“โอ้โห นี่มันโรงพยาบาลจริงๆ เหรอวะ” ตาเอ่ยเมื่อเข้ามาในห้องพักฟื้น เธอกับฤดีมาเยี่ยมแม่ของตะวันหลังจากผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว
“แม่เป็นไงบ้างตะวัน” ฤดีเอ่ยถามด้วยความห่วงใย
“หมอบอกว่าทุกอย่างราบรื่นดี แต่ถ้าแม่มาช้ากว่านี้อีกนิดเดียวอาจจะไม่ทัน ตะวันเพิ่งรู้จากหมอว่าแม่อดทนมากแค่ไหน แม่ไม่เคยแสดงอาการอะไรให้ตะวันรู้เลย” หญิงสาวน้ำตาคลอเพราะสงสารมารดา
“แม่มาทันแล้วนะตะวัน ตอนนี้ปลอดภัยแล้วนะ”
“อือ แต่หมอบอกว่าถ้าแม่ตื่นขึ้นมามันจะปวดมาก”
“ใช่สิ ก็ผ่าเปิดหน้าอกขนาดนั้นไม่ปวดได้ไง แต่ถ้าแม่ได้พักฟื้นในสิ่งแวดล้อมดีขนาดนี้รับรองหายดีแน่ตะวัน หรูหราอะไรเบอร์นี้” เมตตาพูดขณะเดินเข้าไปสำรวจห้องน้ำ ห้องรับแขกที่แยกของไปจากห้องผู้ป่วย
“แล้วนี่ตะวันกินอะไรยัง”
“ยังเลย ตะวันกินอะไรไม่ลงเลย ตอนที่แม่เข้าห้องผ่าตัด มันกังวลไปหมด”
“ขอโทษด้วยนะที่พวกพี่ไม่ได้มาอยู่เป็นเพื่อน”
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ พี่ตากับฤดีไม่ต้องคิดมากนะ ยังไงร้านก็ต้องมาก่อนนะพี่”
“แต่เดี๋ยวพวกพี่อยู่เป็นเพื่อนจนแม่ตื่นเลยนะ พี่อยากนอนที่หรูๆ แบบนี้นานแล้วแต่ไม่คิดว่าจะเป็นโรงพยาบาลน่ะ”
“เราไปนั่งกินอะไรกันก่อนดีมั้ย” ฤดีชวนทั้งสามแล้วก็เดินไปยังห้องรับแขกปล่อยให้แม่นอนพักต่อ พวกเธอช่วยกันแกะอาหารขณะที่ป้าดาเปิดประตูห้องเข้ามา
“ป้าดา มาป้า มานั่งนี่ มากินข้าวกัน” ตารีบกวักมือเรียกหญิงวัยกลางคนให้มานั่งด้วยกัน
“พอดีเลย ป้าเอาแซลมอนมาฝาก”
“โห แซลมอน ลาภปากจริงๆ” ฤดีตาลุกวาวเพราะเธอชอบกินแซลมอนมากแต่ทว่าเงินในกระเป๋าไม่ค่อยเอื้ออำนวยนัก
“กินเยอะๆ เลยนะ” ป้าดาเปิดกล่องขนาดใหญ่โชว์ให้เห็นเนื้อปลาที่หั่นเรียงไว้อย่างสวยงาม
“เจ้านายป้าโคตรดี ไหนจะออกค่ารักษาให้แม่ตะวัน ไหนจะมีอาหารดีๆ มาให้กินตลอด ตาชักอยากจะเจอซะแล้ว” ตาพูดขณะคีบแซลมอนเข้าปากแล้วทำท่าฟินสุดๆ
ป้าดามองหน้าตะวันก่อนจะยิ้มเจื่อนๆ
“ทุกคนอย่าบอกเรื่องค่ารักษากับแม่นะ เดี๋ยวแม่จะไม่สบายใจ ให้บอกแบบที่ตะวันเคยพูดไว้”
ตะวันบอกแม่ว่าทางโรงพยาบาลต้องการกรณีศึกษาเพื่อใช้ประชาสัมพันธ์โรงพยาบาล ซึ่งแม่ได้รับคัดเลือก ตะวันกำชับไม่ให้ทางโรงพยาบาลเอ่ยเรื่องค่าใช้จ่ายกับคนไข้เด็ดขาดเพราะอาจจะทำให้อาการทรุดได้ ส่วนเพื่อนของเธอก็รู้แค่ว่าป้าดาไปช่วยคุยกับเจ้านายให้จนเค้าเห็นใจเลยช่วยค่ารักษา
