“เตอร์ทำใครท้อง?” สิ้นเสียงเอ่ยถามคาร์เตอร์ก็รีบหันไปทางด้านหลัง เห็นพ่อกับแม่ของตนยืนมองด้วยใบหน้าสงสัย จึงตอบโกหกกลับไปด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์ เมื่อนึกถึงเรื่องราวที่รับรู้เมื่อครู่
“ไม่มีแม่”
“ไม่มีได้ไง แม่ได้ยินเตอร์คุยโทรศัพท์เมื่อกี้”
“เพื่อนมันแกล้งเฉย ๆ”
“ไอ้เตอร์! ตอบความจริง” คนเป็นพ่อที่ยืนฟังเงียบ ๆ เมื่อเห็นอาการของลูกชายก็ดูออกว่ากำลังโกหกอยู่ จึงพูดเสียงดุพร้อมกับถามคาดคั้นด้วยท่าทีเคร่งขรึม เพื่อให้ลูกชายเกรงกลัว คาร์เตอร์จึงถอนหายใจแรง ๆ แล้วตอบความจริงออกไปด้วยท่าทีหงุดหงิด
แม้ไม่อยากบอกก็ตาม เพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่...
“ผู้หญิงที่ผมเคยนอนด้วยเธอบอกว่าท้องกับผม แต่ผมมั่นใจว่ามันไม่ใช่ลูกของผมแน่นอนเพราะเอาออกทัน”
คาร์เตอร์ตอบอย่างมั่นใจเพราะรู้ดีว่าตัวเองไม่พลาดแน่นอน คนเป็นพ่อและแม่ได้ยินเช่นนั้นก็อึ้งไม่น้อยกับคำตอบของลูกชาย เพราะไม่คิดว่าลูกของตนจะเห็นแก่ตัวและไม่มีความเป็นลูกผู้ชายเช่นนี้ ทั้งที่ยังไม่รู้ความจริงแต่ก็ปัดความรับผิดชอบแล้ว
ชนิตรา จึงพูดบอกคาร์เตอร์ด้วยน้ำเสียงเข้มดุ ขณะใบหน้านั้นจริงจังกว่าครั้งไหน ๆ
“เรียกผู้หญิงคนนั้นมาคุยกับแม่ที่บ้านหน่อย”
“แม่จะคุยให้เสียเวลาทำไม”
“ถ้าไม่ใช่ลูกแกจริง ๆ แล้วแกจะกลัวอะไร หรือกลัวเป็นลูกผู้ชายที่จะได้รับผิดชอบ” คำพูดเย้ยหยันของพ่อที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ทำเอาคนที่ไม่ค่อยสนใจความรู้สึกของคนอื่น เอาตัวเองเป็นใหญ่ตอบกลับด้วยท่าทีไม่พอใจ
“ถ้าอยากคุยมาก เดี๋ยวผมโทรนัดให้ แต่ถ้าไม่ใช่ลูกผม ผมขอพักงานหนึ่งปี” พูดจบคาร์เตอร์ก็เดินไปยังรถสปอร์ต ก่อนจะขับออกจากบ้านด้วยความเร็วบ่งบอกถึงอารมณ์ภายในใจ โดยมีสายตาของคนเป็นพ่อและแม่มองด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง พร้อมกับถอนหายใจแรง ๆ กับลูกชายคนโตที่ถูกเลี้ยงมาแบบตามใจ จนทำให้นิสัยเสียเกินเยียวยา
ทางด้านนับหนึ่งเมื่อคาร์เตอร์ตัดสายเธอก็ไม่ได้ติดต่อกลับ เพราะมัวสนใจกับเสียงบันทึกของเขาที่อยู่ในไอแพด จากนั้นก็จัดการส่งเข้าโทรศัพท์มือถือให้เรียบร้อย เพื่อเป็นหลักฐานในวันที่เขาปฏิเสธเธอ ขณะที่ปากอวบอิ่มนั้นพูดพึมพำ
“อย่างนายต้องเจอฉัน คิดจะทิ้งให้ฉันลำบากคนเดียวแล้วตัวเองอยู่สุขสบายฝันไปเถอะ”
หลังจากนอนคิดไม่ตกว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องทั้งหมดต่อดี มือเล็กจึงหยิบนามบัตรอีกคนขึ้นดูอีกครั้ง พอเห็นชื่อบริษัทที่ปรากฎบนกระดาษ นับหนึ่งก็รีบค้นหา พอรู้แหล่งที่ตั้งของบริษัทคาร์เตอร์ ก็ครุ่นคิดว่าจะไปบุกดีไหม
แต่ถ้าทำแบบนั้นคงไม่ใช่เรื่องดีแน่...
