บทที่ 6 เจอหน้าแม่สามี6/3

915 คำ
“ที่ฉันทำเพราะฉันหวังดี อยากให้แกได้คนดีๆ ที่เชิดหน้าชูตาอยู่เคียงข้างกับแกได้อย่างเหมาะสมคู่ควรต่างหาก ไม่ใช่เอาลูกตาสีตาสาที่ไหนก็ไม่รู้มาชุบตัวให้คนอื่นเขานินทากันสนุกปาก สร้างความอับอายขายขี้หน้าเขาไปทั่ว” “ใครอยากจะพูดก็พูดไปสิครับ ผมไม่แคร์” “แต่ฉันแคร์!” เนื้อทองแผดเสียงสวน “แกเป็นถึงผู้บริหารระดับสูง ควรจะมีคู่ครองที่ช่วยส่งเสริมแกได้ คนอื่นที่เขามองมาจะได้เห็นว่าแกดูภูมิฐานน่าเชื่อถือสมกับตำแหน่งผู้บริหาร” “ข้อนี้พ่อเห็นด้วยกับแม่แก แกเป็นผู้บริหารสูงสุดของพลัส กรุ๊ป เป็นแบบอย่างและหน้าตาของบริษัทและตระกูลเรา ศัตรูในที่ลับและทุกคนต่างก็จับจ้องแกอยู่ เพราะฉะนั้นแกจะต้องสมบูรณ์แบบที่สุด ห้ามมีจุดด่างหรือข้อผิดพลาดให้ศัตรูรวมถึงใครก็ตามใช้เป็นช่องโหว่เล่นงานแกได้” พูดสั้นๆ ก็คือบิดาคิดว่าแสนคะนึงเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ความสมบูรณ์ในตัวเขามีจุดด่างพร้อย! แทนชนม์ไม่ค่อยเห็นด้วยกับพวกท่านนัก เขาคิดกลับกันเลยว่าเป็นเพราะเธอเดินเข้ามาในชีวิตของเขาต่างหาก โลกหม่นๆ ของเขาจึงพลันพลันสว่างไสว เขาไม่ใช่ผู้ชายที่ดีพร้อมสำหรับสาวๆ ในฝัน เขาเป็นแค่คนนิสัยแย่คนหนึ่ง ทั้งใจร้อน โมโหร้าย ชอบโวยวาย มีความงี่เง่าเห็นแก่ตัวเต็มเปี่ยม หลายครั้งที่เขาต้องทนรับแรงกดดันจากภายนอก รวมถึงบุพการีที่กะเกณฑ์ตีกรอบให้เขาด้วยคำว่า ‘รักและหวังดี’ แทนชนม์ก็นึกอยากจะแหกคอกให้พังพินาศกันไปข้าง แต่พอมีแสนคะนึงเข้ามา ได้นอนหนุนตักเธอ จูบมือนุ่มของเธอ มองดูรอยยิ้มอ่อนโยนและแววตาที่เชื่อมันในตัวเขา ขณะที่เธอลูบผมเขาเล่นแผ่วเบา แทนชนม์ก็เกิดฮึดมีแรงกายแรงใจที่จะสู้ต่อ แสนคะนึงทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองมีค่า… เขาชอบช่วงเวลาที่ได้อยู่กับเธอ ชอบตัวตนแท้จริงและแตกต่าง ไม่ต้องสวมหัวโขน ไม่ต้องทำตามความต้องการของใคร เขาสามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ต่อหน้าแสนคะนึง เธอรับเขาได้ทุกอย่างทั้งข้อดีและข้อเสีย โอบกอดเขาไว้ด้วยสองมือเล็กๆ แต่โคตรอบอุ่น แรงหนุนหลังเงียบๆ ของเธอผลักดันให้เขาอยากเป็นคนที่ดีมากขึ้นกว่าเดิม คำพูดปลอบโยนทำให้เขาแข็งแกร่ง จนกลายเป็นเขาที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดในแบบทุกวันนี้ แสนคะนึงจึงไม่ใช่จุดด่างพร้อย แต่เป็นคนสำคัญที่เขาจะขาดไม่ได้! “ผมไม่เถียงครับว่าสิ่งที่คุณพ่อพูดมาถูกต้อง แต่บางครั้งความเหมาะสมก็ไม่ได้การันตีว่าชีวิตคู่จะไปกันรอดได้เสมอไป ความรักความเข้าใจและรู้จักเรียนรู้ที่จะให้อภัยกันต่างหาก ที่จะทำให้ครอบครัวยืนยาวและมีความสุข ผมคิดว่ารัญชน์เองก็คงเข้าใจเรื่องนี้ได้ดีพอๆ กับผม เพราะถึงเราจะเหมาะสมกันมากแค่ไหน แต่สุดท้ายเราก็ไปกันไม่รอดอยู่ดี” รัญชนาหน้าชาก่อนจะเจื่อนลงทันตา มือหล่อนกำแน่นอยู่ใต้โต๊ะเมื่อถูกเขายอกย้อนอย่างเจ็บแสบ แต่ดวงตากลับเอ่อคลอด้วยความเสียใจ หันไปสบตาเนื้อทองราวกับขอร้องความเห็นใจ เพราะรู้อยู่แล้วว่าอย่างไรนางก็จะช่วยออกหน้าแทนหล่อน “ตาแทน! แกอย่ามาทำตัวดื้อแพ่งขวางโลกไม่เข้าเรื่อง สมัยนี้ไม่มีใครเขาแต่งงานกันเพราะความรักอย่างเดียวหรอก มันต้องมีความพร้อมและความเหมาะสมควบคู่กันไปด้วย แกควรจะเลือกคนที่ช่วยส่งเสริมทำให้แกเจริญก้าวหน้ามากกว่าคนที่มีแต่ตัว แค่ความรักไม่ได้ช่วยทำให้แกอิ่มท้องหรือมีชีวิตที่สุขสบายเหมือนทุกวันนี้หรอกนะ มันหมดยุคที่จะกัดก้อนเกลือกินไปนานแล้ว” “ถึงคุณแม่จะพูดยังไง ผมก็ยังยืนยันคำเดิมว่าผมแต่งงานแล้วและไม่คิดที่จะหย่า ผมเชื่อในมันสมอง สองมือและความสามารถของตัวเอง ไม่จำเป็นจะต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่พ่วงนามสกุลดัง เพื่อช่วยพยุงบริษัทหรอกครับ ผมอยากแต่งงานกับคนที่ผมรักและอยากจะอยู่กับเธอไปชั่วชีวิต ผู้หญิงคนนั้นก็คือ ‘หนึ่ง’ เมียผม” “ตาแทน!!! นี่แกจะรั้นไม่ฟังแม่คนนี้แล้วใช่มั้ย แค่บอกให้แกแต่งงานสร้างครอบครัวกับผู้หญิงดีๆ อย่างหนูรัญชน์ มันจะอะไรกันนักหนา ที่ฉันพูดมีแต่ผลดีสำหรับตัวแกเองทั้งนั้นนะ” “ดีสำหรับผม หรือดีที่ทำให้คุณแม่พอใจกันแน่ครับ” “เอ๊ะ! แกจะเรื่องมากทำไม จะดีกับใครก็เป็นคนในครอบครัวเดียวกันทั้งนั้นแหละ” แทนชนม์ยิ้มเยาะ ท่านไม่เคยสนใจความรู้สึกของเขาเลย ไม่เคยเลยจริงๆ ท่านรู้แต่ว่าใครก็ห้ามขัดใจท่านทั้งนั้น! ป่วยการที่จะพูดในเมื่อท่านไม่เคยคิดที่จะฟัง... “ผมขอตัวก่อนนะครับ ยังมีงานค้างที่บริษัทอยู่หลายเรื่อง” ชายหนุ่มลุกขึ้นหันหลังเดินจากไป ท่ามกลางน้ำเสียงฉุนเฉียวของมารดาที่ดังแผดก้องไปทั่วทั้งห้องว่า “แกจะไปไหนไม่ได้! มาพูดกับแม่ให้รู้เรื่องก่อน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม