พลอยขวัญและเนตรดาวควงแขนกันเข้ามายังสถานบันเทิงสุดหรูใจกลางเมืองที่นัดกันมาเที่ยวในคืนนี้ ซึ่งเป็นความคิดของเนตรดาวที่อยากพาเพื่อนมาเปิดหูเปิดตาตามประสาสาวโสด
“คนเยอะจัง”
“วันศุกร์ก็แบบนี้แหละ นี่ถ้าไม่ได้บัตรส่วนลดจากน้องมาร์คสุดหล่อมา ฉันคงไม่กล้าชวนเธอมาที่นี่หรอกพลอย ที่นี่มันที่สำหรับพวกคนรวยกระเป๋าหนัก”
“แหม น้องมาร์คของแกเนี่ยใจดีจังเลยนะ”
“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าน้องเขาจุติลงมาจากสวรรค์ หล่อ รวย สายเปย์ ตอนที่คุณย่าของน้องเขาอยู่ที่โรงพยาบาล ทุกครั้งที่มาเยี่ยม น้องเขาก็ซื้อของมาฝากทั้งแผนกแบบอิ่มกันถ้วนหน้าเลยล่ะ”
“นี่ฉันคงต้องขอบคุณน้องมาร์คของแกด้วยใช่ไหม”
“แน่นอนสิยะ ฉันล่ะอยากให้แกได้เห็นน้องเขาตัวเป็นๆ สักที แล้วแกจะตกเป็นทาสความหล่อแบบฉัน”
“ขนาดนั้นเลย หล่อแค่ไหนตอนนี้ฉันก็ขอบาย ขออยู่โสดๆ สบายใจแบบนี้ไปก่อนดีกว่า”
“ของแบบนี้มันไม่แน่ไม่หรอก ปุ๊บปั๊บเจอคนถูกใจ ปุ๊บปั๊บแต่งใครจะไปรู้” พลอยขวัญคร้านที่จะเถียงจึงเงียบแล้วเดินตามเพื่อนไปยังโต๊ะที่อีกฝ่ายจัดแจงโทรมาจองไว้เรียบร้อย สองสาวได้โต๊ะริมด้านข้างเวทีหลังจากนั่งลงเรียบร้อยจึงสั่งเครื่องดื่มอ่อนๆ มาคนละแก้ว สองสาวนั่งจิบเครื่องดื่มพลางโยกกายไปตามจังหวะดนตรีช้าๆ ที่นักร้องบนเวทีกำลังร้องด้วยน้ำเสียงอันไพเราะ เมื่อเพลงจบลงบรรดานักเที่ยวต่างปรบมือให้กำลังใจ ก่อนจะเกิดเสียงฮือฮาขึ้นทำให้สองสาวที่กำลังคุยกันต้องหันไปมองบนเวที แล้วก็เป็นเนตรดาวที่อุทานออกมาอย่างตื่นเต้น
“Oh My God!”
“มีอะไรเหรอเนตร” พลอยขวัญถามด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นเพื่อนมองไปบนเวทีตาไม่กะพริบ และเมื่อมองตามไปเธอถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ เพราะภาพบนเวทีนั้นคือชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูดีมาก หรือจะพูดให้ถูกก็คือหล่อจนเธอลมหายใจสะดุดเผลอจ้องมองอยู่นานเลยทีเดียว ชายหนุ่มคนนั้นอยู่ในชุดกางเกงยีนสีดำและเสื้อยืดสีเดียวกัน สวมหมวกแก็ปสีขาวและแน่นอนว่าเพียงแค่เขาก้าวขึ้นเวที ก็ได้รับเสียงกรี๊ดสนั่นจากลูกค้าสาวๆ ในร้าน
“ไง ตาค้างเลยสิ” เมื่อถูกเพื่อนสะกิดพลอยขวัญจึงรู้ตัวว่าเธอจ้องนักร้องหนุ่มบนเวทีอยู่นานแล้ว
“ก็…ก็…เอ่อ”
“ถึงกับติดอ่างเลยเหรอเพื่อน ฉันบอกแกแล้วไง ว่าถ้าแกเจอน้องมาร์คของฉัน แกจะต้องตะลึงในความหล่อ เป็นอย่างที่ฉันบอกไหมล่ะ”
“อะไรนะ อย่าบอกนะ ว่าบนเวทีนั่น…”
“ใช่ นั่นน่ะ คุณเมฆา สุริยาพิทักษ์ หรือน้องมาร์คสามีมโนของฉันเอง หล่ออย่างที่บอกไหมล่ะ”
“เออ ฉันยอมรับว่าหล่ออย่างที่แกโฆษณาไว้จริงๆ”
“ว่าแต่เขาเป็นนักร้องที่นี่ด้วยเหรอ”
“เปล่า ไม่เคยได้ยินว่าเป็นนักร้องนะ แต่นี่เป็นผับของรุ่นพี่คุณมาร์ค เขาคงขึ้นไปร้องเล่นๆ นั่นแหละ งานหลักของน้องมาร์คสุดหล่อของฉันคือขายซุปเปอร์คาร์และอู่ซ่อมรถแต่งรถซิ่งจ้ะ ก็อู่ที่เพิ่งมีข่าวว่าถูกลูกนักการเมืองจ้างวางเพลิงนั่นไง พูดแล้วแค้นไอ้เลวนั่น คิดว่าพ่อตัวเองใหญ่คับฟ้าหรือยังไง หารู้ไม่เหนือฟ้ายังมีฟ้า พ่อน้องมาร์คของฉันรวยกว่าเป็นร้อยเท่า มีทั้งอำนาจและบารมีเหนือกว่าเยอะ อย่าคิดมาเทียบรัศมี ฉันได้ข่าวว่าสองคนนี้ไม่ถูกกันมาตั้งแต่สมัยวัยรุ่น เดาว่าไอ้หมอนั่นต้องอิจฉาน้องมาร์คของฉันแน่ๆ ทีมีดีกว่าขนาดนี้”
“แกนี่ถ้าไม่ได้เป็นพยาบาลน่าจะไปเป็นนักข่าวนะ รู้ลึกรู้จริงพูดได้เป็นฉากๆ”
“อ้าว ฉันรักของฉัน ฉันก็ต้องไปสืบเสาะหาประวัติสิจ๊ะ นอกจากติ่งเกาหลี ฉันก็ติ่งน้องมาร์คนี่แหละ จะว่าไปน้องมาร์คเนี่ยหล่อกว่าไอดอลเกาหลีบางคนอีกนะ แถมตัวก็หอมมากกกก ตอนมาเยี่ยมคุณหญิงฤดีลักษ์ขนาดออกจากห้องไปแล้วกลิ่นหอมยังอยู่เลย”
“แกเลิกเรียกเขาว่าน้องมาร์คได้ไหม ฉันได้ยินทีไรเห็นภาพเขาเป็นเด็กตัวเล็กๆ ทุกที”
“โอเค คุณมาร์คก็ได้ เพราะต่อหน้าฉันก็เรียกเขาว่าคุณมาร์คนั่นแหละ ไม่กล้าตีเสมอไปเรียกน้องมาร์คหรอก แต่ลับหลังเนี่ยเรียกเพราะเอ็นดู”
“เอ็นดูหรืออยากดูเอ็น” พลอยขวัญแกล้งแหย่เพื่อน
“ว้าย ร้ายนะยะหล่อน พูดจาแบบนี้ก็เป็นด้วย แต่ถ้าน้องเขาเอ๊ย ถ้าคุณมาร์คเขาเต็มใจให้ดูก็ไม่ติดนะ” เนตรดาวพูดหน้าตาเฉย
“บ้า” เป็นพลอยขวัญเองที่ต้องรีบตัดบท เป็นจังหวะที่เสียงดนตรีดังขึ้นพอดี และเพียงแค่นักร้องกิตติมศักดิ์บนเวทีเริ่มเปล่งเสียงร้องสาวๆ ทั้งร้านรวมถึงเธอด้วยก็ราวกับตกอยู่ในภวังก์
Lost in stars
Reaching for who we are
Lost in mars
Never going down for what
Want you follow me, my dear
I've got plans for you up here
So there's one last chance
Let's get on a rocket ship
And ride to the moon
There will be my heart
Waiting for you my baby (My baby)
And this time around, yeah
I will be waiting
Be waiting for only you
My dear
Lost for words
Baby, baby lost in love
Lost for cause
But now I found you
Want you follow me my dear
I've got plans for you up there, oh yeah
So this one last chance
Let's get on a rocket ship
And ride to the moon
There will be my heart
Waiting for you my baby (My baby)
And this time around, yeah
I will be waiting
Be waiting for only you
My dear
Let's get on a rocket ship
And ride to the moon
There will be my heart…
Cr: เพลง A Rocket to the Moon by กวิน ดูวาล
หลังนักร้องกิตติมศักดิ์ร้องจบเสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือก็ดังก้องไปทั่วทั้งร้าน ไม่ต้องบอกเลยว่าบรรดาสาวๆ ในที่นี้ปลื้มเขาขนาดไหน แต่เธอก็ยอมรับว่าเขาหล่อ เท่ และเสียงเพราะมากจริงๆ คนอะไรจะเพอร์เฟกต์ได้ขนาดนี้ เธอไม่แปลกใจเลยสักนิดที่เนตรดาวจะคลั่งไคล้เขา
“โอย…เนตรหัวใจจะวาย คนอะไรจะทั้งหล่อทั้งเท่ได้ขนาดนี้นะ อยากเห็นหน้าชะนีที่จะโชคดีได้ผู้ชายงานดีเกรด พรีเมี่ยมแบบนี้ไปครองจัง”
“ก็คงต้องสวยรวย อยู่ในระดับเดียวกับเขานั่นแหละ” พลอยขวัญออกความเห็นแล้วหยิบเครื่องดื่มขึ้นจิบ
“นั่นน่ะสิ เฮ้อ…เสียดายชาตินี้เกิดมาไม่รวย แม้ความสวยจะพอถูไถ ไม่เป็นไร พี่เนตรขอเป็นติ่งตามกรี๊ดน้องมาร์คสุดหล่ออยู่เงียบๆ แบบนี้ก็ได้”
“นี่เงียบแล้วเหรอ” พลอยขวัญอดที่จะแหย่เพื่อนไม่ได้
“ก็แน่สิจ๊ะ เพราะต่อหน้าน้องเขา ฉันก็ต้องเก๊กขรึมเป็นผู้ใหญ่น่าเชื่อถือ ใครจะรู้ว่าตอนอยู่ใกล้ใจฉันเต้นแรงขนาดไหน”
“เออ อย่าเผลอหลุดให้คุณย่าเขาจับได้ก็แล้วกัน ไม่แน่เขาอาจเป็นแบบในละครที่พอรู้ว่าแกคิดไม่ซื่อกับหลานเขาก็อาจจะเขี่ยแกออกไปไกลๆ แล้วตำแหน่งพยาบาลพิเศษของคนไข้ระดับวีวีไอพีของแกก็จะปลิวตามไปด้วย”
“ไม่พลาดหรอกย่ะ ถึงจะบ้าผู้ชายแค่ไหนแต่เงินและปากท้องต้องมาก่อน งานดูแลแขกวีไอพีเงินดีขนาดนี้ เนตรดาวไม่มีทางทำหลุดมือไปง่ายๆ หรอก”
“ให้จริงเถอะ”
“แต่เอ…”
“อะไรของแกยะยัยเนตร” พลอยขวัญมองเพื่อนอย่างไม่ไว้ใจ เมื่อเนตรดาวกวาดสายตาขึ้นลงมองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“จะว่าไปแกก็มีดีกรีไม่ธรรมดานะ การศึกษาก็ดี ฐานะก็ดี หน้าตาสวยแถมหุ่นก็เซ็กซี่อีกต่างหาก แบบนี้ก็มีสิทธ์ที่จะเข้าตาน้องมาร์คได้เหมือนกันนะ เอามะ แกแกล้งไปหาฉันที่โรงพยาบาลเวลาที่น้องมาร์คเขามาเยี่ยมคุณย่าที่โรงพยาบาลครั้งหน้า เผื่อเห็นหน้าแกแล้วน้องมาร์คจะปิ๊งปั๊งถูกใจ โอ้โห บุญหล่นทับเลยนะแก ได้เป็นสะใภ้หมื่นล้านเนี่ย”
“ตื่นจ้ะเพื่อน สงสัยดูละครหรืออ่านนิยายมากไปแล้วแกเนี่ย สวยกว่าฉันรวยกว่าฉันมีเยอะแยะจ้ะ อีกอย่างแกบอกเองไม่ใช่เหรอว่าเขาเป็นรุ่นน้อง ฉันไม่ได้ชอบผู้ชายอายุน้อยกว่าสักหน่อย”
“แหม อายุเป็นเพียงตัวเลขจ้ะเพื่อน อีกอย่างถ้าเป็นน้องมาร์ค จะห่างกี่ปีก็อย่าได้แคร์ค่ะ”
“ไร้สาระ แกรออยู่นี่นะ เฝ้าเครื่องดื่มไว้ ฉันจะไปห้องน้ำ” พลอยขวัญสั่งเพื่อนเพราะการมาเที่ยวในสถานบันเทิงไม่ควรจะทิ้งแก้วเครื่องดื่มเอาไว้แล้วกลับมาดื่มซ้ำ เพราะเท่ากับเปิดโอกาสให้ผู้ไม่หวังดีแอบใส่อะไรบางอย่างลงไปในแก้วได้
“แกจะไปคนเดียวเหรอ ให้ฉันไปเป็นเพื่อนไหม” เนตรดาวถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร ฉันไปคนเดียวได้ แกอยู่เฝ้าเครื่องดื่มดีกว่าเสียดาย ถ้าไปสองคนกลับมาคงต้องสั่งใหม่”
“โอเค”