ตอนที่ 3

1769 คำ
เมฆา จิราวัฒน์ และวรภพสำรวจความเสียหายบริเวณอู่ซ่อมและแต่งรถยนต์ MJV ที่ลูกน้องโทรไปแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ เมื่อสำรวจจนถี่ถ้วนพวกเขาทั้งสามจึงลงความเห็นว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการวางเพลิง “มึงคิดว่าฝีมือใครวะ” จิราวัฒน์ถามอย่างไม่สบอารมณ์ แม้ตัวอู่จะไม่ได้รับความเสียหายอะไรนักเพราะคนร้ายวางเพลิงบริเวณโกดังเก็บของด้านหลังที่ติดกับป่าหญ้ารกร้าง เดาเอาว่าเจตนาของมันคงต้องการก่อกวนมากกว่าจะต้องการเผาทำลายจริงๆ แต่บรรดาไทยมุงและนักข่าวที่มากันอย่างรวดเร็วนั้น ทำให้ข่าวแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วว่า MJV ถูกไฟไหม้ ทำให้ลูกค้าที่ทราบข่าวต่างตกใจและเป็นห่วงรถยนต์ของตัวเองที่นำมาส่งซ่อมและปรับแต่งจึงกระหน่ำโทรเข้ามาจนพนักงานต้องรับสายมือเป็นระวิง “ยังไม่รู้เหมือนกัน” เมฆาตอบเพื่อน “พวกเราทำธุรกิจด้วยความสุจริตไม่เคยไปขัดแข้งขัดขาใคร แล้วใครกันวะที่มันมาทำแบบนี้” วรภพเองก็พูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์เช่นกัน “ศัตรูทางธุรกิจเราอาจไม่มี แต่ศัตรูเรื่องส่วนตัวก็ไม่แน่” เมฆาตอบเพื่อนอย่างเริ่มนึกออกว่าใครที่พอจะเข้าเค้าในการกระทำการอุกอาจกระตุกหนวดเสือครั้งนี้ “มึงหมายความว่าไงวะไอ้มาร์ค พูดแบบนี้มึงรู้แล้วเหรอว่าใคร” “ก็สงสัยอยู่คนหนึ่ง” “ใครวะ” “ศัตรูของกูก็มีอยู่คนเดียว” “ไอ้กาย/ไอ้กาย” จิราวัฒน์และวรภพเอ่ยชื่อออกมาพร้อมกัน กายหรือกรวิทย์ที่เมฆาพูดถึงนั้นเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานาน เพราะนิสัยขี้อิจฉาและชอบเบ่งตามประสาลูกนักการเมืองที่ถูกเลี้ยงแบบตามใจ และมีอำนาจของพ่อคอยเคลียร์เรื่องเน่าๆ ให้ทำให้อีกฝ่ายได้ใจ และสาเหตุที่อีกฝ่ายตั้งตนเป็นศัตรูกับเพื่อนของเขาก็ไม่พ้นเรื่องผู้หญิง เพราะครั้งหนึ่งผู้หญิงที่มันชอบมาชอบเพื่อนของเขา ทำให้มันรู้สึกเสียหน้าและคอยหาเรื่องทุกครั้งที่มีโอกาส สมัยที่ยังเป็นวัยรุ่นเลือดร้อนตอนกลับมาจากเมืองนอกใหม่ๆ กลุ่มเขาและกรวิทย์มักมีเรื่องกันบ่อยๆ จนตกเป็นข่าวฉาวอยู่หลายครั้งระหว่างลูกนักการเมืองคนดัง กับลูกชายคนเล็กของตระกูลมหาเศรษฐีของประเทศ แต่พอเวลาผ่านไปบวกกับอายุที่มากขึ้นเมฆาก็เริ่มนิ่งขึ้นและหันมาทุ่มเทให้กับการทำงาน กอปรกับอีกฝ่ายถูกส่งไปดัดนิสัยที่เมืองนอก ทำให้ข่าวการบาดหมางระหว่าง กรวิทย์กับเพื่อนเขาจางหายไป เขาคิดว่าเรื่องทุกอย่างคงจะจบไปด้วยต่างคนต่างแยกย้ายไปบนหนทางของตัวเอง แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้นเมื่อไอ้หมอนั่นกลับมาจากเมืองนอกและถูกตาต้องใจนางแบบสาวคนหนึ่ง แต่ตอนนั้นเมฆากำลังควงอยู่กับเจ้าหล่อนพอดี หมอนั่นจงใจที่จะแย่งแต่ไม่สำเร็จ เพราะฝ่ายหญิงไม่ชอบนิสัยอันธพาล แถมเมื่อแยกย้ายกับเพื่อนเขา เจ้าหล่อนก็เดินทางไปอยู่ต่างประเทศ ทำให้กรวิทย์เสียหน้าเป็นอย่างมากจึงพาลมาลงที่เพื่อนเขา จนกระทั่งเหตุการณ์ล่าสุดที่พัทยาหมอนั่นท้าประลองความเร็วกับเพื่อนเขา พอแพ้ก็แสดงอาการไม่พอใจตามประสาคนขี้แพ้ชวนตี และนั่นอาจเป็นชนวนเหตุที่มันส่งคนมาก่อกวนในครั้งนี้ “มึงจะบอกตำรวจหรือจะจัดการเอง” วรภพถามเพื่อน “ทั้งสองอย่าง งานนี้กูจะใช้วิธีของกู ที่ผ่านมากูพยายามเลี่ยงเพราะไม่อยากทะเลาะกับพวกปัญญาก่อน แต่ครั้งนี้มันล้ำเส้นเกินไปต้องสั่งสอนกันบ้าง” เมฆาพูดด้วยน้ำเสียงดุดันใบหน้าหล่อเหลาเป็นมิตรน่าหลงใหลแปรเปลี่ยนเป็นนิ่งขรึมอย่างน่ากลัว “เออ เอาไงเอากัน มันหยามกันขนาดนี้ก็ปล่อยไว้ไม่ได้เหมือนกัน” จิราวัฒน์สนับสนุนเพราะมั่นใจว่าเพื่อนต้องจัดการเรื่องนี้ได้แน่นอน ภายนอกเพื่อนของเขาคนนี้ดูหล่อสำอางและเป็นมิตร แต่ใครเลยจะรู้ว่ายามที่เจ้าตัวโกรธขึ้นมานั้นน่ากลัวขนาดไหน “ไอ้หมอนั่นมันคงคิดว่าพ่อมันใหญ่เสียเต็มประดา หารู้ไม่ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า งานนี้คงต้องสั่งสอนพวกอันธพาลลูกแหง่สักหน่อย” เมฆาไม่ตอบเพื่อนแต่มองไปยังซากของลังพัสดุที่ถูกไฟไหม้ด้วยแววตาที่ลุกโชนไปด้วยโทสะ คนอย่างเมฆา สุริยาพิทักษ์ ไม่เคยยอมให้ใครมาหยามหน้ากันได้ง่ายๆ ที่ผ่านมาเขาพยายามหลีกเลี่ยง เพราะคิดว่าคนอย่างกรวิทย์ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อเลยสักนิด แค่ลูกคนรวยเอาแต่ใจที่ไม่เป็นโล้เป็นพาย จริงอยู่ตอนวัยรุ่นเลือดร้อนเขาพร้อมปะทะปะฉะดะกับมันแบบไม่ไว้หน้า แต่พอโตขึ้นเขาก็เรียนรู้ว่าราชสีห์ไม่ควรกัดกับหมา เขาจึงเฉยเสียทุกครั้งเมื่อถูกฝ่ายนั้นก่อกวน แต่ครั้งนี้มันจะได้รู้ว่ามันกำลังเล่นอยู่กับใคร โดยธรรมชาติแล้วนักการเมืองกับนักธุรกิจ มักจะหนีไม่พ้นที่จะต้องพึ่งพากันในเรื่องผลประโยชน์ บิดาของเขาและบิดาของกรวิทย์ก็เช่นกัน ในแต่ละปีบิดาเขาให้เงินสนับสนุนพรรคการเมืองที่บิดาของกรวิทย์สังกัดอยู่จำนวนไม่น้อยทำให้เป็นที่เกรงอกเกรงใจของหัวหน้าพรรคและสมาชิก นอกจากนี้ตระกูลของเขายังเป็นตระกูลใหญ่ที่เป็นที่รู้จักในสังคม โดยเฉพาะคุณปู่คุณย่าที่ใจบุญบริจาคเงินในกิจกรรมการกุศลให้หน่วยงานต่างๆ มากมาย พอคุณปู่เสียและคุณย่าไม่ค่อยสบาย หน้าที่นี้จึงตกมาเป็นของบิดาและมารดาของเขา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชื่อเสียงของตระกูลสุริยาพิทักษ์เป็นที่เกรงขามของคนในสังคมทุกระดับ ดังนั้นการที่คิดจะมีเรื่องกับคนของตระกูลสุริยาพิทักษ์จึงไม่ใช่เรื่องฉลาดนัก และการที่ กรวิทย์กล้าลอบกัดเขาด้วยวิธีนี้ เขาเองก็ไม่แปลกใจเพราะมันไม่ใช่คนฉลาดเลยสักนิด ดังนั้นเขาจะสั่งสอนให้มันรู้ว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร เมฆาส่งเพื่อนสนิททั้งสองพ่วงตำแหน่งหุ้นส่วนไปจัดการเคลียร์ กับตำรวจนักข่าวและไทยมุง ส่วนเขานั้นต้องรับโทรศัพท์จากบิดาที่โทรเข้ามาถามข่าว เขาไม่แปลกใจที่ท่านทราบเรื่อง รวดเร็วขนาดนี้ เพราะเจ้าของฉายาเสือร้ายแห่งวงการธุรกิจพลังงานไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่ได้มาเพราะความเฉลียว ฉลาดเก่งกาจและรอบรู้ แน่นอนว่าอำนาจแห่งเงินตราก็มาพร้อมกับลูกน้องบริวารที่มีมากมายหูตาเป็นสัปปะรด ไม่ว่าเขา จะทำอะไรก็ไม่เคยหลุดรอดสายตาของบิดามารดาไปได้เลยสักครั้ง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาอึดอัด เพราะท่านทั้งสองไม่เคย