“งั้นวันนี้พวกเรานอนที่นี่ดีไหม จะได้อยู่เป็นเพื่อนตะวัน ห้องตั้งกว้างขวาง” ป้าดาเอ่ย
“ดีค่ะ ฤดีกับพี่ตาเอาชุดมาแล้ว”
“ตะวันขอที่นอนเสริมแล้วจ้ะ ทางโรงพยาบาลเขาบริการอย่างดีเลย ตะวันเพิ่งรู้ว่าชีวิตของคนรวยนี่มันเหนือจิตนาการมากเลยนะ ตะวันยังจำตอนที่ผ่าไส้ติ่งได้ดี ห้องพักฟื้นห้องรวมทั้งร้อนทั้งคนเยอะ แต่ก็เข้าใจได้เนอะอันนั้นเราแทบไม่ได้จ่ายเลย ส่วนอันนี้คงแพงน่าดู”
“จริง ยิ่งพี่เห็นแบบนี้ยิ่งอยากรวย มันคือคุณภาพชีวิตที่ดีเนอะ ต่อให้ไม่อดอยากแต่ก็ไม่ได้อยากตื่นตั้งแต่ตีห้าไปรอคิวที่โรงพยาบาลหรอก”
“พวกเราต้องมีวันนั้น อย่าท้อนะทุกคน” ตะวันเอ่ยให้กำลังใจเพราะเธอเข้าใจดีว่าความจนความลำบากมันเป็นยังไง
ทั้งสี่ผลัดกันไปอาบน้ำเตรียมเข้านอน แล้วแม่ก็รู้สึกตัว
“ทุกคนแม่ตื่นแล้ว”
“เป็นไงบ้างเพียง” ป้าดาถามขณะเข้ามาดูอาการ
“สบายมากพี่ดา โถทุกคนมาอยู่ที่หมดเลยเหรอ ขอบคุณมากจ้ะ”
“แม่พักผ่อนก่อนนะ ทำใจให้สบายๆ ตะวันอยู่ตรงนี้ ตะวันจะคอยดูแลแม่เองนะ”
“ใช่ค่ะ พวกเราก็จะช่วยดูแลน้าเพียงด้วย” ฤดีเอ่ย
“ขอบคุณนะทุกคน” แม้จะเจ็บแผลผ่าตัดแต่เพียงใจก็ใจชื้นและมีกำลังใจที่เห็นทุกคน ทั้งหมดพากันนอนดูโทรทัศน์เฝ้าแม่ของตะวันจนหลับไป
ฤดีกับเมตตาตื่นแต่เช้ารีบไปขายของต่อที่ร้านแล้วตอนเย็นจะมาเยี่ยมใหม่ ส่วนป้าดานั้นยังอยู่ต่อเพราะวันนี้เป็นวันหยุด
ป้าดาออกไปนั่งดื่มกาแฟที่ริมระเบียงห้อง ตะวันเห็นแบบนั้นจึงตามออกไปคุยด้วย
“เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหมช่วงนี้” ป้าดาเอ่ยถามขณะตะวันนั่งลงบนเก้าอี้
“ไม่เหนื่อยค่ะ ป้าดาล่ะ”
“ป้าก็ปกติ”
แล้วทั้งสองก็นั่งเงียบต่อไป จนป้าดาอดถามไม่ได้
“แล้วตะวันจะต้องไปวันไหนเหรอ”
“อีกสองอาทิตย์ค่ะ”
“ป้าดาคะ เจ้านายป้าเค้าเป็นคนยังไงเหรอคะ” ตะวันอดกังวลไม่ได้เพราะเธอแทบไม่รู้จักเขาเลย
“คุณจางน่ะเหรอ สำหรับป้านะ เขาเป็นเจ้านายที่ดีมากนะ เขาดูแลลูกน้องทุกคนเป็นอย่างดี ไม่เคยเรื่องมาก แต่ป้าเองก็ไม่ได้เจอเขาบ่อยนักหรอกเพราะคุณจางน่ะงานยุ่ง”
“ทำไมเหรอตะวัน” ป้าดามองหน้าหญิงสาวอย่างเห็นใจ
“ตะวันกลัว”
“ป้าเข้าใจนะตะวัน แต่ถ้าคุณจางเป็นคนไม่ดีป้าคงทำงานกับเขาไม่ได้เป็นสิบๆ ปีหรอกนะ”
“ตะวันฟังนะ คุณจางน่ะทั้งหล่อทั้งรวย เขายังไม่เคยมีแฟนหรือภรรยาเป็นตัวเป็นตนเลย ถ้าตะวันทำได้ แม่กับตะวันจะสบายไปทั้งชาติเลยนะ”
หญิงสาวที่ได้ยินดังนั้นก็นิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยออกมา
“ป้าดาคะ คุณจางได้บอกว่าป้าดาหรือยังว่าจะให้ป้าหยุดตอนที่ตะวันไปที่นั่น”
“บอกแล้ว ตะวันไม่ต้องเป็นห่วงนะ ป้าจะดูแลแม่เป็นอย่างดี”
“ตะวันขอโทษนะคะที่ทำให้ป้าต้องหยุดงาน”
“ฮ่าๆๆๆ ขอโทษทำไมตะวัน ป้าหยุดสิดี ที่สำคัญคุณจางเขายังให้ค่าจ้างเหมือนเดิมนั่นแหละ เออนี่ตะวัน”
“คะป้า”
“ก่อนไปพบคุณจาง ตะวันไปต้องไปสปานะ ไปขัดผิวนวดตัว คุณจางเค้าชอบคนตัวหอม สะอาดๆ”
“ป้าดา!”
“ป้าจริงจังนะ ชาตินี้จะหาผู้ชายแบบนี้ได้ที่ไหนอีก” ดาริกาเกลี้ยกล่อมหญิงสาวเพราะอยากให้เธอได้ลงเอยกับเจ้านายของตนโดยหารู้ใหม่ว่าเขานั้นไม่ใช่แค่นักธุรกิจธรรมดาแต่ทว่าเป็นมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลแสนอันตราย
.....................................................
“มาแล้วครับคุณจาง รอบนี้เด็ดๆ ทั้งนั้น” ปกรณ์รีบเข้ามารายงานมาเฟียหนุ่มที่กำลังนั่งคุยงานกับผู้ร่วมลงทุนรายอื่นๆ แต่ทว่ามาเฟียหนุ่มกลับไม่มีอารมณ์ในเรื่องอย่างว่า
“ทุกท่านเชิญตามสบายเลยนะครับ วันนี้ผมขอตัวก่อน”
“สักนิดก็ไม่รับเหรอครับ” ปกรณ์ถามทีเล่นทีจริง เห็นก็จะมีแต่ปกรณ์นี่แหละที่กล้าเล่น แต่เมื่อเห็นสายตาพิฆาตจากมาเฟียหนุ่มแล้วปกรณ์ก็ล่าถอยไป
หลี่เฟยทำหน้าที่ขับรถพาจางหย่งกลับคฤหาสน์ขณะที่ปกรณ์อยู่ทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยให้ผู้ร่วมลงทุนต่อ
“แม่ของคุณตะวันผ่าตัดเรียบร้อยแล้วนะครับ ปลอดภัยดี”
“แล้วคุณจางจะให้เธอพักที่ห้องไหนครับ ผมจะได้บอกคนงานเตรียมให้”
“ห้องนอนเล็ก”
“ครับ” ลูกน้องเหลือบมองเจ้านายที่กำลังนั่งครุ่นคิดบางอย่าง
ตั้งแต่เขาทำงานมายังไม่เคยเห็นใครได้มาค้างที่คฤหาสน์เลยสักครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรก หลี่เฟยเองก็นึกภาพไม่ออกว่ามันจะเป็นอย่างไร
ทางด้านมาเฟียหนุ่มนั้นกำลังนึกถึงภาพตอนที่ผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ต่อหน้า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นผู้หญิงยืนแก้ผ้าต่อหน้า เขาผ่านเรื่องพวกนี้มานักต่อนัก แต่ทำไมถึงได้รู้สึกแปลกๆ เวลานึกถึงเรือนร่างของเธอคนนั้น เขาสลัดมันออกไปไม่ได้จนพาลทำให้หงุดหงิดหมดอารมณ์ไม่อยากนอนกับผู้หญิงคนไหนอีกนอกจาก…