เช้าวันต่อมา..
เด็กหญิงในชุดนักเรียนอนุบาลค่อยๆย่องเข้าไปยังห้องนอนของผู้เป็นพ่อโดยที่ไม่มีใครรู้ เมื่อเด็กหญิงเห็นว่าเจ้าของห้องนั้นหลับสนิทอยู่จึงจุ๊บไปที่แก้มสากหนึ่งทีจากนั้นก็เตรียมเดินออกไป
“ปัด ปัดมาหาพี่อีกแล้ว”ส่วนชายหนุ่มเมื่อโดนสัมผัสตัวก็ค่อยๆเปิดเปลือกตา แต่แล้วภาพตรงหน้าก็ทำให้เขาเผยรอยยิ้มออกมาพร้อมกับโผเข้ากอดเด็กหญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าไว้แน่น
“ปล่อยนะคะหนูหายใจออก”
“ไม่ พี่จะไม่ปล่อยให้ปัดจากพี่ไปอีก”ชายหนุ่มเข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าเป็นเพียงความฝันเนื่องจากที่ผ่านมาเขาก็ฝันถึงน้องสาวที่จากไปแล้วในลักษณะเช่นนี้ แต่ทุกครั้งน้องสาวก็จะมาในรูปแบบร้องไห้บ้างมาส่งยิ้มให้บ้างแล้วเดินหายจากไปนั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขากอดเด็กหญิงไว้แน่น
“คุณพ่อคะน้องปิ่นหายใจไม่ออก”
ชื่อของเด็กหญิงทำให้เขาได้สติกลับคืนมาแต่ก็อดไม่ได้ที่จะตบหน้าตัวเองเพื่อทดสอบว่ากำลังฝันอยู่หรือไม่
“คุณพ่อเป็นอะไรคะ”
“เข้ามาได้ยังไง”
“ก็คุณพ่อไม่ได้ล็อคประตู”
“ไม่มีใครสั่งสอนหรอว่าก่อนเข้าห้องคนอื่นต้องเคาะประตูก่อน แล้วต้องขออนุญาตด้วย”
“หนูขอโทษค่ะ”
“ออกไปได้แล้ว และต่อไปอย่าเข้ามาในห้องฉันอีก”ชายหนุ่มไล่ลูกสาวออกไปอย่างไม่ใยดี ส่วนเด็กหญิงก็รีบเดินออกจากห้องของผู้เป็นพ่อด้วยความหวิดหวัง
…..
“นั่นเธอกำลังทำอะไรกับรถฉัน!”ชายหนุ่มกระชากแขนเด็กหญิงที่กำลังยืนวาดรูปตัวการ์ตูนด้วยปากกาเคมีหลากสี
“คุณพ่อคะน้องปิ่นเจ็บ”
“เดี๋ยวเธอจะได้เจ็บกว่านี้”พูดจบเขาก็เดินตรงไปหักกิ่งต้นไม้เล็กๆ
“คุณพ่อคะหนูกลัว!เด็กหญิงเริ่มปล่อยโฮเมื่อเห็นกิ่งไม้ที่ผู้เป็นพ่อถือ
“อยู่บ้านนี้คงมีแต่คนตามใจและไม่มีใครกล้าตีสินะ ฉันนี่แหละจะเป็นคนตีคนแรก เพี้ย!
“คุณพ่อน้องปิ่นเจ็บ”
“เจ็บสิดีต่อไปจะได้จำ เพี้ย!ๆ”พูดจบเขาก็ฟาดกิ่งไม้ไปที่ก้นของเด็กหญิงอีกสองครั้งติด
“คุณแม่! คุณแม่อยู่ไหนช่วยน้องปิ่นด้วย”เด็กหญิงที่กำลังโดนผู้เป็นพ่อตีร้องไห้โฮกลางสนามหญ้า พร้อมกับตะโกนขอความช่วยเหลือจากผู้เป็นแม่
“น้องปิ่น!”ส่วนทางด้านหญิงสาวที่กำลังคุยธุระอยู่รีบตัดสายทิ้งทันทีเมื่อได้ยินเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือจากลูกสาว
“ฉันแค่ตีเพื่อสั่งสอน และนี่มันนี่มันยังน้อยไปด้วยซ้ำสำหรับสิ่งที่เธอทำลงไป”พูดจบชายหนุ่มก็เดินไปที่รถแล้วทิ้งให้เด็กหญิงยืนร้องไห้สะอึกสะอื้นเพียงลำพัง
“คุณพ่อน้องปิ่นของโทษ”ด้วยความที่เด็กหญิงกลัวผู้เป็นพ่อโกรธแล้วไม่ยอมกลับมาที่บ้านอีก เธอจึงรีบวิ่งตามร่างใหญ่ที่กำลังสตาร์ทรถ
“น้องปิ่นระวัง!”ส่วนทางด้านหญิงสาวที่เพิ่งมาถึงก็เห็นว่ารถยนต์กำลังจะถอยชนร่างเล็ก เธอจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยลูกสาวพร้อมกับตะโกนด้วยความตื่นตระหนก แต่แล้วทุกอย่างมันก็สายเกินไปเมื่อร่างเล็กถูกรถยนต์สปอร์ตคันหรูถอยชนด้วยความเร็ว ส่วนร่างเล็กก็นอนสลบจมกองเลือด
“กรี๊ด!”หญิงสาวกรีดร้องแล้วเดินไปคว้าตัวลูกสาวเข้ามาไว้ในอ้อมกอดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา
“ผมไม่ได้ตั้งใจ”ส่วนทางด้านชายหนุ่มเมื่อรู้ตัวว่าได้ถอยชนร่างเล็กจึงรีบดับเครื่องยนต์แล้วเปิดประตูลงไปดู แต่แล้วภาพตรงหน้าก็ทำเอาชายหนุ่มเข่าแทบทรุด และเขาก็ทำได้เพียงแสดงความบริสุทธิ์ใจ
“ไม่ต้องมาแก้ตัว! เพราะถึงยังไงมันก็ฟังไม่ขึ้น และฉันก็ไม่ได้โทษคุณคนเดียวหรอกนะ ฉันโทษตัวเองด้วยที่ปล่อยให้แกเกิดมา”หญิงสาวนึกย้อนกลับไปถึงคำพูดของเขาที่เคยพูดไว้ตอนที่เธอโดนเขาไล่ให้เอาเด็กออกถ้าไม่งั้นเขาจะเป็นคนลงมือฆ่าลูกด้วยตัวเขาเอง และคำนั้นยังคงฝังใจหญิงสาวมาจนถึงทุกวันนี้
“ผมรู้ตัวว่าผมเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่อง แต่สาบานได้ว่าผมไม่ได้ตั้งใจถอยชนแก”
“ใครก็ได้ช่วยโทรเรียกรถฉุกเฉินที”
“ผมโทรให้แล้ว สักพักพวกเขาคงมาถึงนี่”
“ช่วยอยู่ห่างฉันกับลูกได้มั้ย เพราะฉันรู้สึกไม่ปลอดภัยเมื่อมีคุณอยู่ด้วย”หญิงสาวร้องไห้เสียงสั่นด้วยความรู้สึกผิดที่ไม่สามารถปกป้องร่างเล็กที่อยู่ในอ้อมกอด