“เอาไว้เป็นวิธีสุดท้ายดีกว่า” สิ้นเสียงเหนื่อยหน่ายกับเรื่องราวที่พบเจอ จู่ ๆ โทรศัพท์ที่วางอยู่ด้านข้างก็ดังขึ้นนับหนึ่งจึงเอื้อมไปหยิบ พอเห็นมิวโทรเข้ามาเธอจึงรีบกดรับสาย
“ฮัลโหล”
(เป็นยังไงบ้างวะ มึงคุยกับผู้ชายคนนั้นยัง)
“คุยแล้ว” นับหนึ่งตอบพร้อมกับพยายามฟังเสียงมิว เนื่องจากร้านเหล้าที่พวกเธอทำงานอยู่เปิดเพลงเสียงดัง ซึ่งมิวก็เหมือนจะรู้จึงรีบบอก
(แป๊บ เดี๋ยวกูเดินไปหลังร้านก่อน) นับหนึ่งไม่ได้ตอบกลับไปนอกจากนอนรอกระทั่งเสียงเพลงเบาลง ก็ได้ยินมิวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสงสัย
(ผู้ชายคนนั้นมันว่ายังไง?)
“มันไม่ยอมรับ ทั้งที่มันแอบสดไม่ใส่ถุง”
(โคตรเหี้ยเลย เหี้ยจริง ๆ มึง) มิวได้ยินเช่นนั้นก็โมโหจนเลือดขึ้นหน้าแทนนับหนึ่ง จนอยากไปกระชากหัวคาร์เตอร์ที่ทำกับเพื่อนรักของเธอแบบนี้ ซึ่งก็ไม่ต่างจากนับหนึ่งเมื่อได้ยินเช่นนั้นหัวใจดวงน้อย ๆ ก็ร้อนรุ่มราวกับมีคบเพลิงนับร้อยสุมอยู่ในอก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากอดกลั้นแล้วรอวันเอาคืน
(แล้วมึงจะเอายังไงต่อ?)
“กูจะลากคอมันมารับผิดชอบให้ได้”
(ดี กูสนับสนุนและพร้อมช่วยมึงเต็มที่) มิวพูดพร้อมกับตบขาตัวเองราวกับเชียร์มวย เมื่อถูกใจในคำตอบของนับหนึ่ง ในขณะนับหนึ่งนอนด้วยความรู้สึกตื่นตันใจ ที่อย่างน้อยในวันที่เธออ่อนแอแต่ก็ยังมีเพื่อนรักที่ไม่ทิ้งเธอไปไหน
(เริ่มจากอะไรดีวะ ไปบุกบ้านมันเลยไหม?)
“กูไม่รู้บ้านนายนั่นอยู่ไหน” มิวนั่งคิดครู่หนึ่งกระทั่งบาร์ที่นับหนึ่งกับคาร์เตอร์เจอกันก็แวบเข้ามาในหัว
(งั้นก็ตามจากบาร์ที่เราเจอไปบ้าน)
“เออจริง” เนื่องจากมีเรื่องมากมายเต็มสมอง ทำให้นับหนึ่งนึกไม่ถึงเรื่องนี้ พอได้ยินเช่นนั้นก็เบะปากพูดด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ
(พรุ่งนี้กูออกแทร็กพอดี เดี๋ยวกูพามึงไปเอง)
“ขอบใจมึงมากนะมิว ที่ไม่ทิ้งกูไปไหน”
(มึงเพื่อนกู จะให้กูทิ้งมึงไปไหนได้วะ) สิ้นประโยคนั้นนับหนึ่งก็ซาบซึ้งใจมากจนขอบตาร้อนผ่าว แต่ก็พยายามอดกลั้นเอาไว้เพราะต่อจากนี้เธอต้องเข้มแข็งให้มาก
เพราะจะเป็นแม่คนแล้ว...
จากนั้นทั้งสองก็คุยกันอีกสักพัก หลังจากวางสายนับหนึ่งก็ไปอาบน้ำอาบท่า แล้วพักผ่อนเพื่อให้ผ่อนคลาย เนื่องจากวันนี้เจอเรื่องเครียดมากมายแล้ว จึงกลัวจะส่งผลกระทบกับเด็กในท้อง...
อีกฝั่งหนึ่งในบาร์หรูที่เต็มไปด้วยนักดื่มออกมาท่องราตรีในยามค่ำคืน ขณะชายหนุ่มร่างสูงโปร่งใบหน้าหล่อเหลาแต่มีความทะเล้นขี้เล่น กำลังนั่งดื่มและพูดกับหญิงสาวสองคนที่คอยบริการตัวเขาและเพื่อนอยู่นั้น พอเห็นคาร์เตอร์เอาแต่กดโทรศัพท์ด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ไคโรจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“เป็นอะไรวะไอ้เตอร์ กูเห็นมึงเอาแต่สนใจโทรศัพท์”
“กูกำลังหาข้อมูลตรวจดีเอ็นเออยู่” ริมฝีปากหนาเอ่ยตอบ ก่อนจะโยนโทรศัพท์ลงยังโต๊ะกลางโซฟา แล้วรับแก้วเหล้าจากหญิงสาวข้างกาย ที่บริการตนในค่ำคืนนี้มาดื่มด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
“ตรวจดีเอ็นเอใครวะ?”
“มึงจำผู้หญิงที่กูวันไนต์เมื่อเดือนที่แล้วได้ไหม”
“ใครวะ? มึงวันไนต์หลายคนจัด” หากนับตั้งแต่รู้จักกันมาคนที่มันวันไนต์ด้วยคงเรียงแถวตั้งแต่ภาคเหนือยันภาคใต้แล้ว
“เหมือนมึงนั่นแหละ”
“เออกูไม่เถียง ว่าแต่ใครวะ?”
“คนล่าสุดที่กูเจอที่นี่”
“อ๋อ คนสวยคนนั้น ทำไมวะ อย่าบอกว่ามึงติดใจสาวซิง”เนื่องจากนาน ๆ ทีจะได้เจอคนบริสุทธิ์ ทำให้อีกคนไม่อาจเก็บไว้ได้ จึงป่าวประกาศให้เพื่อนสนิททั้งสองรู้ว่าตัวเขาเจอของดีเพื่ออวด
“เปล่า ยายนั่นโทรมาบอกกูว่าท้อง”
“เชี่ย! มึงกำลังจะได้เป็นพ่อคนแล้วเหรอวะ?”
“พ่อคนห่าอะไร กูมั่นใจว่ากูดึงออกทัน” พอได้ยินเช่นนั้นคนที่มั่นใจในตัวเองก็ตอบปฏิเสธกลับไปทันควัน พร้อมกับยกแก้วแอลกอฮอล์ขึ้นดื่มด้วยท่าทีหงุดหงิดกับคำพูดของเพื่อน
“ถ้ามึงมั่นใจแล้วจะนั่งเครียดทำห่าอะไรวะ หมดสนุกฉิบหาย”
“ก็แม่กูอยากคุยกับยายนั่น”
“ก็คุยไปดิ กลัวห่าอะไร มึงไม่ใช่พ่อเด็ก”
“ยังไม่ตรวจกูปฏิเสธได้เหรอวะ”
“เออก็จริงของมึง เพราะแม่มึงต้องรอให้ตรวจก่อนแน่” สิ้นคำพูดไคไร พื้นที่บริเวณนั้นก็ตกอยู่ในความเงียบ มันยิ่งทำให้คนที่ไม่พร้อมรับผิดชอบใครว้าวุ่นใจ ความคิดตีกันจนยุ่งเหยิงกระทั่ง...
“แต่ถ้ามึงมั่นใจว่าไม่ใช่ลูกมึง มึงก็ไม่ต้องให้ยายนั่นไปเจอดิ”
“กูมั่นใจไม่ใช่ลูกกูแน่ อีกอย่างยายนั่นก็ทำงานกลางคืนด้วย ไม่รู้ไปเอากับใครต่อจากกูหรือเปล่า”
“มึงก็จ้างคนอื่นไปแทนดิเรื่องง่าย ๆ ต้องให้กูบอก” ไคโรพูดพร้อมกับยกไหล่ด้วยท่าทีมั่น ๆ กับความฉลาดของตัวเอง คาร์เตอร์เห็นเช่นนั้นก็หมั่นไส้ไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากเอ่ยขอบคุณ
“จริงวะ! ขอบคุณสำหรับแผนเหี้ย ๆ ของมึงมากนะ”
“ไม่เป็นไร ขอบคุณสำหรับคำชมของมึงด้วย ถุย!” สิ้นเสียงหยอกเย้าทั้งสองก็หัวเราะด้วยความชอบใจ จากนั้นคาร์เตอร์ก็กลับมานั่งคิดไม่ตกอีกครั้ง เพราะไม่รู้จะจ้างผู้หญิงที่ไหนไปอ้างแม่ของเขาว่าเป็นนับหนึ่ง กระทั่งได้ยินเสียงยั่วยวนทางด้านข้าง...
“เติมเหล้าอีกไหมคะ” คาร์เตอร์จึงหันไปมองหญิงสาวที่บริการเขา ทำให้นึกออกทันทีว่าจะเอาใครไปอ้างแม่
คิดได้เช่นนั้นก็ไม่รอช้า คาร์เตอร์รีบคุยถึงแผนการกับเมรีและแลกเบอร์โทรศัพท์กับเธอให้เรียบร้อย จากนั้นก็หันไปเอ่ยบอกไคโร
“กูกลับก่อนนะ”
“อ้าว! ทำไมมึงรีบกลับวะ”
“ปวดหัว” พูดจบคาร์เตอร์ก็ล้วงกระเป๋าเดินออกไปทันที ทิ้งไคโรนั่งงุนงงกับชีวิตว่าจะเอายังไงต่อ พออยู่คนเดียวก็ไม่อารมณ์ดื่มต่อ จึงเลือกกลับคอนโดเช่นกัน เมื่อเดินออกมาข้างนอกบาร์ คาร์เตอร์ก็ล้วงบุหรี่ขึ้นมาคาบแล้วจัดการจุดบุหรี่แล้วสูบสารนิโคตินเข้าปอดหนัก ๆ สองสามครั้ง จากนั้นก็โยนทิ้งลงพื้นแล้วเดินตรงไปยังรถสปอร์ตสีดำ ก่อนจะขับออกจากบาร์อย่างรวดเร็วมุ่งตรงกลับบ้านทันที...