พ่ายรักภรรยาแต่ง 8

2010 คำ
วันถัดมาหลังจากตื่นนอน นับหนึ่งก็รีบอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยเมื่อเห็นว่าสายแล้ว จากนั้นก็ลงไปข้างล่าง พอเท้าเหยียบยังพื้นชั้นแรกตาคู่สวยก็กวาดมองรอบตัวบ้านที่เงียบสงัด เพราะไม่มีใครอยู่เนื่องจากออกไปข้างนอกกันหมด นับหนึ่งจึงรีบเดินออกจากบ้าน เพื่อเดินทางไปยังโรงพยาบาลเพราะกลัวคนจะเยอะเสียก่อน ร่างเล็กเดินไปยังหน้าบ้านพร้อมกับกดแอปพลิเคชันเรียกรถแท็กซี่ให้มารับ หลังจากยืนรอสักพักก็ไม่มีวี่แววว่ารถคันไหนจะกดรับ ทำเอานับหนึ่งงงไม่น้อยที่ไม่มีใครรับเลย ตาคู่สวยจึงมองหารถแท็กซี่ที่เข้ามาส่งผู้โดยสารในหมู่บ้านแทน เพราะเธอไม่อยากเดินไปขึ้นหน้าหมู่บ้าน แม้ระยะจะไม่ไกลมาก ทว่าเวลานี้แดดค่อนข้างแรงเธอจึงกลัววูบ หลังจากยืนรอสักพักใหญ่ก็ไม่มีวี่แววรถแท็กซี่จะเข้ามารับส่งคนในหมู่บ้าน เนื่องจากส่วนใหญ่ลูกบ้านมีรถส่วนตัวเป็นหลัก แขนเรียวเล็กยกขึ้นมองเวลายังนาฬิกาข้อมือ เมื่อเห็นว่าสายกลัวว่าโรงพยาบาลคนจะเยอะ นับหนึ่งจึงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเดินไปยังหน้าหมู่บ้านเพื่อโบกรถแทน เพราะหากยืนรอต่อก็ไม่รู้ชาติไหนจะได้ไปโรงพยาบาลสักที ขณะที่ร่างเล็กเดินเลาะริมถนนพร้อมกับปาดเหงื่อที่เริ่มไหลย้อย ก็ได้ยินเสียงรถท่อดังคันหนึ่งอยู่ทางด้านหลัง ใบหน้าสวยจึงเตรียมหันมองเพราะถ้าหากเป็นรถแท็กซี่เธอจะได้โบกแล้วนั่งออกไปเลย ทว่าก็ยังไม่ได้หันเต็มใบหน้าเพราะรถคันดังกล่าวแล่นรถผ่านเธอไปด้วยความเร็วเสียก่อน ทำเอานับหนึ่งงงไม่น้อย ทำไมอยู่ในหมู่บ้านเขาถึงขับรถเร็วจัง แต่พอเห็นรถและป้ายทะเบียนรับรู้ว่าเป็นใคร ก็ไม่ได้แปลกใจด้วยนิสัยห่าม ๆ ไม่เกรงใจใคร นับหนึ่งจึงมองรถคาร์เตอร์นิ่ง ๆ ขณะปากอวบอิ่มพูดพึมพำ “ไม่มีความเป็นมนุษย์เอาซะเลย แถมยังไร้น้ำใจอีกต่างหาก” แม้จะไม่ได้หวังให้เขาจอดช่วย เพราะรู้ว่าคนอย่างเขามันไม่มีน้ำใจหรือสงสารใครอยู่แล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะใจจืดใจดำขนาดนี้ เมื่อเห็นรถคาร์เตอร์พ้นสายตานับหนึ่งจึงรีบเดินต่อ ทว่าจู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนจะวูบจึงหยุดยืนเพื่อตั้งสติครู่หนึ่ง จากนั้นก็รีบควานหายาดมในกระเป๋ามาสูดดม ขณะในหัวได้แต่สงสัยทำไมเธออ่อนแอจัง ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยจะวูบหรือเป็นลมเลยตั้งแต่เกิด แต่พอนึกได้ว่าว่าตัวเองท้องจึงคิดว่าอาจเป็นอาการข้างเคียงของการตั้งครรภ์ในระยะแรก พออาการเริ่มดีขึ้นนับหนึ่งจึงเดินต่อ ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็เดินถึงหน้าหมู่บ้าน ขณะกำลังจะเดินผ่านเมนเกตหรือประตูเข้าหมู่บ้าน