เอียนพาหญิงสาวกลับมายังเพนต์เฮ้าส์ของตัวเอง ชายหนุ่มลากร่างเล็กที่ตอนนี้ทั้งร่างแทบจะจมจ่อมอยู่ในเสื้อนอกของเขา ชายหนุ่มไม่สนใจสายตาผู้คนที่เมียงมองมาในตอนที่เขาพาหล่อนขึ้นไปยังลิฟต์พิเศษตรงดิ่งไปยังชั้นสี่สิบเก้าที่พักของเขา
มธุรสาเงียบไปตลอดทางนับตั้งแต่เอียนมาพามาถึงที่นี่ เมื่อความอบอุ่นของภายในห้องแผ่ซ่าน ความเจ็บปวดก็เริ่มเสียดแทงไปตามร่างกายของเธอ ทว่าความเจ็บปวดภายนอกนั้นไม่อาจสู้ความเจ็บปวดภายในใจของเธอได้เลย และมธุรสาก็ตระหนักชัดว่าเธอได้เสนออะไรไปต่อเอียน แอดดิสัน
อาจจะเป็นความอยากเอาชนะ ความต้องการแก้แค้น และความต้องการหลุดพ้นก็เป็นได้ที่ทำให้เธอกล้าบ้าบิ่นได้ถึงขนาดนี้
ทว่าเมื่อทบทวนความรู้สึกของตนเองแล้ว มธุรสากลับพบว่าเธอไม่เปลี่ยนใจและไม่มีความลังเลใจ
นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่เธอบ้าได้ถึงขนาดนี้แต่เธอกลับไม่เสียใจ ถ้าย้อนกลับไปได้ก็คงตัดสินใจแบบนี้อีกครั้ง
มธุรสามองแผ่นหลังกว้างของคนที่เดินนำหน้า ก่อนจะรู้สึกเคว้งคว้างในวินาทีถัดมาเมื่อเขาปล่อยมือของเธอ
เอียนกดร่างเธอให้นั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่ เขาตรงไปยังโทรศัพท์ติดต่อภายใน เธอได้ยินเขาร่ายคำสั่งกับปลายสายแว่วๆ แต่ไม่ได้สนใจอะไร มธุรสาได้แต่ก้มหน้าลงมองมือตัวเองที่บีบเข้าหากันแน่น
เธอไม่รู้ว่าเอียนจะคิดอย่างไร เขาจะตอบรับข้อเสนอของเธอไหม บางทีเขาอาจจะปฏิเสธก็เป็นได้ เธออาจจะประเมินเขาผิดไปก็เป็นได้ เธอคิดอย่างสับสนกระวนกระวาย ก่อนจะสะดุ้งเมื่อรู้สึกได้ว่ามีปลายนิ้วเรียวของใครบางคนเชยปลายคางเธอขึ้น
หญิงสาวมองร่างสูงใหญ่ที่ตอนนี้มีเพียงเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนจาง ยามเมื่อเขาเคลื่อนไหวจะเห็นมัดกล้ามตึงแน่นของชายหนุ่ม เขาทรุดลงบนพื้นพรมเปอร์เซียต่อหน้าเธอ ขณะที่เริ่มเปิดกล่องยาที่คงจะเป็นสิ่งที่คนรับใช้ของเขาส่งมาให้อย่างเงียบเชียบ
ชายหนุ่มใช้ปลายนิ้วแข็งแรงปัดเส้นผมสีเข้มของเธอไปด้านหลัง เปิดเผยใบหน้าที่มีทั้งรอยช้ำ บวม และรอยขีดข่วนของหญิงสาว ดวงหน้าหล่อเหลาแบบร้ายกาจถึงขั้นดูดุดันมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นสภาพของเธออย่างถนัดตา
มธุรสาเองก็ไม่หลบหน้าเขา เธอปล่อยให้เขาสำรวจเธอตามสบาย หญิงสาวสบตากับเขานิ่งก่อนจะสะดุ้งน้อยๆ เมื่อเอียนใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์เริ่มทำความสะอาดแผลบนใบหน้าเธอเพราะความแสบที่ไม่ทันตั้งตัว และระหว่างนั้นเองมธุรสาก็ไม่อยากจะเสียเวลา หญิงสาวจึงเริ่มต้นพูดกับชายหนุ่มอีกครั้งด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่เต็มอก
“คุณสนใจจะซื้อฉันไหม ฉันจะขายตัวเองให้คุณ ฉันรู้ว่าคุณสนใจฉันอยู่ พอจะรับฉันไปเป็นผู้หญิงของคุณได้ไหม ยังไงมหาเศรษฐีอย่างพวกคุณก็ชอบซุกนางบำเรอเอาไว้อยู่แล้วนี่”
คำถามสั้นพวกนั้นครอบคลุมและได้ใจความโดยไม่จำเป็นต้องพูดมากนั้นทำให้เอียนชะงักมือไปนิด แล้วหญิงสาวก็เห็นเขาเหยียดยิ้มตรงมุมปากออกมา ดวงตาสีมรกตมองหญิงสาวตรงๆ ไม่มีหลบ คิ้วเข้มของเขาเลิกสูงขึ้นในยามที่ย้อนถามให้เธอสะอึกบ้างว่า
“อะไรทำให้คุณมั่นใจอย่างนั้นล่ะรสาว่าผมสนใจคุณน่ะ”
คำถามนั้นทำให้มธุรสาพูดอะไรไม่ออก วินาทีนั้นสีหน้าของเธอพลันเปลี่ยนเป็นอึ้งตะลึง ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นสิ้นหวัง ความเจ็บปวดและความขมขื่นลึกๆ ที่แผ่ออกมาจากตัวเธอทำให้หัวใจคนมองกระตุกวูบ
เอียนเหยียดยิ้มมากขึ้น ในขณะที่ให้ความสนใจในการทำความสะอาดบาดแผลของหญิงสาวมากกว่าด้วยการตอบอย่างเรียบง่ายว่า “แต่ก็เอาสิ ถ้าคุณจะขาย...ผมก็จะซื้อ แต่บอกไว้ก่อนว่าผมไม่ใช่คนที่คุณจะอยู่ด้วยได้ตลอดชีวิต อย่าคิดจะรักผม...ถ้าวันไหนผมรู้ ความสัมพันธ์ระหว่างเราก็สิ้นสุด”
ชายหนุ่มประกาศอย่างตรงไปตรงมา ผู้หญิงอย่างมธุรสาเขารู้ดีว่าเธอไม่ใช่คนที่จะมองหาความสัมพันธ์ฉาบฉวย ส่วนตัวเขาเองตอนนี้ไม่ใช่คนที่จะมองหาความสัมพันธ์จริงจัง
เขาอยากได้เธอ ชายหนุ่มยอมรับอย่างตรงไปตรงมา แม้เธอจะอยู่ในชุดเก่าปอนซอมซ่อ ท่าทางเรียบเฉยและแทบจะไม่สังเกตเห็นเขาเลยในตอนแรกนั้น แต่กลับปลุกความปรารถนาอันร้อนแรงของเขาขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ และการพบเธอแต่ละครั้งก็ยิ่งดึงดูดให้เขาเข้าหาเธอ แม้ว่าการพบกันอีกครั้งจะเป็นความทรงจำที่ออกจะตลกและน่าขายหน้า แต่วินาทีที่ฝ่ามือของเธอแตะต้องสัมผัสตัวเขา อารมณ์ทางเพศอันคุกรุ่นก็พลุ่งพล่านในตัวเขา ทั้งๆ ที่เขาควรจะเอาคืนเธอให้สมกับที่เธอกล้าทำร้ายร่างกายของเขา แต่เอียนกลับพบว่าเขานึกอยากกดร่างเธอลงกับเตียงและทำให้เธอร้องครวญครางใต้ร่างของเขามากกว่า
ทุกสิ่งที่เขารู้สึกกับเธอทั้งรุนแรง แปลกใหม่ เร้าใจ แต่เขาก็แค่อยาก...เธอแค่แปลกใหม่ น่าสนใจ แต่ไม่นานเขาก็จะเบื่อและทิ้งเธอเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นทุกคนในชีวิตที่ผ่านมาของเขา
ถ้ามธุรสาอยากขายตัวเองให้ เขาก็เอา ถ้าเธอเปลี่ยนใจตอนนี้เขาก็ไม่ว่า แต่หลังจากที่เธอตกลงกับเขาไปแล้วจะมาเปลี่ยนใจทีหลังก็เกรงว่าเขาจะไม่ยินยอม
เขาจะปล่อยเธอไปก็ต่อเมื่อเขาหมดสิ้นความสนใจในตัวเธอแล้วเท่านั้น!
“ฉันตกลง”
คำตอบอย่างหนักแน่นนั้นสร้างความประหลาดใจให้เขา ทว่าก็ทำให้เขาดีใจมากกว่า
“งั้นคุณต้องการอะไร”
เอียนถามหญิงสาวไปตามตรง ในเมื่อเธอคือสินค้าชิ้นหนึ่ง เธอขายเขาซื้อ รูปแบบการแลกเปลี่ยนย่อมไม่มีอะไรนอกเสียจาก ‘มูลค่า’ ที่เธอจะเสนอมาเท่านั้น
“ฉันต้องการเท่ากับราคาของบ้านตระกูลแมนนิ่งหลังนั้น”
เอียนเหยียดยิ้ม ราคาสูงเหมือนกันนี่
แต่สำหรับคนอย่างเอียน แอดดิสัน ความคุ้มค่าของสิ่งของคือความพอใจ ขอเพียงแค่เขาพอใจ ไม่ว่าจะราคาเท่าไรก็ไม่มีคำว่าแพงเกินไปอยู่ดี
“ฉันรู้ว่ามันสูงเกินไป” หญิงสาวอ่านความคิดของเขาออก เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ขณะที่เอ่ยต่อไปว่า “แต่ฉันจะพยายามทำทุกอย่างให้คุ้มกับเงินที่คุณเสียไป”
“…”
“ฉันจะเป็นของคุณ เป็นทาสที่ซื่อสัตย์สำหรับคุณ เป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณอยากจะให้เป็น คำสั่งของคุณจะเป็นประกาศิตสำหรับชีวิตฉัน จนกว่าคุณจะทิ้งฉันไป...ทุกอย่างขอเพียงคุณต้องการฉันทำให้ได้ทั้งหมด”
“มั่นใจจริงๆ นะรสาว่าคุณทำได้อย่างที่พูด”
เอียน แอดดิสันอดที่จะทักท้วงไม่ได้ น่าสนใจดีนี่... เธอคิดว่าตัวเองเป็นหุ่นยนต์แอนดรอยด์หรือถึงได้มั่นอกมั่นใจเพียงนั้นว่าจะทำตามที่เขาต้องการได้ทั้งหมด
“ฉันคิดว่าฉันเรียนรู้ได้” หญิงสาวตอบอย่างตรงไปตรงมา
และเอียนชอบความตรงไปตรงมานี้ของเธอ
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนต่อหน้าหญิงสาว ร่างสูงใหญ่นั้นข่มให้เธอดูตัวเล็กลง เหมือนสัตว์ตัวเล็กๆ ที่ไร้ที่พึ่งเสียจนวิ่งเข้ามาอยู่ภายใต้ร่มเงาของสัตว์ใหญ่
แต่กลับลืมตระหนักไปว่าสัตว์ใหญ่ที่เธอเลือกนั้นเป็นนักล่าที่ไม่เคยปล่อยให้เหยื่อของตัวเองหลุดมือไปมาก่อน ฉายาเจ้าชายจอมโหดของเขาไม่ได้มีคนตั้งให้เล่นๆ อันที่จริงเขาชอบที่ใครๆ เรียกเขาว่าเป็นจอมมารมากกว่า เสียแต่ว่าพวกสื่อที่ตั้งฉายาให้พวกเขาพี่น้องนั้นกลับคิดว่าใช้คำว่าเจ้าชายนั้นดูดี ถึงได้เรียกพวกเขาพี่น้องแอดดิสันอย่างนั้น
ซึ่งมันน่ารำคาญ...
“ตกลง” เอียนตอบรับในที่สุด “งั้นเริ่มตั้งแต่วันนี้เลยเป็นยังไง”
“ขอบคุณค่ะ”
มธุรสาเอ่ยเสียงแผ่ว หญิงสาวเหยียดยิ้มออกมาหวานหยดทว่ารอยยิ้มเหล่านั้นกลับไม่ถึงดวงตาของเธอแม้แต่น้อย เอียนมองท่าทีสงบนิ่งของหญิงสาวแล้วก็คิดได้ขึ้นมาคำหนึ่ง
ท่าทางของมธุรสานั้นเหมือนคนไร้หัวใจ...
เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอปฏิบัตินั้นเหมือนกับไม่มีความหมายสำหรับเธอเลยแม้แต่น้อย ท่าทีเยือกเย็นสงบนิ่งที่รับมือกับทุกอย่างได้นั้นชวนให้รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
‘ไร้หัวใจ...แต่คงไม่ไร้ความรู้สึกหรอก’
เขาอยากจะรู้ว่ายามที่เธออยู่บนเตียงกับเขา ตอนที่เขาอยู่ในร่างกายของเธอและควบขับพาเธอทะยานสู่ความสุขสมนั้น เธอจะยังคงท่าทีสงบเยือกเย็นเช่นนี้ได้อยู่หรือเปล่า!
“งั้นวันนี้คุณก็อยู่ที่นี่ไปก่อน ผมจะให้คนขึ้นมาจัดเตรียมห้องพักของคุณ พอผมกลับมาจากทำงานแล้วเราจะคุยรายละเอียดอื่นๆ กันต่อ และผมจะได้เอาเช็ค ‘ค่าตัว’ ให้คุณด้วย”
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย และมธุรสาก็พยักหน้ารับ
ตอนนี้เธอไม่มีที่ไป ทั้งเนื้อทั้งตัวนอกจากเสื้อผ้าที่สวมใส่เธอไม่มีสิ่งของมีค่าอื่นใดในตัวเองเลย
เอียนพยักหน้ารับอย่างพึงพอใจ เขายกมือขึ้นแตะแก้มหญิงสาวแผ่วเบา
“ดีมากทูนหัว คุณเริ่มทำตามที่โฆษณาขายตัวเองได้ดีจริงๆ” เขาทั้งชื่นชมและเหน็บแนมเธอไปในคราวเดียวกัน ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องหนึ่ง และเมื่อออกมาอีกครั้งเอียนก็มีสูทตัวนอกตัวใหม่สวมใส่แล้ว
มหาเศรษฐีหนุ่มโบกมือให้เธอเป็นเชิงอำลา แล้วเดินจากไป ทิ้งให้มธุรสาอยู่ภายในห้องเพียงลำพัง
และเมื่อเขาจากไปแล้วหญิงสาวถึงได้ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างคนอ่อนแรง แล้วน้ำตาที่เธอไม่อาจห้ามเอาไว้ได้ก็รินไหลลงมาจากดวงตาของเธออย่างเงียบงัน
‘แม่ขา...รสาขอโทษ...
รสาไม่ได้อยากทำอย่างนี้...แต่รสาเหนื่อยแล้ว...รสาเหนื่อยมากจริงๆ...
บุญคุณของพวกเขามันมากเกินไปจนรสาไม่อาจทนชดใช้ให้ได้อีกแล้ว...มันมากเกินไปจริงๆ...
ถ้ารสาจะถูกบังคับให้ทำอย่างนี้ สู้รสาเลือกทำด้วยตัวเอง เพื่อแลกกับอิสรภาพของรสาดีกว่า...’