หลังจากนอนศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฝากครรภ์ว่าต้องเตรียมตัวและใช้เอกสารอะไรบ้างคร่าว ๆ แล้ว นับหนึ่งก็วางโทรศัพท์ลงด้านข้าง ก่อนที่มือเล็กจะเลื่อนไปจับยังหน้าท้องเล็ก ๆ ของเธอที่ตอนนี้ยังไม่นูนออกแม้แต่น้อย ลูบเบา ๆ ขณะในหัวนั้นเต็มไปด้วยความคิดมากมายกับอนาคตของเธอและลูก หลังจากคลอดจะเอาอย่างไรต่อ
เนื่องจากเธอไม่ญาติให้ช่วยเลี้ยงดู ไหนเธอจะต้องทำงานอีก จึงทำให้นับหนึ่งคิดไม่ตก
“คนที่ลำบากกว่าเรายังเลี้ยงได้เลย ทำไมมึงจะเลี้ยงไม่ได้วะหนึ่ง” เมื่อให้กำลังใจตัวเอง นับหนึ่งก็เลือกทิ้งเรื่องในอนาคตแล้วมองแค่ปัจจุบันแทน จากนั้นก็ค่อย ๆ หลับตาลง ไม่นานก็หลับไป
แต่เพราะไม่คุ้นชินกับสถานที่ทำให้นับหนึ่งหลับ ๆ ตื่น ๆ อีกทั้งรู้สึกคอแห้งเพราะนอนให้ห้องแอร์เป็นเวลานาน ปกติอยู่หอพักเธอจะสลับกับพัดลม ทว่าที่นี่ไม่มีพัดลม
มือเล็กหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ด้านข้างกดดูเวลายังหน้าจอ พอเห็นว่าเพิ่งเที่ยงคืนซึ่งยังไม่ดึกมาก นับหนึ่งจึงดันตัวลุกขึ้นจากที่นอน แล้วเดินไปเปิดไฟจนภายในห้องสว่างจ้า จากนั้นก็ออกไปข้างนอกแล้วลงไปข้างล่างเพื่อดื่มน้ำ
ร่างเล็กเดินไปยังบันไดผ่านแสงสลัว เนื่องจากทั้งบ้านเปิดเพียงไฟทางเดินเท่านั้น ใช้เวลาไม่นานก็เดินถึงตีนบันไดเธอจึงเปิดแฟลชโทรศัพท์ แล้วเข้าไปในครัวจากนั้นก็หาน้ำดื่ม
ทางด้านคาร์เตอร์เมื่อกลับจากดื่มก็เตรียมเดินขึ้นไปบนห้อง ทว่าดวงตาดันสะดุดเห็นแสงไฟในห้องครัว ตาคมกริบจึงหรี่มองด้วยความสงสัยว่าใครทำอะไรข้างในนั้น ใช่คนในบ้านหรือเปล่าหรือเป็นโจรกันแน่ ร่างสูงจึงเปลี่ยนเส้นทางจากบันไดเป็นครัวแทน
ใช้เวลาไม่นานเท้าสองข้างก็หยุดยังหน้าห้องครัว ก่อนจะเห็นนับหนึ่งกำลังยืนกินน้ำอยู่ จึงกอดอกยืนมองเธอด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ขณะตาคมกริบไล่มองสำรวจเรือนร่างของเธอ แล้วยกยิ้มมุมปากด้วยความชอบใจกับทรวดทรงองค์เอวของเธอ ที่ยอมรับว่าทำเอาเขาถูกใจและอยากครอบครองไม่น้อย
ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้นเบื่อแล้วก็ทิ้ง…
ทางด้านนับหนึ่งเมื่อกินน้ำเสร็จก็เอาแก้วไปเก็บเข้าที่ จากนั้นก็หันไปทางด้านหลัง พอเห็นคาร์เตอร์ยืนอยู่ก็ทำเอาตกใจจนสะดุ้งพร้อมกับอุทาน
“อุ๊ย! คิดว่าคน”
“ไม่ใช่คนแล้วเธอคิดว่าเป็นอะไร?”