วุ่นวายกับการใช้ชีวิตของเขา นั่นนับว่าเขาโชคดีมากที่ไม่ถูกกะเกณฑ์ทั้งเรื่องเรียนการงานและคู่ครองอย่างที่เพื่อนในสังคม ระดับเดียวกันบางคนต้องเจอ “ไอ้กาย แล้วมึงกับกูจะได้เห็นดีกัน” เมฆามั่นใจว่างานนี้จะเป็นฝีมือใครไปไม่ได้นอกจากคู่ปรับเก่าอย่างกรวิทย์แน่นอนและครั้งนี้เขาจะจัดการขั้นเด็ดขาด เพื่อไม่ให้หมอนั่นมากวนใจได้อีกต่อไป ฝ่ายคนที่ถูกเอ่ยถึงนั้นกำลังนั่งดูข่าวในทีวีอย่างสบายใจ ที่สามารถเอาคืนเมฆาที่ทำให้เขาเสียหน้าด้วยการแพ้การประลองความเร็วที่สนามแข่งรถพัทยาเมื่อวันก่อนได้ เขาเกลียดขี้หน้าหมอนี่เข้ากระดูกดำ เพราะไม่ว่าจะทำอะไรมันต้องเหนือกว่าเขาไปทุกอย่าง รวมถึงสาวๆ ที่พากันคลั่งไคล้มันราวกับว่ามันเป็นเทวดาเดินดิน ในขณะที่มองเขาด้วยสายตาดูถูกดูแคลนทั้งๆ ที่เขาไม่ได้มีอะไรด้อยกว่ามันเลยสักนิด บิดาเขาเป็นถึงรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญ เป็นที่นับหน้าถือตาของคนในสังคม แม้ว่าจะรวยไม่เท่าตระกูลของมัน แต่ก็สามารถเปย์สาวๆ ได้ไม่ต่างจากมัน ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจ “แค่นี้ยังน้อยไปไอ้มาร์ค ถ้ามีโอกาสกูจะเล่นงานมึงให้หนักกว่านี้” กรวิทย์หยิบเครื่องดื่มมาจิบอย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะนัดเพื่อนๆ มาปาร์ตี้กันในคืนนี้ เมฆาใช้เวลาเพียงสองวันก็สามารถหาหลักฐานได้ว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังการวางเพลิงอู่ของเขา แน่นอนว่าเขาไม่จำเป็นต้องลงมือด้วยตัวเอง เพราะตระกูลของเขามีลูกน้องฝีมือดีที่คอยช่วยงานในด้านนี้อยู่มากมาย หลังจากหลักฐานต่างๆ พร้อมเขาก็จัดการเอาคืนทันที เริ่มจากปล่อยข่าวออกไปว่าลูกชายนักการเมืองดังบงการวางเพลิง ซึ่งสมัยนี้การปล่อยข่าวทำลายใครสักคนนั้นง่ายแสนงาย โดยไม่ต้องพึ่งนักข่าวด้วยซ้ำ เพียงข้ามคืนแฮชแท็กลูกนักการเมืองวางเพลิงก็โด่งดังในโลกโซเชียล แน่นอนว่าบรรดานักสืบโซเชียลต่างพากันขุดจนรู้ว่าคนในคำใบ้นั้นคือใคร เมื่อดังในโลกโซเชียลแน่นอนว่าบรรดานักข่าวก็ให้ความสนใจเช่นกัน และไม่นานก็กลายเป็นข่าวดังขึ้นมา ชายหนุ่มนำหลักฐานทุกอย่างไปให้บิดาและพี่ชายดู คุณมานพโกรธมากที่ลูกชายของคนที่ท่านสนับสนุนคิดร้ายต่อลูกชายของตัวเอง ท่านจึงแจ้งระงับเงินบริจาค ซึ่งเมฆารู้ดีว่านั่นจะมีผลกระทบอย่างไรต่อพรรคการเมืองนั้น และมันจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปยังบิดาของกรวิทย์และตัวมันเองด้วย ชายหนุ่มทราบจากบิดาว่าเมื่อบิดาของกรวิทย์ทราบถึงสิ่งที่ลูกชายทำก็ขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ และขอร้องไม่ให้เขาเอาเรื่องลูกชาย โดยยินดีจะจ่ายค่าเสียหายให้ตามแต่ที่เขาต้องการจะเรียกร้อง เรื่องเงินไม่เคยอยู่ในสมองของเขาเลยด้วยซ้ำ สิ่งที่เขาต้องการคือสั่งสอนหมอนั่นให้ได้รับบทเรียนและต่างคนต่างอยู่ เขารู้ดีว่าคนที่หลงใหลในอำนาจชื่อเสียงเงินทองอย่างนายเกรียงไกรคงไม่ยอมให้ลูกชายมาทำให้ตัวเองต้องพังแน่ นับจากนี้เขาก็แค่รอดูว่ามันจะถูกพ่อตัวเองและสังคมเล่นงานยังไง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม