ทันทีที่เรือออก พวกเขาก็รีบเข้าไปในห้องแล้วล็อคประตูไว้อย่างหนาแน่น
“เราต้องรีบโทรขอความช่วยเหลือโดยด่วน”ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรขอความช่วยเหลือ แต่แล้วเขาก็พบว่าสัญญาณทั้งหมดโดนตัด
“ฉันลืมบอกไปว่าสัญญาณโดนตัดตั้งแต่เราขึ้นเรือแล้ว”
“งั้นเราต้องรีบหาทางจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด”
“เราจะจัดการเรื่องนี้ยังไง”
“ผมมีแผน คือเราต้องล่อคนใดคนหนึ่งเข้ามาในห้องน้ำนี้ให้ได้จากนั้นเราก็จะใช้ไอ่นี่จู่โจมตอนที่มันไม่ทันระวังตัว ไม่ก็แย่งปืนมาก่อนแล้วค่อยจัดการมันทีหลัง”
“ไม่ได้ มันอันตรายเกินไป”
“คุณเชื่อใจผมสิ”
“ฉันไม่เชื่อใจคุณหรอก นี่มันชีวิตจริงนะไม่ใช่ละคร”
“ก็ไม่ได้จะแย่งมันมาสุ่มสี่สุ่มห้าหรอกนะ ผมจะดูจังหวะ ถ้าพอแย่งมันมาได้ก้อจะทำ แต่ถ้ามันเก็บปืนไว้ข้างหน้าผมก็จะใช้ท่อนนี่ทุบหัวมันจากข้างหลัง รับรองรอบเดียวสลบแน่”
“แล้วอีกคนที่อยู่ด้านนอกหล่า เราจะจัดการยังไง
“ถ้าจัดการกับคนที่หนึ่งสำเร็จ เราก็จะจัดการกับคนที่อยู่ด้านนอกได้สบายมาก แต่ถ้าคนแรกไม่พกปืนมาด้วย เราคงต้องล้มเลิกแผนนี้ไปแล้วค่อยหาแผนอื่น”
“ฉันกลัว”
“ถ้าเราไม่ทำอะไรสักอย่าง วันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายของเราสามคน”
“ก็ได้ แล้วฉันต้องทำอะไรบ้าง”
“เราต้องทำอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่งในห้องน้ำพัง แล้วคุณก็ไปบอกให้พวกเขาเข้ามาดู”
“โอเค งั้นคุณลงมือเลย”
“คุณแม่คะ เกิดอะไรขึ้น”
“น้องปิ่นฟังแม่นะ ถ้ามีคนเข้ามาน้องปิ่นต้องทำตัวนิ่งๆไว้ และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นห้ามส่งเสียงดังโอเคมั้ย”
“โอเคค่ะ”
พวกเขาเริ่มแผนการอย่างกล้าๆกลัวๆ แต่ทุกอย่างก็ดำเนินเป็นไปตามแผน ทันทีที่ทั้งสองเห็นปืนซึ่งชายร่างท้วมสอดมันไว้ที่เอวด้านหน้าเขาจึงลงมือทุบศีรษะชายตรงหน้าสุดแรง จนกระทั่งร่างท้วมนอนสลบอยู่ในห้องน้ำ เมื่อเขาแย่งปืนมาได้จึงค่อยๆย่องออกไปจัดการกับชายอีกคนซึ่งกำลังขับเรือ
“ปืนอีกกระบอกอยู่ไหน ถ้าไม่บอกฉันยิงแกแน่”ชายหนุ่มเล็งปืนในระยะใกล้ จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปหาชายคนขับเรือในระยะประชิด
“คิดว่ายิงผมตายแล้วพวกคุณจะรอดงั้นหรอ?
“แกหมายความว่ายังไง ดับเครื่องซะแล้วยกมือทั้งสองข้างประสานกันไว้ตรงบริเวณท้ายทอย?”ชายที่กำลังโดนจี้ค่อยๆยกมือแล้วทำตามคำสั่งของชายหนุ่มอย่างใจเย็น
“ก็หมายความว่าอีกไม่นานเราทุกคนที่อยู่บนเรือนี้จะโดนระเบิดจนร่างกายกระเด็นออกเป็นชิ้นๆ”
“ไม่จริง ฉันไม่เชื่อแกหรอก”
“ถ้าไม่เชื่อก็ลองหันออกไปทางซ้ายมือสิ”
“คุณช่วยหันไปดูให้ผมหน่อยว่ามีระเบิดจริงมั้ย หรือนี่อาจจะเป็นแค่แผนของมัน”
“พวกเขาพูดเรื่องจริง บนเรือนี้มีระเบิด”
“ตอบมาว่าแกต้องการอะไร!”ชายหนุ่มใช้ปืนฟาดไปที่หัวของชายตรงหน้าด้วยความโมโห จากนั้นเขาเดินเข้าไปชกซ้ำเข้าที่หน้า
“แน่จริงก็ยิงผมสิ”
“ตอบมาว่าแกต้องการอะไรกันแน่!”
“ต้องการล้างแค้นพ่อแกไง”
“พ่อฉันไปทำอะไรให้แกนักหนักหนา ถึงขั้นต้องมีการฆ่ากันด้วย”
“รู้แล้วจะทำไม ในเมื่อแกจะตายในอีกไม่ช้า อันที่จริงคนที่สมควรตายในวันนี้คือพ่อแก แต่แกกับลูกกับเมียดันเสือกขึ้นเรือนี่แทน แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีนะ เพราะไอ่แก่นั่นจะได้อกแตกตายโดยที่ฉันไม่ต้องเป็นคนลงมือฆ่า”
“คุณรีบพาลูกไปหาเสื้อชูชีพใส่เร็วเข้า แล้วก็รีบออกไปจากเรือลำนี้โดยที่ไม่ต้องรอผม”
“อันที่จริงอีกห้านาทีเรือนี่จะระเบิด แต่ถ้าฉันกดไอ้นี่ตอนนี้ เรือนี่จะระเบิดทันที ฉันอยากรู้จังเลยว่าระหว่างเราสองคนมือใครจะเร็วกว่ากัน”ชายที่โดนทำร้ายจนเซกับพื้นอาศัยจังหวะชายหนุ่มเผลอรีบหยิบปุ่มกดระเบิดที่ซ่อนเอาไว้ออกมา
“อย่านะ!
“ถ้าไม่อยากเห็นลูกเมียตายต่อหน้าก็วางปืนลง แล้วคุกเข่าจากนั้นก็เอามือไขว้หลัง”
“โอเค ฉันยอมแกทุกอย่างแล้ว”เขาทำตามอย่างว่าง่ายจากนั้นก็หันไปดูระเบิดตั้งเวลา
“แกเหลือเวลาอีกสามนาทีครึ่งบนเรือลำนี้ แต่ฉันอยากเป็นคนส่งแกลงนรกด้วยตัวเอง”พูดจบชายซึ่งเป็นคนร้ายค่อยๆย่อตัวลงเพื่อจะหยิบปืนที่อยู่ตรงหน้า แต่ชายหนุ่มดันคว้าปืนเอาไว้ได้ทัน จากนั้นเขาก็ยิงเข้ากลางอกฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่ลังเล เมื่อชายหนุ่มเห็นปุ่มกดระเบิดยังอยู่ในมือของชายเพิ่งโดนยิงแต่ยังไม่เสียชีวิต เขาจึงรีบคว้ามันมาแล้วโยนทิ้งกลางทะเล
“ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่หรอว่าให้รีบพาลูกออกจากเรือนี่”
“ก็น้องปิ่นไม่ยอมไปไหนถ้าไม่มีคุณอยู่ด้วย”
“งั้นก็รีบขึ้นเรือ ผมพร้อมแล้ว”ชายหนุ่มรีบเอาเรือลำเล็กที่อยู่ท้ายเรือออกมา จากนั้นทั้งสามคนก็พากันขึ้นเรืออย่างเร่งรีบ
“เรากำลังจะไปไหน”
“ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆเราต้องรีบออกห่างเรือนั่นให้เร็วที่สุดก่อนที่มันจะระเบิด”ชายหนุ่มรีบขับเรือลำเล็กออกไปโดยไม่รู้ทิศทาง และไม่กี่วินาทีต่อมาเรือที่พวกเขาอาศัยก่อนหน้านี้ระเบิดดังตุ้มพร้อมกับมีไฟลุกโชน
“คุณแม่คะน้องปิ่นกลัว”เด็กหญิงที่เห็นเหตุการณ์มีท่าทีหวาดกลัวแล้วโผเข้ากอดผู้เป็นแม่
“เรารอดตายแล้ว”ชายหนุ่มหันไปส่งยิ้มให้กับภรรยาและลูกสาว
“ฉันคิดว่าเราจะไม่รอดกันแล้วซะอีก”
“ดูเหมือนน้ำมันใกล้จะหมด”ชายหนุ่มบอกข่าวร้ายกับหญิงสาวด้วยสีหน้าที่ดูเป็นกังวล
“ว่าไงนะ!”ส่วนทางด้านหญิงสาวที่ได้ยินดังนั้นก็แสดงสีหน้าตกใจ
“ความผิดผมเอง คือตอนที่อยู่ในเรือเหมือนผมเห็นแกลลอนน้ำมันวางอยู่ในห้องกัปตันแต่ไม่คิดว่ามันมีไว้สำหรับเรือนี่”
“แสดงว่าพวกมันวางแผนระเบิดเรือแล้วเตรียมเรือเล็กนี่ไว้หนี แต่ก็กันเราหนีทันเลยจงใจเหลือน้ำมันไว้เล็กน้อย”
“ผมก็ว่างั้น”
“แล้วเราจะทำยังไงกันดี นี่ก็ใกล้ค่ำแล้ว”
“ตรงโน้นมีเกาะเล็กๆอยู่ เราจะไปที่นั่นเผื่อมีคนอาศัยอยู่ เพราะถ้าเกิดเราอยู่กลางทะเลแบบนี้กลางคืนเราจะโดนคลื่นทะเลซัด”
“แล้วน้ำมันจะพอหรอ?”
“ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าขับไปแล้วมันไม่ถึงเกาะเราจะว่ายน้ำข้ามฝั่งไป”