“ไม่รู้สิ นายอยากได้คำตอบไหนก็เติมเอา” นับหนึ่งตอบด้วยท่าทีกวน ๆ ก่อนจะเตรียมเดินผ่านคาร์เตอร์ออกไปข้างนอกครัว ทว่าโดนอีกคนขวางทางไม่ให้ไปพร้อมกับพูดด้วยใบหน้าเย้ยหยัน ขณะกลิ่นเหล้ากระทบจมูกเธอเหม็นหึ่ง
“อย่าปากดีให้มาก ถ้ายังไม่รู้จักฉันดี”
“ถ้าฉันไม่ได้อยากรู้จักนาย งั้นฉันปากดีได้ใช่ไหม”
“หึ! ไม่อยากรู้จัก แต่วิ่งแจ้นมาให้รับผิดชอบถึงที่ ย้อนแย้งนะ” คาร์เตอร์พูดพร้อมกับหลุบตามองลงยังหน้าอกของนับหนึ่ง ก่อนจะเหยียดยิ้มแล้วช้อนตาขึ้นสบกับเธอแล้วพูดต่อ
“หรือที่จริงแค่หาข้ออ้างเพราะอยากให้ฉันซ้ำ ติดใจฉันจนอยากกลับมาอ้าขาให้ฉันเอาอีกรอบก็พูดมาเถอะ”
“ขอโทษนะมั่นใจตัวเองไปหรือเปล่า ถ้านายไม่ทำฉันท้อง ฉันไม่มาให้นายเห็นหน้าฉันหรอก เพราะเซ็กซ์ของนายมันห่วยแตกมาก รูดกับเสายังเสียวกว่าเอากับนายเลย”
“เหรอ! งั้นวันนี้ซ้ำหน่อยเป็นไง ฉันอยากรู้เหมือนกันว่าเสากับเอ็นของฉันอะไรมันทำให้เธอเสียวกว่ากัน” คาร์เตอร์ไม่พูดเปล่าเลื่อนมือไปกระชากแขนนับหนึ่งให้ขยับเข้าไปใกล้ จนเธอเซไปกระแทกกับแผงอกกำยำของเขา ขณะมือหนาเลื่อนจับเอวคอดกิ่วลูบไล้ผิวเนียนนุ่มอย่างหลงใหล ทั้งที่ดวงตาจ้องมองเธอไม่ละไปไหน
นับหนึ่งยืนนิ่งเพื่อใช้ความคิดครู่หนึ่ง กระทั่งคาร์เตอร์กำลังจะปลดซับในของเธอ ใบหน้าสวยจึงเหยียดยิ้มแล้วพูดด้วยเสียงเย้ยหยัน
“อยากซ้ำเพราะติดใจฉันก็พูดมาเถอะ ไม่ต้องหาเหตุผลอื่นมาอ้างหรอก”
“สภาพ! อย่างเธอมีอะไรให้ฉันติดใจ”
“ทุกตรง! ไม่งั้นนายคงไม่อยากเอาฉันหรอก นี่ขนาดฉันท้องนะนายยังอดใจไม่ไหวเลย”
“หลงตัวเอง” คาร์เตอร์พูดพร้อมกับปล่อยมือจากแขนนับหนึ่ง แล้วดันตัวเธอออกห่างด้วยท่าทีรังเกียจ ส่วนนับหนึ่งเมื่อเป็นอิสระแล้วเธอก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป นอกจากเบี่ยงตัวเดินออกจากห้องครัว แล้วรีบเดินขึ้นไปบนห้องทันที
โดยมีคาร์เตอร์ยืนมองเธอเขม็งจากนั้นก็เดินตามเธอ เมื่อนับหนึ่งเดินถึงห้องเธอก็รีบเข้าไปข้างในแล้วล็อกห้องให้แน่นหนาทันที…
จากนั้นก็ถอนหายใจให้โล่งอกกับเรื่องราวปวดหัวที่พบเจอ นี่เพียงวันแรกเท่านั้นไม่อยากคิดถึงวันข้างหน้าเลย สงสัยเธอต้องหายาแก้เครียดรอแน่นอน…
“สู้สิวะอีหนึ่ง” เมื่อทำอะไรไม่ได้เพราะเธอเลือกแล้วก็ต้องปลอบใจตัวเองให้เดินหน้าต่อ จากนั้นก็เลือกไม่สนใจเดินไปทิ้งตัวนอนลงยังเตียงเพื่อพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปโรงพยาบาล...