ตอนที่ 10
บางอย่างเริ่มก่อตัว
เช้าวันพุธพิมพ์พลอยตื่นแต่เช้าด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเพราะวันนี้หญิงสาวจะเข้าไปทำธุระในเมืองกับนายหัวธนธรรศซึ่งเป็นครั้งแรกที่จะไปกับเขา หญิงสาวบอกเรื่องนี้กับน้าอัมพรแล้วและน้าสาวของเธอก็เห็นด้วยที่เธอจะไปกับนายหัวเราะเพราะอย่างน้อยก็มีคนไปเป็นเพื่อนระหว่างเดินทาง
พอถึงเวลานัดรถกระบะคันคุ้นตาก็ขับมาจอดเทียบหน้าร้าน นายหัวธนธรรศก้าวลงจากรถด้วยชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงยีนและรองเท้าผ้าใบซึ่งวันนี้เขาดูต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมาเธอเห็นแต่เขาสวมเสื้อสีเข้มหรือไม่ก็เสื้อลายตารางหมากรุก
“สวัสดีครับพลอย พร้อมไหม” เขาทักทายด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
“สวัสดีค่ะนายหัว พลอยพร้อมแล้วค่ะ” พิมพ์พลอยยิ้มตอบวันนี้หญิงสาวสวมเสื้อเชิ้ตแขนกุดกับกางเกงผ้าขายาวสีเบจ ดูทะมัดทะแมงแต่ก็ยังคงความน่ารัก
“ไปกันเลยไหมครับ” นายหัวธนธรรศผายมือเชื้อเชิญให้พิมพ์พลอยขึ้นรถ เมื่อก้าวขึ้นไปนั่งข้างเขาแล้วก็ได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ลอยมาแตะจมูกทำให้เธอรู้สึกใจเต้นแรง
พวกเขาเริ่มต้นวันด้วยการแวะทานข้าวเช้าที่ร้านโรตีชื่อดังในตัวอำเภออ่าวลึก นายหัวธนธรรศสั่งโรตีแกงเนื้อให้พิมพ์พลอยลองชิม ซึ่งเป็นเมนูที่เธอไม่เคยกินมาก่อน
“อร่อยไหมครับ” เขาถามพิมพ์พลอยที่กำลังเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย
“อร่อยมากเลยค่ะนายหัว พลอยไม่เคยกินโรตีแกงเนื้อเลยค่ะ ปกติพลอยกินแต่โรตีธรรมดาค่ะ” พิมพ์พลอยตอบด้วยรอยยิ้มกว้าง แววตาเป็นประกายด้วยความสุข
“ถ้าอย่างนั้น วันหลังผมจะพาพลอยไปลองอะไรอร่อยๆ อีกเยอะเลย” เขาเอ่ยชวนด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหมาย ทำให้หญิงสาวรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า
“ยินดีเลยค่ะ เรื่องกินพลอยก็สู้ไม่ถอยเหมือนกันค่ะ”
หลังจากทานอาหารเช้าจนอิ่มแล้วทั้งคู่ก็มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองกระบี่ นายหัวธนธรรศพาพิมพ์พลอยไปที่ร้านขายปุ๋ยขนาดใหญ่ก่อนเป็นอันดับแรก เขาใช้เวลาไม่นานในการพูดคุยกับเจ้าของร้านและสั่งสินค้าล็อตใหญ่ หญิงสาวยืนมองเขาพูดคุยด้วยท่าทางจริงจังซึ่งเธอไม่เคยเห็นเวลาเขาทำงานมาก่อน เขาจัดการทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วและครบถ้วนในเวลาไม่นาน
“เสร็จแล้วพลอย ต่อไปจะไปร้านค้าส่งที่คุณอยากไปใช่ไหมครับ” นายหัวธนธรรศหันมาถามระหว่างพากันเดินกลับไปที่รถ
“ใช่ค่ะ”
“พลอยจะไปร้านไหนบ้างครับ”
หญิงสาวบอกชื่อร้านที่เธอต้องไปติดต่อให้กับนายหัวธนธรรศจากนั้นเขาก็พาเธอไปตามร้านที่เธอบอก
นายหัวหนุ่มพาพิมพ์พลอยไปยังร้านค้าส่งขนาดใหญ่ที่เธอต้องการ หญิงสาวใช้เวลาเลือกสินค้าที่จะเอาไปวางขายอย่างละเอียดโดยมีนายหัวธนธรรศเดินตามเธอไปเงียบๆ
บางครั้งเขาก็คอยช่วยเธอหยิบของที่อยู่สูงเกินเอื้อมและช่วยเข็นรถเข็นให้ ท่าทางของเขาดูไม่เบื่อที่จะต้องเดินตามและยังเสนอความคิดเห็นกับสินค้าบางตัว มันเลยทำให้พิมพ์พลอยรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก
“วันนี้พลอยทำธุระเสร็จเร็วกว่าที่คิดต้องขอบคุณนายหัวนะคะที่ช่วยพลอยตัดสินใจในบางเรื่องเพราะบางทีพลอยมาคนเดียวก็ตัดสินใจยากค่ะ”
“พุธหน้าผมจะมาช่วยเลือกอีกดีไหมคะ”
“ถ้าเป็นพุธหน้าพลอยคงไม่ต้องเข้ามาแล้วค่ะ เพราะคิดว่าได้ของที่ต้องการครบแล้วที่เหลือก็แค่โทรสั่งให้เขาเอาไปส่งหรือไม่ก็ใช่บริการขนส่งค่ะ”
“ถ้าไม่ต้องซื้อของก็มีเวลาทำอย่างอื่น” นายหัวธนธรรศพูดแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
“ทำอย่างอื่นเหรอคะ นายหัวหมายถึงอะไร” พิมพ์พลอยเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“เราจะได้เที่ยวด้วยกันไงครับ ตั้งแต่กลับมาได้ไปเที่ยวที่ไหนบ้างหรือยังล่ะ”
“ก็มีบ้างคะ”
“เรื่องเที่ยวคงต้องคิดว่าจะไปไหนแต่วันนี้เรา ไปดูหนังกันไหมครับ” เขาเอ่ยชวนอย่างกะทันหัน ทำให้พิมพ์พลอยถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย
“พลอยไม่ได้ดูหนังมานานแล้วเหมือนกันค่ะ นายหัวไม่รับกลับใช่ไหมคะ”
“ไม่ครับวันนี้ผมว่างทั้งวัน พลอยเองก็ทำงานมาตลอดผมว่าเป็นการพักผ่อนนะครับ” นายหัวธนธรรศยังคงคะยั้นคะยอ น้ำเสียงของเขาไม่ใช่การบังคับแต่เป็นการขอที่ฟังแล้วต้องยอมตามใจ
“ถ้างั้นก็ตกลงค่ะ” พิมพ์พลอยตอบตกลงในที่สุด รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้า
หลังจากดูหนังจบนายหัวธนธรรศก็ชวนพิมพ์พลอยไปนั่งดื่มที่ร้านอาหารริมทะเลแห่งหนึ่งในตัวเมือง
บรรยากาศของร้านโรแมนติกมาก มีแสงไฟสลัวๆ และเสียงคลื่นซัดสาดเข้าฝั่งเบาๆ ทั้งคู่สั่งอาหารทะเลมาทาน พร้อมกับเครื่องดื่มเบาๆ
“พลอยดูเครียดๆ นะครับ” นายหัวธนธรรศเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นพิมพ์พลอยนั่งเหม่อมองออกไปนอกทะเล แววตาของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใย
“พลอยเห็นทะเลแล้วทำให้คิดถึงเรื่องเก่าค่ะ”
“เรื่องที่บอกจะเล่าให้ผมฟังใช่ไหม วันนี้พร้อมจะเล่าไหม” นายหัวหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น เขายื่นมือมาวางบนหลังมือของพิมพ์พลอยทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ดึงมือออกไป
สัมผัสที่อ่อนโยนของเขาทำให้พิมพ์พลอยรู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลาด เธอตัดสินใจที่จะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟัง ตั้งแต่เรื่องที่จับได้ว่าชลวิทย์นอกใจไปกับกัญญาวีร์เพื่อนสนิทของเธอ ความเจ็บปวดที่เธอต้องเผชิญ การตัดสินใจลาออกจากงาน และการกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อ่าวลึก
ขณะเล่าพิมพ์พลอยก็รู้สึกเหมือนมีก้อนสะอื้นจุกอยู่ที่ลำคอตันนี้เธอไม่ได้ร้องไห้อีกต่อไปแล้ว การเล่าออกมามันทำให้เธอสบายใจขึ้นมาก ราวกับว่ากำแพงในใจที่เธอก่อขึ้นมาเริ่มพังทลายลงทีละน้อยเมื่อนายหัวธนธรรศรับฟังอย่างตั้งใจเขาไม่พูดแทรกและไม่ตัดสินเพียงแค่บีบมือของเธอเพื่อปลอบโยน
“ตอนนั้นพลอยเสียใจมากเสียใจที่สุดใน ไม่คิดเลยว่าคนที่พลอยรักและไว้ใจที่สุดจะทำกับพลอยได้ลงคอ”
นายหัวธนธรรศเงียบไปครู่หนึ่ง เขามองพิมพ์พลอยด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเห็นใจ ความรู้สึกบางอย่างที่มากกว่าความสงสารเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของเขา
“แต่พลอยก็เข้มแข็งมากนะครับที่ผ่านเรื่องราวแบบนั้นมาได้คนอย่างพวกนั้นไม่คู่ควรกับความรักของคุณพิมพ์พลอยหรอกครับ”
คำพูดของเขาทำให้พิมพ์พลอยรู้สึกเหมือนมีใครบางคนเข้าใจเธออย่างแท้จริง ความใกล้ชิดและการระบายความในใจทำให้หญิงสาวรู้สึกสบายใจมากรู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อยภาระหนักอึ้งที่แบกไว้ในใจมานานแสนนาน
ทั้งสองคนนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ แลกเปลี่ยนเรื่องราวในชีวิตให้กันฟังมากขึ้น พิมพ์พลอยเริ่มเห็นอีกมุมหนึ่งของนายหัวธนธรรศ เขาไม่ได้มีแค่การทำงานอย่างจริงจังและดูมีอำนาจแต่เขายังมีด้านที่อ่อนโยนอบอุ่นและเข้าใจผู้อื่น ส่วนนายหัวธนธรรศเองก็เห็นถึงความเข้มแข็งภายใต้ความบอบบางของพิมพ์พลอย
เมื่อเวลาผ่านไปจนดึก ทั้งคู่ก็ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น ความรู้สึกบางอย่างที่มองไม่เห็นเริ่มก่อตัวขึ้นระหว่างพวกเขา มันเป็นความรู้สึกที่ละเอียดอ่อน แต่ก็รุนแรงพอที่จะทำให้หัวใจของทั้งคู่เต้นไม่เป็นจังหวะ ทุกครั้งที่สายตาของทั้งคู่สบกัน ก็เหมือนมีกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ แล่นผ่านร่างกาย บรรยากาศรอบตัวเริ่มอบอวลไปด้วยความรู้สึกที่มากกว่าคำว่าเพื่อนหรือคนรู้จัก"
พิมพ์พลอยรู้ดีว่าเธอกำลังก้าวข้ามเส้นบางๆ ที่เคยวางไว้ และนายหัวธนธรรศก็เช่นกัน