ก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งวิ่งออกมาถามเธอด้วยใบหน้าสงสัย “จะเรียกแท็กซี่เหรอครับ?” “ใช่ค่ะ” เมื่อได้ยินคำตอบเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน ก็เดินนำหน้าเธอไปโบกรถแท็กซี่ให้ นับหนึ่งเห็นเช่นนั้นก็ประทับใจในการเอาใจใส่ของพนักงานหน้าที่นี่ไม่น้อย ไม่แปลกเลยว่าทำไมคนที่มีเงินถึงเลือกสิ่งอำนวยความสะดวกให้ตัวเอง ขณะยืนรอรถแท็กซี่ขับผ่าน พนักงานก็หันมาบอกเธอด้วยท่าทีนอบน้อม “วันหลังคุณลูกบ้านโทรมาที่นี่ก่อนได้นะครับ เดี๋ยวผมเรียกแท็กซี่เข้าไปที่บ้านให้” “โทรเบอร์ไหนเหรอคะ?” “นี่ครับ” รปภ.ยื่นนามบัตรให้เธอ นับหนึ่งจึงรีบเอื้อมมือไปรับพร้อมเอ่ย... “ขอบคุณค่ะ” ขณะเก็บนามบัตรใส่กระเป๋ารถแท็กซี่ก็ขับมาจอดข้างหน้าพอดี นับหนึ่งจึงเดินไปขึ้นรถที่รปภ. เปิดรออยู่ แล้วเอ่ยบอกคนขับรถแท็กซี่ “ไปโรงพยาบาลxxค่ะ” “ครับ” สิ้นเสียงตอบรับนับหนึ่งก็เอ่ยบอกรปภ. ของหมู่บ้านด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ขอบคุณนะคะ” “ครับ” เมื่อประตูรถปิดเรียบร้อยรถแท็กซี่ก็เคลื่อนตัวไปยังโรงพยาบาล ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็ถึงเพราะมันอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านของคาร์เตอร์ หลังจากชำระค่าโดยสารเรียบร้อยนับหนึ่งก็เดินเข้าในโรงพยาบาลที่เต็มไปด้วยผู้คน เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลรัฐจึงทำให้ผู้คนนั้นเข้าใช้บริการข้างค่อนเยอะ ร่างเล็กสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นก็ถามพนักงานที่นั่งอยู่เคาน์เตอร์... “ขอโทษนะคะแผนกสูตินรีเวชอยู่ไหนเหรอคะ?” “อาคาร์เอชั้นห้าค่ะ” พนักงานที่นับหนึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นพยาบาลหรือเปล่าบอกด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพร้อมกับชี้นิ้วไปยังลิฟต์ “ขอบคุณค่ะ” นับหนึ่งตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม จากนั้นก็เดินไปยังลิฟต์ที่มีผู้คนต่อแถวรอขึ้นอยู่ หลังจากขึ้นลิฟต์มาถึงชั้นห้าเรียบร้อย นับหนึ่งก็เดินไปถามพยาบาลที่นั่งอยู่แผนกฝากครรภ์ “พอดีมาฝากครรภ์ต้องทำอย่างไรบ้างคะ?” “เคยเข้ารักษาที่นี่ไหมคะ” “ไม่ค่ะ” “งั้นต้องไปก็ทำประวัติผู้ป่วยนอกก่อนนะคะ เสร็จแล้วนำเอกสารมาที่นี่ค่ะ” “ค่ะ” เมื่อได้ยินคำแนะนำนับหนึ่งก็รีบไปทำประวัติผู้ป่วยนอกตามที่พยาบาลบอก ซึ่งใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็เสร็จจากนั้นก็เอกสารไปยื่นยังแผนกฝากครรภ์แล้วรอพยาบาลเรียก ร่างเล็กนั่งรอด้วยความรู้สึกตื่นเต้น เพราะเป็นครั้งแรกที่มาทำอะไรแบบนี้แถมยังมาคนเดียวอีก จากนั้นก็มองคุณแม่คนอื่นที่มาฝากครรภ์ ซึ่งส่วนใหญ่มากับสามี ต่างจากเธอที่มาเพียงคนเดียว รับรู้เช่นนั้นร่างเล็กก็สูดลมหายใจแล้วพ่นให้โล่ง ก่อนจะเลือกไม่สนใจ แม้ในใจก็อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ แต่แล้วยังไงในเมื่อมันเป็นแบบนี้แล้ว ก็แค่เดินหน้าแล้วสู้ต่อ หลังจากนั่งรอกระทั่งได้ยินเรียกชื่อ... นับหนึ่งก็เดินไปหาพยาบาลแล้วทำการซักประวัติ พอเสร็จเธอก็ไปตรวจปัสสาวะและเจาะเลือดเพื่อหาโรคติดต่อที่สามารถติดต่อทางพันธุกรรม จากนั้นก็เข้าพบหมอ นับหนึ่งเดินเข้ามาในห้องตรวจด้วยความรู้สึกตื่นเต้น มือเล็กเปียกชุ่มด้วยเหงื่อ กระทั่งเห็นหมอผู้ชายซึ่งดูอายุไม่ต่างจากเธอมากนั่งรออยู่ มือเล็กจึงยกขึ้นไหว้ด้วยท่าทีนอบน้อม “สวัสดีค่ะ” “เชิญนั่งครับ” นับหนึ่งนั่งลงยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามหมอ จากนั้นก็มองหมอนั่งอ่านประวัติคร่าว ๆ ของเธอที่พยาบาลลงรายละเอียดไว้ ก่อนจะเงยหน้าแล้วเอ่ยถาม “ท้องแรกใช่ไหมครับ” “ค่ะ” “ถ้านับจากประจำเดือนครั้งสุดท้าย ตอนนี้ก็สามสัปดาห์นิด ๆ นะครับ แต่แค่ประมาณการก่อน เดี๋ยวเรามาดูอายุครรภ์ตอนอัลตราซาวนด์อีกครั้งครับ” “ค่ะ” นับหนึ่งนั่งฟังหมอหนุ่มอธิบายให้เธอฟังด้วยท่าทีสุภาพ อีกทั้งยิ้มแย้มเป็นกันเอง ทำเอาเธอผ่อนคลายและหายกังวลลงไม่น้อย “ชื่อนับหนึ่งเหรอครับ” “ใช่ค่ะ” “เพราะดีนะครับ ชื่อพร้อมเริ่มต้นใหม่เสมอ ผมชื่อหมอกรนะครับ” นับหนึ่งไม่ได้ตอบอะไรกลับไปนอกจากยิ้มเท่านั้น จากนั้นเธอก็นั่งคุยกับหมอที่กำลังจดบางอย่างลงสมุดเล่มสีชมพูขนาดเล็กกระทั่ง... “งั้นเรามาฟังเสียงคลื่นหัวใจเขาดีกว่า เชิญขึ้นเตียงแล้วเปิดเสื้อได้เลยครับ” “ค่ะ” ขานตอบจบก็ขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วเปิดเสื้อขึ้นจนเห็นหน้าท้องขาวเนียนทำเอาประหม่าไม่น้อย ความรู้สึกภายในใจเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “ตื่นเต้นไหมครับ?” “มากค่ะ” “เดี๋ยวได้ยินเสียงหัวใจน้องก็จะหายตื่นเต้นครับ แต่จะเป็นตื้นตันใจแทน” สิ้นเสียงนุ่ม ๆ นับหนึ่งก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพ่นให้ผ่อนคลาย ขณะดวงตามองหมอกรเข็นเครื่องบางอย่างมาหยุดด้านข้างแล้วเอ่ยบอก “ขอโทษนะครับ” จากนั้นก็เลื่อนมือมาจับกระโปรงยีนสั้นของนับหนึ่งแล้วดึงลงอีกนิด จากนั้นก็ทาเจลเย็น ๆ ลงยังท้องน้อยของเธอ แล้วใช้เครื่องบางอย่างกดยังหน้าท้อง ทำเอานับหนึ่งจุกเล็กน้อยทว่าไม่มาก ก่อนที่หมอกรจะขยับเครื่องนั้นไปเรื่อย ๆ กระทั่งได้ยินเสียงหัวใจดวงน้อย ๆ เต้นผ่านลำโพง ตึก ๆ ๆ ๆ ทำเอากลางอกสั่นไหว ความรู้สึกมากมายถาโถมเข้ามาจนยากจะอธิบาย ขณะขอบตานั้นร้อนผ่าว เพียงแค่ได้ยินเสียงหัวใจของเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอที่อยู่ในท้อง นอนฟังเสียงหัวใจดวงน้อย ๆ เต้นด้วยความรู้สึกพองโตใบหน้ายิ้มไม่หุบ ในหัวได้แต่คิด ไม่แปลกใจทำไมคนเป็นแม่ถึงรักลูกขนาดนี้ ลำพังเพียงแค่เธอได้ยินเสียงหัวใจยังไม่เห็นหน้าลูกของเธอ ก็ยังรักสุดหัวใจขนาดนี้ นับหนึ่งนอนฟังเสียงหัวใจลูกของเธอด้วยความตื่นเต้นและตื้นตันใจ หมอกรเห็นเช่นนั้นก็อดยิ้มตามไม่ได้ “หัวใจเต้นปกติครับ แข็งแรงดี” สิ้นเสียงนุ่ม ๆ หมอกรก็เอาเครื่องฟังคลื่นหัวใจออก จากนั้นก็เช็ดเจลยังหน้าท้องให้นับหนึ่งแล้วเอ่ยบอกด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ “เรียบร้อยแล้วครับลุกขึ้นได้เลย” “ขอบคุณค่ะ” นับหนึ่งดันตัวลุกขึ้นจากนั้นก็ดึงเสื้อลงให้เรียบร้อย แล้วกลับไปนั่งยังเก้าอี้ตัวเดิม ขณะความรู้สึกนั้นยังเอ่อล้นด้วยความสุข “นัดครั้งหน้ามาดูผลตรวจเลือดกันนะครับ พาสามีมาด้วยก็ได้ครับ” “ไม่มีสามีค่ะ” หมอกรได้ยินเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะเข้าใจความหมายที่นับหนึ่งบอก ก่อนจะปรับสีหน้าเป็นยิ้มแย้มเพื่อให้กำลังใจเธอ “ไม่เป็นไรครับ เดือนหน้าเจอกันนะครับ” “ขอบคุณค่ะ” มือเล็กยกขึ้นไหว้ก่อนจะเดินออกไปนั่งรอข้างนอก หลังจากพยาบาลลงนัดเรียบร้อย นับหนึ่งก็ไปชำระเงินและรับยา เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเธอก็นั่งรถกลับบ้าน ระหว่างเดินทางกลับนับหนึ่งก็โทรไปเล่าให้มิวฟัง เพราะตื่นเต้นและดีใจจนไม่รู้จะบอกใคร เนื่องจากชีวิตเธอมีเพียงมิวเท่านั้นที่เป็นเสมือนเพื่อนและคนในครอบครัว… ทางด้านคาร์เตอร์หลังจากไคโรโทรบอกให้ไปเอาเหล้าที่พ่อซื้อมาฝากหลังจากกลับจากเที่ยวต่างประเทศ ก็ขับรถกลับบ้านเพราะไม่รู้จะไปไหน เนื่องจากวันนี้ไม่มีเข้าบริษัท เมื่อขับรถถึงบ้านกำลังจะเลี้ยวเข้าไปข้างในก็เห็นรถแท็กซี่คันหนึ่งจอดขวางทางเข้าบ้าน มือหนาจึงบีบแตรรถด้วยท่าทีหงุดหงิด ปี้น ๆ แต่พอเห็นนับหนึ่งลงจากรถคันดังกล่าว คาร์เตอร์จึงบีบแตรรถค้าง พอเห็นเธอมองเขาด้วยสายตาไม่พอใจร่างสูงก็ยิ่งชอบใจ บีบแตรรถค้างขณะมุมปากนั้นเหยียดยิ้ม กระทั่งรถแท็กซี่ที่จอดขวางทางเข้าบ้านขับออกไปพร้อมกับประตูรั้วเปิดออก คาร์เตอร์จึงเคลื่อนรถไปข้างหน้า ขณะรถกำลังจะแล่นผ่านนับหนึ่ง มือหนาก็เปิดกระจกรถลง แล้วเหยียบคันเร่งเร่งเครื่องใส่เธอเสียงดัง ปี้น ๆ ใบหน้ายิ้มด้วยท่าทีกวน ๆ จากนั้นก็เหยียบคันเร่งรถเข้าไปในบ้าน “ประสาท มารยาทก็ไม่มี” นับหนึ่งเห็นเช่นนั้นก็ได้แต่บ่นพึมพำกับการกระทำของอีกคน จากนั้นก็เลือกไม่สนใจเดินตากแดดเปรี้ยง ๆ ไปยังบ้านหลังใหญ่…
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม