก็โดนหักอกมาแบบนี้ ‘ผมมารับรถคุณเฟลิกซ์ที่จอดเอาไว้ที่คลับครับ แต่ตอนนี้กำลังกลับแล้ว’ “งั้นไปเจอกันที่เพนท์เฮ้าส์พี่เฟลิกซ์เลยนะคะ เดี๋ยวเบลกับแม่เข้าไป” “ได้ครับ...แต่ว่า...” ยังไม่ทันที่วายุจะได้พูดจนจบประโยคเมเบลก็กดวางสายไปด้วยความรีบร้อนจนบอดีการ์ดหนุ่มไม่ทันได้บอกว่าเฟลิกซ์ไม่ได้อยู่ในห้องนอนเพียงคนเดียวแต่มีเจ้าขานอนอยู่ด้วย... “ไปค่ะแม่ ไปดูพี่เฟลิกซ์กัน พี่วายุบอกว่าพี่เฟลิกซ์เมาหนักเลยเมื่อคืน” ประโยคหลังเธอเติมเองล้วน ๆ แต่มันก็ไม่น่าจะผิดไปจากที่เธอคิดเท่าไรนักหรอก... “ไปลูก...” ริชาเอ่ยพร้อมกับขยับตัวลุกขึ้นคว้ากระเป๋าถือตัวเองขึ้นมาพร้อมกับจับมือกับลูกสาวคนสวยเดินไปที่รถทันที หัวอกคนเป็นแม่พอได้ยินข่าวแบบนี้ก็ทำเอาเธอใจไม่ดีเลยสักนิด... ในขณะที่อีกด้านหนึ่งทั้งเฟลิกซ์และเจ้าขาต่างก็นอนหลับไหลอยู่ในห้วงของความฝันยังไม่มีใครรู้สึกตัวตื่น และหญิงสาวเองก็ยังคงนอนซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่มอยู่อย่างนั้นตลอดทั้งคืน จากตอนแรกที่คิดว่าขอนอนซบอกแกร่งแค่เพียงไม่นานกลายเป็นว่าเธอนอนหลับไปพร้อมกับเขาเสียอย่างนั้น... “อื้ออ...” เสียงหวานครางเบา ๆ ในลำคอก่อนที่เธอจะขยับใบหน้าไปมาเล็กน้อยพร้อมกับซุกตัวลงที่อกแกร่งมือเรียวโอบกอดเอวหนาเอาไว้ราวกับเธอคิดว่ามันคือหมอนข้าง...เฟลิกซ์ที่เริ่มรู้สึกตัวตื่น เขารับรู้ได้ถึงความนุ่มนิ่มบางอย่างในอ้อมแขนก่อนที่นัยน์ตาคมคายจะค่อย ๆ ปรือขึ้นอย่างช้า ๆ เขากระพริบตาขึ้นลงพร้อมกับใช้มือบีบไปที่ขมับของตัวเองอย่างรู้สึกตึง ๆ ที่หัว ก่อนที่เขาจะลืมตาขึ้นอีกครั้งเพื่อปรับโฟกัสดวงตาของตัวเองให้ชัด มือหนาเริ่มขยับลูบสัมผัสไปที่แผ่นหลังเนียนนุ่มของหญิงสาวในอ้อมแขนและเขาก็รับรู้ได้ในทันทีว่าหญิงสาวที่นอนซบอกเขาอยู่นั้นเธอกำลังเปลือยเปล่า เขาเพ่งมองหญิงสาวนอนอ้อมแขนด้วยความงงงัน พยายามมองให้ชัดแต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าเธอคือใครเพราะภายในห้องของเขานั้นมืดสนิท เพราะผ้าม่านที่เขาใช้เป็นผ้าม่านทึบแสงและแสงแดดจากข้างนอกไม่มีทางเล็ดลอดผ่านเข้ามาได้... ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์บางอย่าง พยายามคิดว่าเมื่อคืนตัวเองกลับมาถึงเพนท์เฮ้าส์ได้ยังไงแล้วทำไมภายในห้องเขาถึงมีผู้หญิงมานอนด้วยแบบนี้...มือหนาเลื่อนไปหยิบรีโมทที่เอาไว้ใช้สำหรับเปิดไฟและเปิดผ้าม่านภายในห้องนอน และทันทีที่ภายในห้องนั้นสว่างขึ้นมาภาพผู้หญิงในอ้อมกอดเขาก็เด่นชัดทันที “เจ้าขา!...” เสียงทุ้มเอ่ยออกไปด้วยความตกใจจนตัวเขาถึงกับผงะ...ร่างกายชายหนุ่มชาตั้งแต่หัวจรดเท้านัยน์ตาคู่คมจับจ้องไปที่ร่างบางในอ้อมแขนอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าเขากับเธอนอนกอดกันแบบนี้ แล้วสภาพเขากับเธอมันก็ช่าง... “อื้ออ...แสบตาค่ะพี่หวาน ปิดม่านที” ร่างบางงัวเงียพูดขึ้นอย่างลืมไปเสียสนิทว่าเธอไม่ได้นอนอยู่ที่บ้านของตัวเอง เฟลิกซ์นิ่งอึ้งหนักไปกว่าเดิมเมื่อเขาสำรวจไปที่ร่างบางที่มือแค่ไหล่มนเปลือยเปล่าโผล่พ้นขึ้นมาจากผ้าห่มผืนหนาภาวนาในใจว่าขอร้องอย่าให้เป็นอย่างที่เขากลัว เขาคงไม่พลาดมีอะไรกับเจ้าขาหรอกใช่ไหม ชายหนุ่มเฝ้าถามตัวเองอยู่อย่างนั้นพยายามคิดถึงเรื่องเมื่อคืน เรียงลำดับเหตุการณ์จนมีภาพคับคล้ายคับคลาว่าเหมือนเขาจูบกับผู้หญิงคนหนึ่ง.. “เจ้าขาตื่น!...” เมื่อคิดได้แบบนั้นชายหนุ่มก็ตะคอกร่างบางให้รู้สึกตัวตื่นทันที ร่างบางที่นอนหลับใหลอยู่ในตอนแรกสะดุ้งตัวตกใจพร้อมกับรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาทันที แต่ถึงอย่างนั้นความงัวเงียก็ไม่ได้หายไปจากเธอซะทีเดียว “ฉันบอกให้ตื่นไง!!” เป็นอีกครั้งที่เฟลิกซ์ขึ้นเสียงใส่คนตัวเล็ก จนขาที่ยังคงงุนงงเมาขี้ตาอยู่ค่อย ๆ ปรือตาขึ้นอย่างช้า ๆ ก่อนที่เธอจะพยายามกระพริบตาไปมาเพื่อปรับดวงตาให้เข้ากับแสง...แต่ทว่าเรียวแขนของเธอกับถูกกระชากให้เธอลุกขึ้นนั่งอย่างแรง “อ๊ะ! เจ็บ...” “เธอมาอยู่ในห้องนอนฉันได้ไง!!” เฟลิกซ์ไม่ได้สนใจว่าหญิงสาวจะเจ็บปวดอะไรขนาดนั้นกับแรงบีบของมือเขา ที่เขาสนคือเขาและเธอมาอยู่ในห้องนี้ด้วยกันได้ยังไง เจ้าขาที่โดนกระชากแขนจนเจ็บความงัวเงียเมาขี้ตาก่อนหน้านี้ก็กระเด็นหายไปหมดแล้วเช่นกัน “โอ๊ยยย! เจ้าขาเจ็บ!” ใบหน้าสวยเหยเกไปด้วยความเจ็บระบบที่ต้นแขน เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บพร้อมกับเลื่อนมือไปจับมือของชายหนุ่มทที่บีบต้นเขนของเธอเอาไว้ เฟลิกซ์ม่านตาขยายกว้างขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเขาได้เห็นเต้าอวบประดับด้วยยอดถันสีชมพูที่เปลือยเปล่าอยู่ตรงหน้าเขาในเวลานี้…เจ้าขาที่หายจากอาการงัวเงียเพราะทั้งถูกฉุดกระชากที่แขน แล้วไหนจะต้องรีบคว้าผ้าขึ้นมาคลุมร่างกายของตัวเองอีก “นี่ตื่นมาก็เป็นบ้าเลยเหรอไงห๊ะ! ปล่อยแขนเจ้าขาเลยนะ!” ร่างบางร้องบอกด้วยความเจ็บจนน้ำตาแทบไหล แต่ทว่าชายหนุ่มก็ไม่ได้ปราณีอะไรเธอเลยเขากับกระชากแขนเธอเอาไว้แน่นกว่าเดิม “ฉันถามว่าเธอมาอยู่ที่นี่กับฉันได้ยังไง ?!” “เมื่อคืนเราได้มีอะไรกันหรือเปล่า!!” ชายหนุ่มตะคอกถามร่างบางเสียงแข็ง เจ้าขาที่ได้ยินแบบนั้นก็สวนกลับทันควันในทันที เจ็บก็เจ็บแต่ปากก็ต้องแจ๋วด้วยเหมือนกัน “ทำไมคะ !? จำไม่ได้เลยเหรอว่าเมื่อคืนเราทำอะไรกันบ้างอ่ะ” “เจ้าขา!!” “พี่ไม่น่าลืมเลยนะคะ เพราะพี่เป็นคนเริ่มเองแท้ ๆ ควรจะจำได้สักนิดนะ” ร่างบางพูดออกไปด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาท เธอแสยะยิ้มที่มุมปากพร้อมกับมองหน้าชายหนุ่ม...เฟลิกซ์นิ่งอึ้งไปในทันทีเมื่อหญิงสาวพูดออกมาแบบนั้นมันยิ่งตอกย้ำภาพเลือนลางในหัวว่าผู้หญิงที่เขาจูบและนัวเนียด้วยเมื่อคืนมันคือเจ้าขาจริง ๆ “แล้วก็อย่ามามองเหมือนเจ้าขาเป็นคนเริ่มนะคะ พี่ต่างหากที่เริ่มก่อน พี่ทำทุกอย่างเองเจ้าขาพยายามห้ามแล้ว ขอให้หยุดแล้วแต่พี่ก็ไม่หยุด” “เพราะนั้นจะมาโทษเจ้าขาก็คงไม่ได้!” ร่างบางยังคงแกล้งพูดออกไปด้วยความหมั่นไส้ชายหนุ่มที่พอตื่นขึ้นมาความเมาหายไปก็มาวีนใส่เธอทำหน้าอย่างกับโกรธเกลียดเธอมาแต่ชาติปางก่อน “มันคือแผนของเธอใช่ไหม เธอตั้งใจให้เรื่องทุกอย่างมันเป็นอย่างนี้สินะ!!” “ตื่นก่อนค่ะ ถ้าเมาอยู่ก็ไปล้างหน้าล้างตาล้างความคิดแบบนั้นออกไปจากหัวหน่อยนะ” “คิดได้ยังไงว่าเจ้าขาวางแผนจับพี่แล้วมามีอะไรกับพี่ตอนที่พี่เมา บ้าชะมัด!!” ร่างบางพูดออกไปอย่างรู้สึกหงุดหงิดที่ผู้ชายตรงหน้าทำเหมือนว่าถ้าเธอมีอะไรกับเขาจริง ๆ มันจะทำให้เขาตายหรือไม่ก็เป็นบ้าอย่างนั้นแหละ “งั้นก็ตอบมาว่าเธอกับฉันเราได้มีอะไรกันไหม!! มีไหม!!” “งั้นก็ดูรอยที่หน้าอกของเจ้าขาแทนคำตอบก็ได้นะคะ พี่ทำรอยเอาไว้ซะเยอะเลย ทั้งหน้าอกแล้วก็คอ!” ร่างบางสวนกลับไปเล่นเอาชายหนุ่มอึ้งในทันที แถมเธอไม่พูดเปล่าแถมยังลดผ้าลงมาเล็กน้อยให้เห็นเนินอกพร้อมกับรวบผมไปไว้ด้านหลังเพื่อเปิดร่องรอยที่ลำคอระหงที่มีรอยขบเม้มของเขาอยู่จริง ๆ “นี่เธอ...” “แล้วก็คิดเอาไว้ซะใหม่นะว่าเจ้าขาเป็นคนเริ่ม พี่ต่างหากที่เริ่ม เริ่มเองแล้วก็ไม่ยอมหยุดด้วย!” ได้ทีหญิงสาวก็ยังปั่นประสาทชายหนุ่มไม่หยุด เธอยังคงรู้สึกสนุกยิ่งเห็นสีหน้าของเขาตอนเข้าใจว่าเธอมีอะไรกับเขาแล้วจริง ๆ เธอก็ยิ่งรู้สึกขำในใจ เพราะเขาดูอึ้งไปเลย... “โกหก!! ถ้าฉันมีอะไรกับเธอจริง ๆ มันควรจะมีร่องรอยอะไรมากกว่านี้ ไม่ใช่แค่รอยบ้าบอพวกนี้” “แล้วอีกอย่างนะ เสื้อผ้าเธอยังอยู่ครบ!!” เฟลิกซ์พยายามจับพิรุธหญิงสาวตรงหน้าว่าเธอกำลังโกหกอะไรเขาอยู่บ้าง เจ้าขายิ้มเยาะออกมาก่อนจะพูดออกไปด้วยน้ำเสียงยียวน “ก็พี่ทำแบบที่พี่ไมได้ถอดเสื้อผ้าเจ้าขาเลยสักนิดนิคะ มีแค่รูดเกาะอกลง” “ส่วนข้างล่างพี่ไม่ได้ถอดก็จริง แต่พี่ก็ไม่ได้ใส่ถุงยางนะ” ร่างบางพูดหน้านิ่งราวกับว่าเธอนั้นพูดเรื่องจริงออกไป เฟลิกซ์แทบบ้าเมื่อเขาได้ยินแบบนั้น เริ่มสับสนและคิดตามหญิงสาวไปว่าหรือว่าเขากับเธอจะมีอะไรกันจริง ๆ เจ้าขาแทบหลุดขำออกมาที่ได้เห็นสีหน้าอึ้ง ๆ ของชายหนุ่มผู้ที่ใคร ๆ ก็บอกว่าเงียบขรึมมาตอนนี้เขากับดูตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน... “หรือถ้าพี่ไม่เชื่อ เราไปโรงพยาบาลกันก็ได้นะคะ ไปให้หมอตรวจภายในเจ้าขาก็ได้ว่าเจ้าขาถูกพี่ทำไม่ดีไม่ร้ายจริงไหม” ร่างบางพูดออกไปพร้อมกับทำตาแป๋วใส่ชายหนุ่ม เธอยิ่งสนุกที่ได้เห็นชายหนุ่มมีอาการแบบนี้ และเฟลิกซ์เองก็ยิ่งตัวชาหนักกว่าเก่าเมื่อได้ยินหญิงสาวพูดออกมาแบบนั้น “ไปโรงพยาบาลกันดีกว่าค่ะ ไปให้ผลตรวจมันยืนยันคำตอบของเรา แล้วพี่จะได้รับผิดชอบเจ้าขาแบบไม่มีข้อสงสัย” “รับผิดชอบ ? ให้ฉันรับผิดชอบอะไร” “ก็เรามีอะไรกันแล้วนิคะ พี่มีอะไรกับเจ้าขาแล้ว พี่ก็ต้องรับผิดชอบไง...” ร่างบางยังคงพูดหน้าตาย เธอยังไม่เลิกแกล้งชายหนุ่มคิดแค่ว่าขอแกล้งต่อไปอีกนิดแล้วเดี๋ยวพอใจก็จะหยุดเอง... “ถ้าการที่เธอมีอะไรกับฉันแค่ครั้งเดียวแล้วฉันต้องรับผิดชอบเธอ...ผู้ชายหลายคนก่อนหน้านี้ก็คงต้องแห่กันมารับผิดชอบความใจง่ายของเธอแล้วมั้ง!!” แรงงงงง แรงมากกก ปากอีพี่คือน่าโดนฟาดเอามาก ๆ ❤️🔥😤 แต่ตอนหน้าเดือดกว่านี้อีกค่ะทุกคนนน เจอกันตอนต่อไปนะค้าบบบบ ขอกำลังใจด้วยเหมือนเดิมน้าาาา ขอบคุณค้าบบบ 🥰💖🙏
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม