แต่ทว่าสายตาของเธอเคลื่อนไปหยุดที่มุมหนึ่งของห้อง แจกันคริสตัลทรงสูงจากมูราโน่ ยังคงตั้งอยู่ที่เดิม บนโต๊ะกลมข้างโซฟาตัวโปรดริมหน้าต่างกระจก ในนั้นคือกุหลาบแดงห้าดอกที่เริ่มแย้มกลีบเต็มที่ ราวกับเบ่งบานเพื่อโลกที่ไม่เคยหยุดโหดร้าย น้ำผึ้งมองมันเงียบ ๆ ริมฝีปากขบเม้มแน่นเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว
ดอกกุหลาบสีแดง คือ ดอกไม้ที่เธอรักมากที่สุด มันเป็นสัญลักษณ์ของความรักในแบบที่เธอเคยเชื่อ…เคยศรัทธา เป็นดอกไม้ที่เขา…คนที่เธอเคยรักที่สุด เคยมอบให้เธอทุกวันศุกร์ตอนเรียนปีสาม ดลเป็นชายหนุ่มอบอุ่น ฉลาด พูดจาอ่อนโยน และมีความฝันคล้ายเธอ เธอเคยคิดว่า ดลคือคนที่ใช่ คนที่เธอจะฝากชีวิตไว้ด้วย อยากแต่งงานด้วย สร้างครอบครัวที่อบอุ่นอย่างที่เธอใฝ่ฝัน
แต่สุดท้าย… เมื่อเธอกลับมาจากอังกฤษ หลังเรียนจบปริญญาโทด้าน International Business
เธอเปิดประตูเพนท์เฮ้าส์หลังนี้ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความคิดถึง
แต่สิ่งที่เธอพบกลับไม่ใช่ความยินดี ไม่ใช่ชายที่วิ่งมากอดเธอด้วยรอยยิ้ม
แต่มันคือเสียงหัวเราะเบา ๆ จากห้องนอน กลิ่นน้ำหอมที่เธอไม่ใช้ และ ชุดนอนผ้าซาตินสีงาช้างของเธอเองถูกทิ้งกองอยู่บนปลายเตียง พร้อมกับจีสตริงและบราเซียสีแดงสดถูกโยนอย่างไร้ทิศทาง เธอเดินช้าๆ เข้าไปในห้องนอน ด้วยหัวใจที่เต้นแรงไม่ใช่เพราะความตื่นเต้น แต่เพราะลางสังหรณ์บางอย่างที่ทิ่มแทง
ภาพที่เห็น…ทำให้โลกทั้งใบของเธอเงียบงัน ดลกับแอนนี่ที่เธอรักและไว้ใจที่สุด คนที่เธอเล่าเรื่องความรักให้ฟังแทบทุกวัน คนที่เธอเคยให้กุญแจสำรองของเพนท์เฮ้าส์ไว้…เผื่อมีอะไรฉุกเฉิน
คนที่เธอเคยเรียกว่าเหมือนพี่สาว
เสียงครางกระเส่าของเธอที่หอบเหนื่อยครางกระเส่าหวาน และเสียงตอกกระแทกใส่กลีบร่องของเธอไม่หยุด มันทำให้เธอทนไม่ไหว คว้าปืนของบอดี้การ์ดหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างเธอสองคน ยิงใส่แจกันหัวเตียงเฉียดหัวของดลและแอนนี่ไปเพียงนิดเดียว แอนนี่กรีดร้องด้วยความตกใจ มองไปที่น้ำผึ้งเช่นเดียวกับดลที่ดูตกใจ
“ผึ้ง” แอนนี่พูดชื่อน้ำผึ้ง คว้าผ้าห่มมาปิดเรือนร่างเปลือยเปล่าของเธอ
“พวกมึงสองตัวกล้ามาก กล้าจริงๆ” น้ำผึ้งพูดด้วยน้ำเสียงโทนต่ำโกรธจัดกัดกรามกรอดๆ
“น้ำผึ้ง ฉันขอโทษ ฉันขอโทษจริงๆ นะ” แอนนี่พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
“ผึ้ง เราอธิบายได้” ดลพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาอยากให้น้ำผึ้งใจเย็นลง
“วายุ ลากตัวอีกชั่วนี่ออกไป เสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียวก็อย่าให้มันใส่ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่มันใส่ มันเป็นของฉัน” น้ำผึ้งพูดเสียงเรียบ บอกบอดี้การ์ดหนุ่มของเธอ
“ครับคุณหนู” วายุรับคำสั่งลากตัวแอนนี่ขัดขืนในทันที
“ผึ้ง…กูบอกขอโทษแล้วไงจะเอาอะไรอีก” แอนนี่พูดด้วยน้ำเสียงโกรธจัด น้ำผึ้งใช้ปลายกระบอกปืนตบที่ใบหน้าของแอนนี่อย่างแรง หน้าของแอนนี่หันตามกระบอกปืนเลือดลบปากของเธอ
“อีแอนนี่มึงไม่มีสิทธิ์ที่จะมาขึ้นเสียงกับกู อีเหี้ย เหี้ยทั้งคู่ “น้ำผึ้งพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน แล้วหันไปมองดลที่นั่งอยู่บนเตียง บอดี้การ์ดของเธอล็อกมือเขาเอาไว้” เอามันออกไปชะ แล้วอย่ามาให้กูเห็นหน้าอีก” น้ำผึ้งพูดจบแล้วบอดี้การ์ดลากแอนนี่ออกไป แอนนี่พูดอีกว่า
“ผัวมึง มันก็คือผัวกู กูแอบเย็ดกันมาตั้งหลายปี สมน้ำหน้ามันสนสะพาย ฮาฮาฮา” แอนนี่พูดเยาะเย้ย
“วาโย ทำตามกฎของตระกูลเรา” น้ำผึ้งพูดจบแล้วก้าวเดินออกไปโดยไม่หันหลังกลับมามอง
“พวกมึงจะทำอะไรกู…อ๊าก…”
เสียงร้องของดลดังขึ้น เมื่อบอดี้การ์ดของเธออีกสองคนก้าวเดินเข้าไป เช่นเดียวกับเสียงก่นด่าของแอนนี่ ที่เธอออกจากบ้านของน้ำผึ้งด้วยความอับอาย เพราะเธอนั้นไม่ได้สวมสิ่งใดออกไปเลย
น้ำผึ้งเดินไปที่แจกันแล้วโยนแจกันทิ้งลงกับพื้นในทันที เศษแก้วแตกออกเป็นเสี่ยงๆ กระจัดกระจายลงบนพื้น แม้ว่าเวลาผ้าไปถึงสามปี เธอยังคงจดจำเรื่องราวในวันนั้นได้ดี
สิ่งของที่อยู่ในห้องถูกปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ของเก่าถูกโละทิ้งแม้กระทั่งเสื้อผ้าแบรนด์ราคาแพง ของเธอก็ตาม
พี่ชายของเธอบอกว่าเปลี่ยนเพนท์เฮ้าส์ให้ใหม่ไหม จะหาที่ดีกว่านี้ให้เธออยู่หรือจะกลับมาอยู่บ้านของเราก็ได้ จะไม่ต้องอยู่ในห้องที่แฟนเก่าของเธอ มาเล่นชู้กับเพื่อนของเธอ
น้ำผึ้งบอกพี่ชายว่าขอให้เธออยู่ที่นี่จะได้เตือนใจว่าอย่ารักใครง่ายๆ ถ้าไม่อยากเจ็บอีก