ตอนที่ 2 ทริปแรก

2354 คำ
“ตักมาเยอะไปไหมคะ” หญิงสาวมองจานที่เขาวางลงบนโต๊ะก็ถามพลางหัวเราะ “ก็พี่ไม่รู้ว่าเราชอบกินอะไร เลยตักมาทุกอย่างเลย” เขาอธิบายน้ำเสียงนุ่มนวล “เฟิร์นกินได้ทุกอย่างค่ะ” “ครับผม กินเถอะจ้ะ” สองหนุ่มสาวนั่งกินข้าวกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งน้ำฝนเดินกลับเข้ามาก็ช่วยกันแกะของขวัญต่อโดยมีวชิรวิษช่วยอีกแรง หลังจากผ่านไปกว่าชั่วโมง กล่องของขวัญทั้งหมดก็ได้รับการเปิดและคัดแยกเรียบร้อย ทั้งสามคนช่วยกันเอาไปเก็บในห้องแฟนคลับ มีบางส่วนเท่านั้นที่หทัยชนกเอาไปเก็บไว้ในห้องนอน โดยมีวชิรวิษยืนรออยู่หน้าห้อง “ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเดินออกมาจากห้องโดยไม่ได้ปิดประตู กล่าวกับเขาเสียงเบา ดวงตาเริ่มปรือ “ไปนอนพักได้แล้ว ตาจะปิดแล้วจ้ะ” “เหนื่อยนิดหน่อยค่ะ” หญิงสาวหัวเราะเบาๆ เมื่อเขาพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าแซวเธอ “ไม่หน่อยแล้วนั่น ไปเถอะ” “ค่ะ ฝันดีนะคะ” “ฝันดีจ้ะ” หทัยชนกส่งยิ้มขอบคุณให้เขา ก่อนที่เธอจะปิดประตูห้อง วชิรวิษรอจนกระทั่งประตูถูกปิดสนิทจึงเดินออกมาจากหน้าห้องนอนของหญิงสาวและลงบันไดไปด้วยความไม่รีบร้อน “อ้าว ยัยเฟิร์นล่ะ” อนุชิตถามชายหนุ่มรุ่นน้องเมื่อเห็นร่างสูงเดินเข้ามารวมตัว “ขึ้นไปนอนแล้วครับ” “อือ คงเหนื่อย มาๆ กินเหล้า” “ผมต้องขับรถนะพี่” “เป็นไรไป บ้านก็อยู่ใกล้แค่นี้ ไม่ไหวก็นอนค้าง ห้องว่างเยอะแยะ” ร่างสูงหย่อนตัวนั่งลงโดยไม่ได้พูดอะไร เขาภูมิใจในตัวหทัยชนกไม่ต่างกับอนุชิตและคนอื่นๆ เพราะเขาเห็นเด็กสาวมาตั้งแต่อายุน้อย เธอทั้งทำงานทั้งเรียนไปพร้อมกัน ทำหน้าที่ของตัวเองได้โดยไม่ขาดตกบกพร่องจนน่าชื่นชม หลังจากที่ดื่มกันจนค่อนรุ่ง แต่ละคนก็ทยอยกันกลับบ้าน คนที่พาคนรักมาด้วยก็กลับได้อย่างไม่มีปัญหาเพราะมีคนขับรถให้ แต่สำหรับวชิรวิษที่ไม่ได้มีคนรัก อีกทั้งบ้านของเขาก็ยังไม่ไกลจากที่นี่มาก เขาเลยนั่งดื่มต่อจนเมาหลับอยู่ที่โซฟา อนุชิตเลยช่วยพยุงให้ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มรุ่นน้องขึ้นไปนอนในห้องนอนแขกด้านบนโดยมีหทัยชนกที่ตื่นมาเข้าห้องน้ำออกมาช่วยอีกแรง ส่วนตัวเขาก็กลับห้องนอนไป เช้าวันต่อมา “ตื่นแล้วเหรอคะ” เสียงหวานใสเอ่ยทักทายเมื่อเห็นร่างสูงเดินลงมาจากชั้นบนในสภาพผมยุ่ง “จ้ะ” วันนี้หทัยชนกตื่นแต่เช้าและได้หยุดพักผ่อนเนื่องจากได้คิวว่างหลังจากถ่ายละครและรายการต่างๆเต็มแน่นมาหลายเดือน หญิงสาวตื่นออกไปใส่บาตรที่ตลาดไม่ไกลจากบ้าน และแวะซื้อของกินเล่นมาด้วยเพราะเธอเป็นคนชอบกินขนม โชคดีที่เธออยู่แถวนี้มาตั้งแต่เด็ก คนแถวนี้จึงรู้จักเธอดีเพราะเมื่อก่อนเธอกับบิดาพากันออกไปเดินตลาดทุกวัน “หิวไหมคะ” “บอกตามตรง ยังแฮงก์อยู่เลย” “ก็แน่สิคะ หลับคาขวดเลย เมื่อเช้ามืดเฟิร์นตื่นมาเข้าห้องน้ำเลยต้องช่วยกันกับป๊าพาพี่คิวขึ้นไปบนห้อง เกรงว่าป๊าคนเดียวไม่น่าจะไหว ไม่งั้นคงได้กลิ้งลงบันไดด้วยกันทั้งคู่” “โทษทีจ้ะ หนักไปนิด” “ไม่นิดค่า เอาล่ะ กาแฟดำไหมคะ” หญิงสาวถามเขาแล้วลุกขึ้นยืนโดยไม่รอคำตอบ “ได้จ้ะ” เขาพยักหน้ารับ พร้อมกับที่หญิงสาวเดินออกไปพอดี วชิรวิษเดินมานั่งลงที่โซฟาตัวใหญ่ ก่อนจะหลับตาลงแล้วเอนศีรษะวางลงพนักพิงหลัง ชายหนุ่มหนักศีรษะมากจนมั่นใจว่าเมื่อคืนเขาคงดื่มไปหนักจริงๆ ไม่นานหญิงสาวก็เดินกลับมาพร้อมกับกาแฟดำในแก้วขนาดกำลังดี มือเล็กวางมันลงบนโต๊ะกระจกหน้าโซฟาตัวใหญ่ก่อนจะหย่อนกายนั่งลงข้างร่างสูงที่นั่งเอนกายอยู่ช้าๆ “พี่นุล่ะ” น้ำเสียงนุ่มนวลพูดขึ้นหลังจากที่เขารับรู้ว่าหญิงสาวนั่งลงข้างกายเขา “ยังไม่ตื่นเลยค่ะ” หญิงสาวมองสำรวจ เมื่อฝ่ามือใหญ่หยิบเอาแก้วที่วางอยู่ขึ้นมากรอกลงคอทีเดียวเกือบครึ่งแก้ว “พี่มีอะไรแปลกเหรอ” “เปล่า เฟิร์นแค่รู้สึกว่าพี่รู้จักเฟิร์นดีมากกว่าที่เฟิร์นรู้จักพี่อีก” “มันก็ใช่ ตอนนั้นเฟิร์นยังเด็ก แต่พี่กำลังเป็นวัยรุ่น พอเฟิร์นเริ่มโต พี่ก็อยู่ในวัยผู้ใหญ่ การที่พี่จะสังเกตหรือเห็นอะไรที่ตอนนั้นเฟิร์นยังไม่เห็นก็ไม่แปลก” “ก็คงใช่” ชายหนุ่มแอบอมยิ้มน้อยๆกับคำตอบสั้นๆของหญิงสาว เขาดีใจที่คนตัวเล็กในวันก่อน วันนี้เติบโตเป็นผู้ใหญ่และเริ่มให้ความสนใจในตัวเขา “แล้ววันนี้ไม่ไปไหนเหรอ” “วันนี้ว่างค่ะ ได้มีเวลาพักเกือบ 2 อาทิตย์เลย” “อย่างนี้ก็มีเวลาไปเที่ยวเล่นกับพี่แล้วอะสิ” “.....ไปไหนคะ” “พี่ว่าจะไปเที่ยวใต้ บริษัทพี่จัดวันหยุดประจำปี ไปไหม” “ได้นะคะ” “งั้นเดี๋ยวพี่ส่งตารางวันให้นะว่าไปวันไหน” “ได้ค่ะ” สองหนุ่มสาวต่างวัยนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ ตามประสาคนคุยกันถูกคอ ถึงอายุพวกเขาจะต่างกันแต่ด้วยความที่รู้จักกันมานานจึงทำให้การพูดคุยไม่สะดุดแต่อย่างใด บ่ายวันนั้น หลังจากที่วชิรวิษกลับออกไป หทัยชนกจึงได้คุยกับบิดาเรื่องที่จะไปเที่ยวกับวชิรวิษ ซึ่งอนุชิตก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้ ไม่กี่วันต่อมาก็ถึงวันนัด วชิรวิษมารับหทัยชนกแต่เช้ามืดเพื่อไปที่บริษัทและออกเดินทางไปพร้อมกับคนอื่นๆ เมื่อถึงที่บริษัทหทัยชนกก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าบริษัทเขาที่เธอเข้าใจว่าเป็นบริษัทที่เปิดที่บ้านเหมือนบริษัททั่วไปส่วนใหญ่ กลับกลายเป็นบริษัทใหญ่ที่มีอาคารเป็นของตัวเอง และมีพนักงานหลายร้อยชีวิตหรืออาจจะถึงหลักพันชีวิต ซึ่งแบ่งเป็นแผนกต่างๆชัดเจน การจัดไปเที่ยวในครั้งนี้ พนักงานทั่วไปจัดเที่ยวเป็นจังหวัดใกล้ๆ ตามแต่งบของแผนก ซึ่งแต่ละแผนกได้รับการจัดสรรงบเท่าๆกัน เว้นแต่ระดับหัวหน้าหรือพนักงานในส่วนของออฟฟิศ จะได้รับการจัดเที่ยวกับวชิรวิษ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และนั่งอยู่ในสถานะประธานหนุ่มของบริษัท “เป็นอะไร” “เปล่าค่ะ” ชายหนุ่มถามเสียงนุ่มเมื่อเห็นเธอมองเขาด้วยสีหน้าและแววตาแปลกใจ แต่ก็ได้รับเพียงคำตอบพร้อมกับการส่ายใบหน้าเบาๆ “เราจะไปไหนคะ” “เข้าไปรวมตัวกับคนอื่นก่อนจ้ะ แต่ละแผนกแต่ละส่วนจะไปเที่ยวกันคนละที่ แล้วแต่ว่าแผนกนั้นจะจัดสรรไปเที่ยวกันที่ไหน ส่วนที่เราจะไปด้วยกันคือส่วนของคนในออฟฟิศ” “อ้อ ค่ะ” “ไม่ต้องเกร็ง ที่นี่ทุกคนอยู่กันมานานจนไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย” หญิงสาวยิ้มให้เขาโดยไม่ได้พูดอะไร เธอไม่ได้กลัว ถึงอย่างไรเธอก็มั่นใจว่าเขาจะควบคุมไม่ให้ข่าวหลุดออกไปได้แน่นอน เมื่อขึ้นมาถึงบริเวณที่นัดรวมตัวกัน หทัยชนกก็ต้องแปลกใจอีกครั้งเมื่อเห็นว่าจำนวนคนเยอะกว่าที่เธอคิด ซึ่งมองคร่าวๆแล้วน่าจะต้องใช้รถตู้หลายคันเลยทีเดียว “กำลังคิดว่าทำไมพี่ใช้รถตู้ใช่ไหม” “ค่ะ” “เพราะรถตู้จะนั่งสบายกว่ารถทัวร์ เราใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมง การใช้รถตู้จะไม่เหนื่อยเท่านั่งรถทัวร์น่ะ” “แต่ดูแล้วคนเยอะนะคะ น่าจะต้องใช้หลายคันเลย” “เรื่องนั้นไม่มีปัญหาหรอกจ้ะ เพราะสัมภาระของแต่ละคนที่ไปที่เดียวกัน จะถูกเอาไปรวมไว้ที่รถคันเดียวเลยหรืออาจจะไม่เกิน 3 คัน จะได้ไม่ต้องมาเผื่อที่สำหรับจัดเก็บสัมภาระ ทำให้ไม่ต้องนั่งเบียดกันไง” “แล้วใช้รถกี่คันคะ” “ไม่เกิน 30 คัน รวมพวกรถขนสัมภาระกับข้าวของอื่นๆที่เอาไปด้วย พี่คิดว่าประมาณ 5 คัน” “เยอะเหมือนกันนะคะ” “ไปเถอะจ้ะ” วชิรวิษยิ้มเอ็นดู เมื่อเห็นหทัยชนกมีอาการตกใจที่ได้ทราบจำนวนรถ ก่อนจะจับมือเล็กของหญิงสาวแล้วเดินไปรวมตัวกับเลขาส่วนตัวของเขา “ครบหรือยัง” “ครับ กำลังทยอยเอาของขึ้นรถ แล้วเดี๋ยวนับจำนวนคนของแต่ละคันก็พร้อมออกเดินทางครับ” “อืม” “นายเอารถไปเองเลยเหรอครับ” “อืม วันนี้ไม่ไว้ใจให้คนอื่นขับ” “ครับผม” “อ้อ เฟิร์น นี่ดิน หรือดนัย เลขาของพี่ ดิน นี่น้องเฟิร์น นายน่าจะรู้จักเธอ” “สวัสดีค่ะ” “สวัสดีครับ” ดนัยมองเจ้านายหนุ่มด้วยแววตาสงสัย แต่ก็เก็บอาการไว้ได้มิดชิดตามประสาคนทำงานด้วยกันมานาน “ดิน นายจะไปกับฉันหรือจะไปกับคนอื่น” “แล้วแต่นายจะกรุณาเลยครับ” “งั้นไปกับฉัน” “ครับผม” หลังจากทุกอย่างพร้อม รถทุกคันก็ออกเดินทางเพื่อมุ่งหน้าสู่จังหวัดภูเก็ต โดยได้มีการแวะเที่ยวสถานที่ต่างๆหลายแห่งไปตลอดทาง จนกระทั่งเดินทางไปถึงที่หมาย ก็กินเวลาไปกว่าค่อนคืน โชคดีที่ทางบริษัทจัดการเหมาที่พักเอาไว้ทั้งโซน จึงไม่เป็นการรบกวนแขกท่านอื่นมากนัก “เฟิร์นพักอยู่ห้องนี้นะ จะขนาบข้างด้วยห้องของดินและห้องของพี่ เผื่อมีอะไรเกิดขึ้นจะได้เรียกหาพี่หรือดินได้” ชายหนุ่มเดินมาส่งหทัยชนกที่หน้าห้องพลางอธิบายว่าทำไมเขาถึงจัดห้องให้เธอแบบนี้ “แหม พี่คิว ที่พักระดับนี้เลยนะคะ” “มันก็ไม่เหมือนพักโรงแรมนะคะน้องเฟิร์น อีกอย่างนักท่องเที่ยวเยอะจะตาย” “ค่าๆ” ที่พักในวันนี้ถูกจัดเอาไว้ให้พนักงานระดับหัวหน้าขึ้นไปพักอยู่บนโรงแรม ซึ่งทางบริษัทจัดการจองเอาไว้ทั้งชั้นเพื่อให้ติดต่อหากันได้สะดวกและเป็นการลดการรบกวนแขกท่านอื่น “เอาล่ะ งั้นแยกย้ายกันไปพักก่อนนะ แล้วเดี๋ยวได้เวลามื้อเช้าค่อยมารวมตัวกันที่โซนอาหารที่เขาจัดเอาไว้ให้บริษัทเรา” “รับทราบค่ะ” หลังจากที่วชิรวิษส่งหญิงสาวเข้าห้องพักเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็เข้าห้องพักของตัวเองเพื่อพักผ่อน แต่หลังจากที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและเตรียมตัวที่จะพักผ่อน ก็ได้มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เขาลุกไปส่องดูที่ตาแมว เมื่อเห็นว่าเป็นหทัยชนกก็เปิดประตูออกด้วยความสงสัย “พี่คิว หลับหรือยังคะ” “ยังจ้ะ มีอะไรคะ” “คือแอร์ห้องเฟิร์นน่าจะพัง พอเปิดไปสักพักแล้วมันดังครึ่กๆ แล้วแอร์ก็ดับค่ะ” “.....” “.....” “งั้นมาพักห้องพี่ก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวพี่ไปนอนกับเจ้าดิน” “ขอโทษด้วยนะคะที่ต้องรบกวน” “ไม่เป็นอะไรจ้ะ เหตุสุดวิสัยนี่ ถึงไม่มีเหตุสุดวิสัยก็มารบกวนพี่ได้ตลอดนะ” ประตูห้องถูกเปิดออกกว้าง ขาเรียวยาวก้าวเข้ามาในห้องช้าๆ พร้อมกับที่ร่างสูงของเจ้าของห้องเดินไปหยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าสตางค์แล้วเดินออกจากห้องไป หญิงสาวเองก็เดินตามออกไปเพื่อส่งเขาด้วยเช่นกัน วชิรวิษยืนเคาะประตูห้องพักที่ดนัยพักอยู่สักพัก แต่ไม่มีเสียงตอบรับจึงกดโทรศัพท์โทรออกหาเจ้าของห้อง ก่อนจะยืนนิ่งไปเมื่อติดต่อปลายสายไม่ได้ “ไอ้ดิน.....” “มีอะไรเหรอคะ” “โทรไม่ติด น่าจะแบตหมด” “.....” “.....” “งั้นไปพักที่ห้องก็ได้ค่ะ” “อย่าดีกว่า ใครรู้เข้า เฟิร์นจะเสียชื่อ” “แล้วจะทำยังไงล่ะคะ ในเมื่อติดต่อใครไม่ได้ แล้วพนักงานก็คงจะมาดูแอร์ตัวที่พังได้ในตอนเช้า” “.....” “เฟิร์นไม่ได้เป็นเด็กนะคะ เฟิร์นโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว” “พี่ว่าถ้าเฟิร์นเป็นเด็ก พี่คงจะไม่ลำบากใจเท่านี้” “.....” “เห้อ ไปเถอะ เดี๋ยวเฟิร์นจะไม่ได้นอน เหนื่อยจากการเดินทางมาทั้งวันแล้ว พักผ่อนก่อน เช้าค่อยติดต่อพนักงาน” “ค่ะ” หทัยชนกแอบขำ หญิงสาวรู้ว่าเขากังวลอะไร แต่เธอเองก็ไม่ได้คิดมากขนาดนั้น เธอมองออกว่าเขาชอบเธอ อีกอย่างหญิงสาวก็มั่นใจว่าตัวเขาเองให้เกียรติเธอมากพอที่จะไม่แตะต้องเธอ หลังจากเข้ามาภายในห้อง หทัยชนกมองซ้ายมองขวาแล้วก็หัวเราะออกมา เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆ มีสีหน้าตึงเครียดมากแค่ไหน “เฟิร์น.....” ชายหนุ่มพูดเสียงต่ำปรามหญิงสาวเบาๆ “อย่าคิดอะไรมากสิคะ มันคือเหตุสุดวิสัยที่เราไม่สามารถควบคุมได้ อีกอย่างบนชั้นนี้มีแต่พนักงานของบริษัทพี่คิวนี่คะ” “มันก็ใช่.....” “อย่าคิดเยอะค่ะ เตียงออกจะกว้าง นอนคนละฝั่งก็ได้นี่คะ” “.....” “คะ?” “ช่างเถอะจ้ะ” ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ เมื่อมันหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งสองคนต่างนั่งลงบนขอบเตียงคนละฝั่ง แล้วเอนตัวลงนอนหันหลังให้กัน ไม่นานต่างคนต่างก็หลับสนิทหลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางยาวนานหลายชั่วโมง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม