ใช้เวลาพักใหญ่กว่ากระบวนการต่างๆ จะเสร็จสิ้น เมื่อออกมาจากห้องของพนักงานสอบสวน พลอยขวัญก็พบชายหญิงวัยกลางคนคู่หนึ่ง ซึ่งเธอรู้สึกคุ้นหน้าฝ่ายชายแต่นึกไม่ออก จนกระทั่งเนตรดาวเป็นฝ่ายกระซิบบอกเธอ
“นั่นรัฐมนตรีเกรียงไกร พ่อของไอ้คนที่ยิงเธอไง” พลอยขวัญถึงบางอ้อทันที แต่ท่านรัฐมนตรีที่เธอเห็นในตอนนี้นั้นดูสีหน้าอมทุกข์ เขาและภรรยาไม่มีสง่าราศีเหมือนที่เคยเห็นในทีวีหรือหนังสือพิมพ์เลยสักนิด คนเป็นภรรยานั้นดูจะอาการหนักกว่า เพราะคอยเช็ดน้ำตาอยู่ตลอดเวลา สองสามีภรรยามองมาที่เธอและทำท่าจะเข้ามาหา แต่เมฆาดึงเธอไปหลบด้านหลังของเขาแล้วมองไปยังทั้งสองด้วยสายตาแข็งกร้าวทำให้ทั้งสองชะงักไป
หลังจากนั้นเธอก็ถูกจูงเดินออกมาที่หน้าสถานีตำรวจ พบกับกองทัพนักข่าวที่ยังปักหลักอยู่เช่นเดิม พลอยขวัญตั้งตัวไม่ทันเมื่อถูกนักข่าวรุมถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนคนที่จูงมือเธอออกมาต้องเป็นฝ่ายตอบแทน เธอทำได้แค่ก้มหน้าฟังเขาให้สัมภาษณ์นักข่าวอย่างคล่องแคล่ว จนกระทั่งมาถึงคำถามหนึ่งที่ทำให้เธอถึงกับต้องเงยหน้าขึ้นมองคนที่เธอเพิ่งรู้ตัวว่าถึงตอนนี้เขาก็ยังกุมมือเธออยู่
“คุณมาร์คกับคุณผู้หญิงที่ได้รับบาดเจ็บเป็นอะไรกันเหรอคะ”
“เขาเป็นคนสำคัญของผมครับ” คำตอบของเมฆาเรียกเสียงฮือฮาจากนักข่าวได้ในทันที ในขณะที่พลอยขวัญได้แต่ยืนอึ้งอย่างทำอะไรไม่ถูก ส่วนเนตรดาวนั้นจิกกระโปรงตัวเองเอาไว้สุดฤทธิ์ไม่ให้กรี๊ดออกมากับคำตอบของหนุ่มในฝัน
“แค่นี้นะครับ ผมขอตัวก่อน”
“เดี๋ยวค่ะ คุณเมฆาคะ คนสำคัญนี่หมายถึงแฟนหรือเปล่าคะ คุณเมฆาคะ อย่าเพิ่งไปค่ะ” เมฆาไม่ฟังเสียงเขาจูงมือเธอเดินจ้ำอ้าวไปที่รถ โดยมีชายฉกรรจ์ในชุดดำอีกสามคนช่วยกันนักข่าวไว้ให้ เมื่อขึ้นมาบนรถแล้วตั้งสติได้ พลอยขวัญก็เล่นงานคนให้สัมภาษณ์ทันที
“คุณพูดอะไรออกไปรู้ตัวหรือเปล่า ทำไมถึงให้สัมภาษณ์นักข่าวอย่างนั้น”
“ผมพูดอะไรผิดเหรอ”
“คุณไปบอกนักข่าวว่าฉันเป็นคนสำคัญได้ยังไง เราเพิ่งรู้จักกันนะ”
“ผมก็พูดถูกแล้วนี่ คุณเป็นคนสำคัญของผมเพราะช่วยชีวิตผมไว้ไง เพราะถ้าไม่มีคุณผมอาจจะตายไปแล้ว นี่ยังไม่ถือว่าคุณเป็นคนสำคัญของผมอีกเหรอ” พลอยขวัญอึ้งกิมกี่และรู้สึกอายมากที่ตีโพยตีพายความหมายของเขาไปคนละทาง ความเห่อร้อนแล่นมากระจุกกันที่แก้ม แล้วยิ่งเห็นเขามองมายิ้มๆ อย่างล้อเลียน เธอยิ่งอยากแทรกแผ่นดินหนี ส่วน เนตรดาวนั้นซุกหน้ากับประตูกั้นยิ้มไว้สุดความสามารถเช่นกัน เพราะกลัวเพื่อนโกรธ
“ว่าแต่คุณพลอยเข้าใจความหมายคำว่าคนสำคัญของผมแบบไหนเหรอครับ หรือว่า…”
“จะออกรถได้หรือยัง ฉันอยากกลับบ้านแล้ว ตำรวจถามอะไรก็ไม่รู้วกไปวนมาจนฉันปวดหัวไปหมด ตอนนี้รู้สึกอยากนอนแล้วด้วย” ใบหน้าหล่อเหลาที่ประดับด้วยรอยยิ้มล้อเลียนเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดทันที
“พลอยปวดหัวเหรอ ปวดมากหรือเปล่าครับ ผมว่าทานยาก่อนดีกว่าไหม” น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความห่วงใยอย่างไม่ปิดบัง
“ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่ได้นอนก็ดีขึ้น”
“คุณแน่ใจนะ”
“ค่ะ”
“งั้นคุณบอกที่อยู่ผมมาแล้วนอนไปก่อนนะครับ ถึงแล้วผมจะปลุก” พลอยขวัญบอกชื่อคอนโดที่เธอพักอาศัยซึ่งพลขับกิตติมศักดิ์ก็ร้องอ๋อทันที เพราะนั่นเป็นหนึ่งในโครงการที่เพื่อนเขาเป็นเจ้าของ เมื่อทราบจุดหมายปลายทางเมฆาก็จัดการปรับเบาะเอนให้ผู้โดยสารได้นอนตามต้องการ แล้วบังคับยานพาหนะคันหรูออกจากสถานีตำรวจ
เนตรดาวลอบยิ้มและคิดว่าความหวังของเธอที่อยากให้เพื่อนกับชายในฝันได้ลงเอยกันดูพอจะมีลุ้น และช่างดูเป็นคู่ที่สมน้ำสมเนื้อกันเหลือเกิน อีกคนก็เจ้าเล่ห์ช่างแกล้ง ส่วนอีกคนก็เจ้ามารยา ใช้เรื่องอาการป่วยมากลบเกลื่อนความอายได้อย่างแนบเนียน ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าคำตอบที่บอกว่าเพื่อนของเธอเป็นคนสำคัญนั้น น้องมาร์คสุดที่รักไม่ได้หมายถึงเพื่อนเธอช่วยชีวิตเขาเอาไว้ แต่ต้องการแสดงความเป็นเจ้าของและปกป้องเพื่อนของเธอไปในตัว จากใครก็ตามที่คิดจะมาวุ่นวายเพื่อทำให้คดีนี้จบลง นั่นเพราะการที่เขาประกาศว่าเพื่อนของเธอเป็นคนสำคัญ ย่อมทำให้ไม่มีใครกล้าแหยมกับคนสำคัญของลูกชายคนเล็กแห่งตระกูลสุริยาพิทักษ์นั่นเอง เพราะถ้าแตะต้องเพื่อนเธอ ก็เท่ากับท้าทายอำนาจของตระกูลสุริยาพิทักษ์ด้วยเช่นกัน น้องมาร์คของเธอหล่อและฉลาดที่สุด
เมื่อมาถึงคอนโดเมฆาก็จัดการช่วยขนของลงจากรถ แม้ใจอยากจะขึ้นไปส่งถึงห้อง แต่ก็ทำได้เพียงส่งหญิงสาวที่ล็อบบี้
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”
“สรุปว่าคุณหายงอนผมแล้วใช่ไหม”
“ก็บอกแล้วไงคะ ว่าไม่ได้งอน”
“ถามใหม่ก็ได้ คุณหายโกรธผมแล้วใช่ไหม ที่ผมเผลอเสียงดังใส่คุณ” พลอยขวัญปรายตามองช่อดอกไม้ที่ถืออยู่และมองหน้าเจ้าของมันก่อนจะพยักหน้าส่งๆ เพราะยังวางฟอร์มอยู่ ไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอหายโกรธตั้งแต่ได้ดอกไม้ช่อโตแล้ว อีกอย่างการที่เขาช่วยเธอจากพวกนักข่าวที่สถานีตำรวจ และออกหน้าแทนทุกอย่างก็ทำให้เธอซาบซึ้งใจอยู่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นจะโกรธเขาต่อไปก็ดูจะไร้สาระไปหน่อย เพราะสาเหตุที่เขาดุเธอก็เพราะเป็นห่วง
“ขอบคุณนะครับ ไว้ผมจะแวะมาเยี่ยมใหม่นะ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ พลอย เอ่อ…ฉันไม่ได้เป็นไรแล้ว แค่ยังเจ็บนิดหน่อย”
“ไม่ได้ครับ คุณเจ็บเพราะผม ผมจะทิ้งคุณได้ยังไง อย่างน้อยก็ให้ผมได้แวะมาเยี่ยมจนกว่าคุณจะหายดี นะครับ” พลอยขวัญอยากจะปฏิเสธ แต่คำว่านะครับและสายตาเว้าวอนมันทำให้เธอพูดอะไรไม่ออก คำปฏิเสธถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอทันที
“ก็ได้ค่ะ”
“ขอบคุณครับ” พลอยขวัญรู้สึกหมั่นไส้คนที่ยิ้มดีใจอย่างออกนอกหน้า แต่ตัวเธอเองก็ต้องกลั้นยิ้มไว้อย่างหนักเช่นกัน แล้วเธอจะดีใจทำไมเนี่ย แค่เขาบอกว่าอยากมาหา
“เอ่อ คุณเนตรครับ ผมขอเวลาคุณเนตรสักครู่ได้ไหมครับ”
“ได้สิคะ” เนตรดาวรีบตอบรับทันทีจนได้รับค้อนงามๆ จากเพื่อน
“ถ้างั้นฉันขึ้นห้องก่อนนะ” พลอยขวัญบอกและเดินขึ้นลิฟต์ไป
“คุณมาร์ค มีอะไรจะคุยกับเนตรเหรอคะ”
“เชิญทางนี้ดีกว่าครับ” เมฆาเดินนำเนตรดาวมายังโซฟานั่งเล่นบริเวณล็อบบี้ที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว
“ผมอยากคุญกับคุณเนตรเรื่องพลอย”
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” เนตรดาวแทบจะกลั้นใจถามรวมทั้งแอบลุ้นคำตอบไปด้วย
“ถ้าผมบอกว่า ผมสนใจพลอย คุณเนตรจะว่ายังไงครับ” เนตรดาวแทบจะร้องกรี๊ดออกมาด้วยความดีใจ แต่ต้องรักษาอาการเอาไว้
“จริงเหรอคะ แล้วคุณมาร์คคิดจะจริงจังกับเพื่อนของเนตรหรือเปล่า”
“จริงจังสิครับ ผมถึงอยากคุยกับคุณเนตร เพราะเราอยู่ในฐานะคนสนิทคุ้นเคยกันดี”
“จะให้เนตรช่วยจีบพลอยเหรอคะ”
“ไม่ครับ เรื่องนั้นผมก็ต้องใช้ความสามารถตัวเองสิครับ”
“แล้วคุณมาร์คอยากคุยกับเนตรเรื่องอะไรคะ”
“ผมอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับพลอยให้มากกว่านี้ คุณเนตรคงเคยได้ยินคำว่ารู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งใช่ไหมครับ”
“คุณมาร์คนี่ร้ายนะคะ บุกเร็วขนาดนี้ไม่ให้พวกเราตั้งตัวเลย”
“มันไม่ง่ายนะครับ ที่เราจะได้เจอคนที่รู้สึกว่าถูกใจ เมื่อเจอแล้วผมเลยไม่อยากจะปล่อยโอกาสนี้ไป แล้วสวรรค์ก็เป็นใจให้ผมด้วยการที่ผู้หญิงคนนั้นคือเพื่อนของคุณเนตร ผมเลยต้องขอให้คุณเนตรมาเป็นพวกเดียวกันกับผมไงล่ะครับ”
“แหม คุณมาร์คเล่นพูดแบบนี้ เนตรมีทางปฏิเสธเหลืออยู่ไหมคะเนี่ย ถ้าพลอยรู้ว่าเนตรเอาข้อมูลของเขามาบอกคุณ มีหวังพลอยโกรธเนตรไม่เผาผีแน่ๆ”
“เรื่องนั้นผมเข้าใจครับ เอาเป็นว่าคุณเนตรเล่าเรื่องพลอยให้ผมฟังเท่าที่คุณเนตรสามารถจะเล่าได้ก็พอครับ”
“และนี่คือสาเหตุที่คุณมาร์คเลิกเรียกเนตรว่าพี่ด้วยใช่ไหมคะ” เนตรดาวถามพร้อมยิ้มล้อเลียน เมฆายิ้มเก้อเมื่อถูกจับได้ เขาจงใจเลิกเรียกเนตรดาวว่าพี่เพื่อต้องการลดช่องว่างความต่างระหว่างวัย หลังจากรู้ว่าพลอยขวัญอายุมากกว่าเขาสามปี เขาไม่อยากดูเด็กและด้อยกว่าจึงเปลี่ยนมาเรียกชื่อเฉยๆ
“ใช่ครับ คุณเนตรคงไม่ว่าอะไรนะครับ”
“โอ๊ย เรื่องนั้นเนตรไม่ซีเรียสหรอกค่ะ ดีซะอีก เนตรจะได้ไม่รู้สึกว่าตัวเองแก่”
“โถ่ แก่อะไรกันครับ นี่ถ้าไม่บอกผมไม่รู้จริงๆ นะครับว่าคุณเนตรกับพลอยอายุมากกว่าผม แต่ช่างเถอะครับ ผมไม่แคร์เรื่องนั้นเลยสักนิด”
“โอเคค่ะ เนตรจะเล่าเรื่องพลอยเท่าที่เล่าได้ ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับฝีมือคุณมาร์คแล้วล่ะค่ะว่าจะจีบพลอยติดหรือเปล่า แต่อาจจะยากหน่อยนะคะ เพราะว่าพลอยเพิ่งจะมีประสบกาณณ์ที่เลวร้ายสุดๆ เกี่ยวกับความรัก ร้ายจนถึงขนาดทำให้พลอยช็อกเข้าโรงพยาบาลเลยล่ะค่ะ กว่าจะกลับมาเป็นพลอยที่สดใสแบบนี้ได้ใช้เวลาหลายเดือนเลยนะคะ เนตรจึงอยากจะบอกว่า ถ้าคุณมาร์คไม่ได้คิดจะจริงจังก็อย่าไปยุ่งกับพลอยจะดีกว่าค่ะ”
“ผมยืนยันอีกครั้งนะครับ ว่าผมจริงจังกับพลอย”
“ถ้างั้นก็ลุยเลยค่ะ เนตรจะยกป้ายไฟอยู่ทีมคุณมาร์คเอง”