ตอนที่11

826 คำ
ณ ห้องประชุม “ท่านประธานคะ มีสายโทรเข้าจากบ้านท่านประทานค่ะ” “บอกพวกเขาว่าผมกำลังประชุมใหญ่อยู่และอย่าเข้ามารบกวนเวลาประชุมอีก เสร็จจากประชุมเดี๋ยวผมจะโทรกลับเอง” “ดิฉันแจ้งไปแล้วค่ะว่าเช้านี้มีประชุมใหญ่ แต่พวกเขาบอกว่ามีเหตุจะแจ้งให้ท่านประธานโดยด่วน” “บอกพวกเขาไปว่าถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายก็รอไปก่อน เพราะผมต้องรีบประชุมกันให้เสร็จก่อนเที่ยง”ชายสูงวัยที่ใครๆต่างเกรงกลัวในอำนาจและบารมีแสดงท่าทีไม่พอใจเมื่อการประชุมสำคัญถูกรบกวน “ค่ะๆ”หญิงสาวซึ่งเป็นพนักงานประจำรีบก้มหัวแล้วเดินจากห้องประชุมไปเมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกตำหนิด้วยสายตา และไม่นานหญิงสาวก็กลับเข้ามายังห้องประชุมอีกครั้งด้วยท่าทีกล้าๆกลัว “นี่เธออยากโดนไล่ออกรึยังไงถึงคุยไม่รู้เรื่อง” “ทางโน้นแจ้งมาว่าหลานสาวท่านประธานเกิดอุบัติเหตุซึ่งตอนนี้กำลังถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลค่ะ” “ยกเลิกประชุมด่วน!”ชายสูงวัยในชุดสูทรีบลุกจากเก้าอีกด้วยสีหน้าไม่สู้ดีท่ามกลางห้องประชุมซึ่งมีแต่บุคคลสำคัญ … ณ โรงพยาบาล “แม่ครับมันจะไม่เกิดขึ้นอีกใช่มั้ย”ชายหนุมโผเข้ากอดผู้เป็นแม่ด้วยความกลัว “ไม่ น้องปิ่นต้องไม่เป็นอะไร” “แม่ครับ ผมเสียใจ” “แม่รู้ว่าโปรดไม่ได้ตั้งใจ และแม่อยากให้โปรดจำเหตุการณ์ในครั้งนี้ให้ขึ้นใจ ชีวิตคนเรามันไม่แน่ไม่นอนดังนั้นก็ทำดีกับคนที่รักเข้าไว้ก่อนที่จะไม่มีโอกาสนั้นอีก” “ครับแม่” “แม่ดูออกนะว่าโปรดเองก็รักน้องปิ่นไม่แพ้ใคร ไม่งั้นคงไม่กลับบ้านช่วงที่น้องปิ่นอยู่หรอกใช่มั้ย”ถึงแม้ใครๆต่างเข้าใจว่าชายหนุ่มไม่ยอมรับลูกสาว แต่ผู้เป็นแม่ที่รู้จักลูกชายตัวเองเป็นอย่างดีกลับเห็นต่างจากคนอื่น “มีแต่แม่ที่เข้าใจโปรด”แม้ชายหนุ่มชอบทำเมินใส่ลูกสาวเพื่อต้องการให้แม่ของลูกเจ็บช้ำใจแต่คนที่ช้ำใจมากที่สุดกลับเป็นเขาเอง “แม่ไม่รู้หรอกนะว่าโปรดมีปัญหาอะไรกับหนูแพท แต่น้องปิ่นไม่ควรเป็นเครื่องมือรองรับอารมณ์ของใคร”ผู้เป็นแม่เตือนสติลูกชายเพราะเธอเองก็ไม่ต้องการเห็นจุดจบที่ไม่ดีของลูกชาย “ครับแม่” …. หน้าห้องฉุกเฉิน “หนูแพทน้องปิ่นเป็นยังไงบ้าง น้องปิ่นไม่ได้เป็นอะไรมากใช้มั้ย”ทันทีที่ชายสูงวัยเจอลูกสะใภ้ก็ดิ่งตรงเข้าไปหาด้วยท่าทีกระวนกระวาย “ใจเย็นๆนะคะคุณพ่อ แพทเองก็ไม่รู้จะตอบคำถามคุณพ่อยังไงเพราะยังไม่ได้เจอหมอเลย” “แล้วไอ่ตัวปัญหามันอยู่ไหน ทำไมถึงไม่โผล่หัวมา” “คุณไม่ควรใช้คำพูดแบบนั้นนะ เกิดลูกมาได้ยินเข้าเขาจะรู้สึกยังไง”หญิงสูงที่เพิ่งออกไปพบลูกชายมาแสดงความความปกป้องลูกในฐานะแม่ “คนไร้ความรู้สึกอย่างมันคงไม่สะทกสะท้านกับคำพูดแค่นี้หรอก ขนาดหลานเราซึ่งเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของมัน มันยังทำได้ลงคอ นี่ถ้าหลานเป็นอะไรไปนะผมนี่แหละจะส่งมันเข้าคุก” “คุณพ่อจะส่งผมเข้าคุกตอนนี้เลยก็ได้นะครับ ผมยินดี” “เพี้ย!”ผู้เป็นพ่อตบหน้าลูกชายด้วยความโมโห “คุณคะ นี่มันโรงพยาบาลนะ” “ก็เพราะเป็นโรงพยาบาลไงผมถึงทำได้แค่นี้ไม่งั้นมันได้หัวแตกแน่” “คุณพ่อจะทำแบบนั้นก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมจะออกไปรอข้างนอกโรงพยาบาล” “นี่แกท้าฉันหรอ?” “โปรด อย่าทำแบบนั้น”ผู้เป็นแม่ห้ามลูกชายเพราะเกรงว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ “แม่ไม่ต้องห้ามโปรดหรอก”พูดจบชายหนุ่มก็เตรียมเดินออกไป แต่แล้วหมอก็ปรากฏต่อหน้าทุกคน “หมอ หลานสาวผมเป็นยังไงบ้าง”ชายสูงวัยปรี่ตัวเข้าหาหมอด้วยความที่เป็นห่วงหลานสาว “เลือดออกตรงบริเวณศีรษะเยอะพอสมควร แต่หมอห้ามเลือดเอาไว้ได้แล้ว ดังนั้นหมอจะส่งตัวคนไข้ไปยังห้องพักฟื้นต่อนะครับ ส่วนระยะเวลาในการพักฟื้นมันขึ้นอยู่กับอาการของคนไข้ ทั้งนี้หมอขอความร่วมมือญาติๆช่วยกันดูแลคนไข้อย่างใกล้ชิดและพยายามอย่าให้คนไข้ได้รับรู้อะไรที่มันกระทบจิตใจเพราะหลังจากคนไข้ฟื้นแล้วอาจจะมีอาการสับสนแล้วก็ปวดศีรษะเป็นระยะๆ “ครับหมอ” “ถ้าไม่มีอะไรแล้วหมอขอตัวไปพักก่อนนะครับ” ทันทีที่หมอเดินจากไปสถานการณ์วุ่นวายก็เริ่มสงบลง “ได้ยินที่หมอพูดแล้วใช่มั้ย แม่หวังว่าทุกคนเข้าใจตรงกันนะ ถ้าจะทะเลาะกันก็รอให้น้องปิ่นหายดีก่อน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม